ปุ๋ยเปลือกไข่

ปุ๋ยเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยบำรุงรักษาต้นไม้เพื่อให้เจริญเติบโตและสมบูรณ์ ในหนึ่งวันพืชต้องการสารอาหารเช่นเดียวกับมนุษย์ ปัจจัยนั้นก็คือ ปุ๋ย เกษตรกรทั่วไปเลือกใช้ปุ๋ยเคมีเป็นหลัก ซึ่งส่งผลต่อดินจับตัวกันเป็นก้อน ระบายน้ำไม่ดี ปริมาณจุลินทรีย์ และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในดินลดลง เช่น ไส้เดือน และเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

เนื่องจากไข่ให้สารอาหารประเภทโปรตีน เช่นเดียวกับเนื้อสัตว์ ไข่จึงเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารของทุกครัวเรือน แต่ละครัวเรือนมีการใช้ไข่เป็นจำนวนหลายร้อยฟองต่อเดือน ทำให้มีปริมาณเปลือกไข่ที่เหลือทิ้งจำนวนมาก เป็นการทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งเปลือกไข่มีสารประกอบอินทรีย์ เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต 95% อีก 5% เป็นแร่อื่นๆ ผสมกัน เช่น แคลเซียมฟอสเฟต แมกนีเซียมคาร์บอเนต และโปรตีน แร่ธาตุเหล่านี้สามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้หรือผักสวนครัวได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อดิน ซึ่งจะทำให้ไม่เสียประสิทธิภาพของดิน คณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะนำเปลือกไข่เหลือทิ้งมาทำเป็นปุ๋ยให้เกิดประโยชน์ 

จากการศึกษาการทำปุ๋ยเปลือกไข่และทดลองนำไปใช้เป็นปุ๋ยบำรุงผักสวนครัวที่หมู่บ้านเพรชโสธร สรุปผลการศึกษา ดังนี้

      สามารถผลิตปุ๋ยจากเปลือกไข่ได้ผลิตภัณฑ์ 6 ถุง ถุงละ 760 กรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 4.5 กิโลกรัม เป็นการนำเปลือกไข่ที่เป็นขยะเหลือทิ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทำให้ขยะเปียกจากเปลือกไข่ในหมู่บ้านเพรชโสธรและวงศ์ปรีชาลดลง  จากการทดลองนำไปใช้บำรุงผักสวนครัว ได้แก่ พริกชี้ฟ้า กะเพรา โหระพา พบว่าพืชผักเจริญเติบโต สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งปุ๋ยจากเปลือกไข่สามารถเป็นทางเลือกทดแทนในการใช้ปุ๋ยเคมี 

1. ควรลองปรับสูตรหรือเปลี่ยนรูปแบบในการทำปุ๋ย เช่น ปุ๋ยจากเปลือกไข่ธรรมชาติ ไม่เติมสารใดๆ  ปุ๋ยจากเปลือกไข่ที่ใส่สารอื่นเพิ่มเติม  น้ำหมักจุลินทรีย์จากน้ำซาวข้าวกับเปลือกไข่ เป็นต้น

2. ควรนำเปลือกไข่ชนิดอื่นๆ มาทำปุ๋ย เช่น เปลือกไข่นกกระทา ไข่เป็ด

3. ศึกษาประสิทธิภาพของปุ๋ยจากเปลือกไข่ต่อการบำรุงพืชในระยะต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบว่าการบำรุงด้วยปุ๋ยที่ระยะใด ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีที่สุด