หลังทำผลงานในสนามได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ แทมมี่ อับราฮัม กองหน้าเลือดผู้ดีของ เชลซี สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้รับการต่อสัญญากับต้นสังกัดออกไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนปี 2023 เป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
เดิมที อับราฮัม มีสัญญาค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึงปี 2022 แต่ล่าสุดเจ้าตัวได้รับการขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี เรียบร้อย หลังทำผลงานได้ตามเงื่อนไขอย่างน้อย 15 ประตู ซึ่งฤดูกาลนี้เจ้าตัวกดไปแล้ว 16 ประตู จากการลงเล่นให้ "สิงห์บลูส์" รวมทุกรายการ 40 นัด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน หัวหอกทีมชาติอังกฤษวัย 22 ปี รับค่าเหนื่อยอยู่แค่สัปดาห์ละ 50,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.95 ล้านบาท) เท่านั้น ซึ่งเอเจนต์ของเจ้าตัวก็กำลังทำงานอย่างหนักที่จะให้นักเตะได้สัญญาฉบับใหม่ พร้อมอัพค่าเหนื่อย ซึ่งถ้าตกลงกันได้ อับราฮัม น่าจะได้รับค่าเหนื่อยในระดับเดียวกับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และ รีส เจมส์ royalstoneind.com ที่รับสัปดาห์ละ 100,000-120,000 ปอนด์ (ประมาณ 3.9-4.68 ล้านบาท)แน่นอนว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือคนหนุ่มไฟแรง อยากได้ขุมกำลังในเชิงลึกที่แข็งแกร่ง เพื่อขับเคี่ยวกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล, "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้, "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล และ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/2021สำหรับตอนนี้ "แลมพ์ส" มีขุมกำลังพรสวรรค์สูงผสมกับบรรดาดาวรุ่งพุ่งแรง และหากทีมได้แนวรับแกร่งอย่าง เดแคลน ไรซ์ มายืนเป็นเซนเตอร์แบ็ก และแบ็กซ้ายชั้นยอดอย่าง เบน ชิลเวลล์ มาเสริมทัพ คงจะทำให้ เชลซี เป็นทีมที่น่าจับตามองอย่างมากในซีซั่นหน้า
ให้ทำหน้าที่เป็นมือ 1 ของสโมสรต่อไป ในขณะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญของทีม นอกจากนี้ รีซ เจมส์ มีโอกาสเฉิดฉายในสีเสื้อ "สิงโตน้ำเงินคราม" โดยเขาได้ลงเล่นตัวจริงให้กับต้นสังกัดไปแล้ว 9 เกมจาก 14 แมตช์หลังสุดในพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ แลมพาร์ด
ยังพยายามที่จะหาแบ็กซ้ายตัวใหม่เข้ามา เนื่องจากเขาไม่วางใจ มาร์กอส อลอนโซ่ ขณะที่ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ มีแววจะย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุสลูกาส์ ดีญ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีข่าวกับ เชลซี แต่ดูเหมือนว่าตัวเลือกแรกสำหรับ แลมพาร์ดก็คือ เบน ชิลเวลล์ ฟูลแบ็ก "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ ในขณะที่ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก เคิร์ก ซูม่า ซึ่งทำผลงานได้น่าประทับใจในฤดูกาลนี้ จะได้ยืนเป็นตัวหลักแลมพาร์ด แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยังคงเป็นตัวหลักในแผงกองกลาง แม้ว่า บิลลี่ กิลมอร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งร่างเล็ก กำลังพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม ในขณะที่ จอร์จินโญ่ มีแววว่าอาจจะโบกมือลาถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เนื่องจาก "แลมพ์ส" ใช้งานเขาเพียงแค่ 10 นาทีนับตั้งแต่ที่เกมพรีเมียร์ลีก รีสตาร์ทในส่วนของมิดฟิลด์ฝั่งซ้าย เมสัน เมาท์ ซึ่งได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในเกมลีกมากกว่านักเตะคนอื่นๆ ของทัพ "สิงห์บลูส์" ในฤดูกาลนี้ ยังคงเป็นตัวหลักของทีมต่อไป ด้าน รอสส์ บาร์คลี่ย์ ในช่วงแรกๆ มีโอกาสที่จะได้ขึ้นมาเป็นตัวหลัก แต่ดูเหมือนโอกาสของเขาน่าจะเลือนลางหลังจากที่ทีมมีข่าวว่าจะดึง ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางดาวรุ่งจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาเสริมแกร่งในช่วงซัมเมอร์นี้
ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ดาวเตะทีมชาติเยอรมนี วัย 21 ปี ถือเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ตัวรุกที่สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้สูงมากๆ ในยุโรป และยังสามารถสร้างความแตกต่างให้กับการเล่นของ เชลซี ในช่วงที่ยากลำบาก ด้วยการปั่นเกมเพื่อสร้างโอกาสในการทำประตู