1.สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล เป็นเงินที่ทางราชการช่วยเหลือเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสำหรับตัวผู้มีสิทธิ์เอง(ลูกจ้างประจำ) และบุคคลในครอบครัว ได้แก่ บุตร คู่สมรส บิดา มารดา เมื่อพ้นจากราชการไปกฎหมายให้สิทธิ์เฉพาะผู้ได้รับบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเท่านั้น(เฉพาะข้าราชการ)ที่เกิดสิทธิ์ตามระเบียบและหลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล"แต่หากเป็นลูกจ้างประจำที่เกษียณอายุราชการ(บำเหน็จรายเดือนมิใช่รับบำนาญ)ไม่จัดว่าเป็นผู้รับบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยสวัสดิการเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล ดังนั้นจึงทำให้ลูกจ้างประจำซึ่งเดิมทีเป็นผู้มีสิทธิ์เบิกสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลสำหรับตนเองและบุคคลในครอบครัวได้เมื่อเป็นผู้เกษียณอายุราชการและเป็นผู้รับบำเหน็จรายเดือนจึงทำให้สิทธิ์นี้เสียไป" แต่ก็สามารถใช้สิทธิ์เข้ารักษาพยาบาล ของสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สป.สช.) ในฐานะเหมือนประชาชนทั่วไปได้ แต่หากมีคู่สมรสเป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือผู้รับบำนาญ ก็เปลี่ยนไปใช้สิทธิ์ในฐานะบุคคลในครอบครัวของคู่สมรสได้ โดยไปติดต่อขอเปลี่ยนแปลงผู้ใช้สิทธิ์ที่ส่วนราชการผู้เบิกนั้น ๆ
2.สวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร เป็นเงินที่ทางราชการช่วยเหลือเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการศึกษาสำหรับบุตรข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือผู้ได้รับบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการเท่านั้น จึงจะเกิดสิทธิ์ตามระเบียบและหลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตร แต่หากเป็นลูกจ้างประจำที่เกษียณอายุราชการ(รับบำเหน็จรายเดือนมิใช่รับบำนาญ) ไม่จัดว่าเป็นผู้รับบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตร ดังนั้นจึงทำให้ลูกจ้างประจำซึ่งเดิมทีเป็นผู้มีสิทธิ์เบิกสวัสดิการการศึกษาบุตรได้ เมื่อเป็นผู้เกษียณอายุราชการและเป็นผู้รับบำเหน็จรายเดือนจึงทำให้สิทธิ์นี้เสียไป
แต่หากมีคู่สมรสเป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือเป็นผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ ก็สามารถเปลี่ยนสิทธิ์การเบิกค่าการศึกษาบุตรให้กับคู่สมรสได้ โดยไปติดต่อขอเปลี่ยนแปลงผู้ใช้สิทธิ์ที่ส่วนราชการผู้เบิกนั้น ๆ