บำเหน็จบำนาญข้าราชการ

หลักเกณฑ์วิธีการ

1. บำนาญ คือ เงินที่จ่ายให้สมาชิกเป็นรายเดือน เมื่อออกจากราชการ

มีเวลาราชการตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับบำนาญ เงินชดเชย และผลกระโยชน์ตอนแทน เว้นแต่เลือกรับบำเหน็จแทน

(เงินประเดิม ต้องเป็นข้าราชการอยู่ก่อนวันที่บทบัญญัติแห่งหมวด 3 ใช้บังคับ)

เงินบำนาญ = (อัตราเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย x เวลาราชการ)/50

* ต้องไม่เกิน ร้อยละ 70 ของอัตราเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย

2. บำเหน็จ คือ เงินที่จ่ายให้สมาชิกโดยจ่ายให้ครั้งเดียว เมื่อออกจากราชการ

มีเวลาราชการตั้งแต่ 10 ขึ้นไป แต่ไม่ถึง 25 ปี

เงินบำเหน็จ = อัตราเงินเดือนเดือนสุดท้าย x เวลาราชการ

3. สิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญนอกเหนือจากข้อ 1,2

1. เหตุทุพพลภาพ (ป่วยเจ็บทุพพลภาพ)

2. เหตุทดแทน (ทางราชการเลิก/ยุบตำแหน่ง/คำสั่งให้ออกโดยไม่มีความผิด)

3. เหตุสูงอายุ (อายุครบ 60 ปี /ลาออกเมื่ออายุครบ 50 ปี)

- มีเวลาราชการตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 10 ปี ได้รับ บำเหน็จ

- มีเวลาราชการตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับบำนาญ เงินชดเชย และผลกระโยชน์ตอนแทน

เว้นแต่เลือกรับบำเหน็จแทน (เงินประเดิม ต้องเป็นข้าราชการอยู่ก่อนวันที่บทบัญญัติแห่งหมวด 3 ใช้บังคับ)

4. บำเหน็จดำรงชีพ = บำนาญรายเดือน x 15

เงินที่จ่ายให้แก่ผู้รับบำนาญเพื่อช่วยเหลือการดำรงชีพโดยจ่ายให้ครั้งเดียว/ จ่ายไม่เกิน 500,000 บาท/

แบ่งจ่ายครั้งละไม่เกิน 200,000 บาท (อายุ 60/65/70 ปี) /ถ้าตายก่อนได้รับเงินบำเหน็จดำรงชีพ

ให้การจ่ายเงินเป็นอันระงับไป

4. บำเหน็จตกทอด คือ เงินที่จ่ายให้ทายาทโดยจ่ายให้ครั้งเดียว กรณีตายในระหว่างรับราชการ/ผู้รับบำนาญถึงแก่ความตาย

1. บุตรได้รับ 2 ส่วน /ถ้าบุตรมีตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ได้ 3 ส่วน

2. สามีหรือภรรยา ได้รับ 1 ส่วน ข้อ 1-3 ไม่มี/ตาย ให้แบ่งเงินแก่ทายาท

3. บิดามารดา ที่มีชีวิตอยู่ได้รับ 1 ส่วน ผู้มีสิทธิได้รับ

4. ไม่มีทายาท จ่ายแก่บุคคลที่แสดงเจตนาไว้

5. ไม่มีทายาท ไม่มีบุคคลที่แสดงเจตนาไว้ บำเหน็จตกทอดเป็นอันยุติลง

เงินบำเหน็จตกทอด (สมาชิก) = เงินเดือนเดือนสุดท้าย x เวลาราชการของผู้ตาย

เงินบำเหน็จตกทอด(ผู้รับบำนาญ) = (อัตราบำนาญที่ผู้ตายมีสิทธิได้รับ x 30) – เงินบำเหน็จดำรงชีพ

* หักเงินบำเหน็จดำรงชีพ กรณีผู้รับบำนาญได้มีการรับบำเหน็จดำรงชีพไปแล้ว

5. การนับเวลาราชการ เพื่อให้เกิดสิทธิรับบำเหน็จบำนาญ ให้นับจำนวนปี เศษของปีถ้าถึงครึ่งปีให้นับเป็นหนึ่งปี

เพื่อคำนวณจำนวนบำเหน็จบำนาญ ให้นับจำนวนปีรวมทั้งเศษของปีด้วย

1. พรบ. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494

2. พรบ. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539

ข้อควรระวัง/หมายเหตุ

1. เลือกรับบำนาญ : ได้รับเงินบำนาญ/เงินกองทุน ก.บ.ข./บำเหน็จดำรงชีพ/สิทธิค่ารักษาพยาบาล

2. เลือกรับบำเหน็จ : ได้รับเงินบำเหน็จ/เงินกองทุน ก.บ.ข.

3. หนังสือสั่งจ่ายส่งธุรการเพื่อลงรับ (พี่ตู่) / แบบ (5300) และ (5309) ต้องนำไปออกเลขที่ จังหวัด

5. link แบบฟอร์มกรณีการพ้นสมาชิกภาพ https://www3.gpf.or.th/thai2013/member/form.asp

6. กรณีมีคำสั่งให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นหลังจากลาออก เกษียณ ต้องทำเรื่องขอบำเหน็จ/บำนาญเพิ่ม

7. เอกสารส่งถึงคลังเขต 6 พิษณุโลก ดังนี้

1. แบบขอเบิกเงิน 5. ประกาศเกษียณ,ลาออกหรือคำสั่งลาออก

2. สำเนาบัตรประชาชน (การเปลี่ยนชื่อ-สกุลถ้ามี) 6. คำสั่งเลื่อนเงินเดือนครั้งสุดท้าย

3. สำเนาทะเบียนบ้าน 7. ก.พ.7 ตัวจริง (ข้าราชการ)

4. สำเนาหน้าบัญชีเงินฝากธนาคาร

8. สำเนากรมธรรม์ประกันชีวิต อายุกรมธรรม์ 10 ปี ขึ้นไป (ถ้ามี) ใช้คีย์ในระบบเพื่อลดหย่อนภาษี

(เก็บไว้ที่ รพ.)