การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมตามกำของเมนเดล (Mendelian genetics)
การทดลองของเมลเดล
เมลเดลได้เลือกถั่วลันเตา (Garden pea) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pisum sativum มาใช้ในการทดลอง เพราะพืชชนิดนี้มีข้อดีหลายอย่างได้แก่ หาง่าย ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย โตเร็ว มีความต้านทานโรคสูง ให้ลูกมาก วงจรชีวิตสั้น มีลักษณะแตกต่างกันหลายลักษณะโดยเมลเดลเลือกศึกษาเฉพาะลักษณะที่สังเกตได้ง่าย
นอกจากนี้ถั่วลันเตายังเป็นดอกสมบูรณ์เพศ คือ มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ภายในดอกเดียวกัน มีกลีบดอกที่ปกปิดมิดชิดมิให้ละอองเรณูจากดอกอื่นเข้ามาผสมกับเซลล์ไข่ ดังนั้นในธรรมชาติ ถั่วลันเตาจึงเป็นพืชที่ผสมตัวเองหรือมีการถ่ายละออกเรณูภายในดอกเดียวกัน (self-fertilization หรือ self-pollination) ได้ง่าย
ในการทดลองเมลเดลเลือกศึกษาลักษณะต่างๆ ของถั่วลันเตาที่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งหมด 7 ลักษณะ ดังภาพ (ด้านล่าง)
ในการทดลองของเมลเดลศึกษาลักษณะต่างๆ ของถั่วลันเตา โดยการผสมลักษณะเดียว (monohybrid cross) ที่ละลักษณะจนครบทั้ง 7 ลักษณะ แล้วจึงค่อยศึกษา 2 ลักษณะ (ผสม 2 ลักษณะพร้อมกัน) จนค้นพบกฎการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมขึ้น 2 กฎ คือ
1. กฎการแยก (Law of segregation)
2. การผสมทีละลักษณะ (Monohybrid cross)