กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานกระทรวงสาธารณสุข
สิทธิประโยชน์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานกระทรวงสาธารณสุข
1. คุณสมบัติการเป็นสมาชิก
พนักงานกระทรวงสาธารณสุข มีสิทธิสมัครเข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่ได้รับการจ้างเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข
2. การหักเงิน
1. เงินสะสม(สมาชิกจ่าย)
ร้อยละ 2-15 % ของค่าจ้าง (สมาชิกสามารถเปลี่ยนได้ปีละ 1 ครั้ง)
2. เงินสมทบ(นายจ้าง) ร้อยละ 2% ของค่าจ้าง
3. ออกจากงาน
อายุสมาชิกกองทุน 5 ปี ขึ้นไป และอายุ 55 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป (กรณีไม่ครบเงื่อนไขทั้งหมดข้างต้นต้อง คงเงินไว้ในกองทุน จนครบระยะเวลาตามเงื่อนไขดังกล่าว)
4. กรณีสิ้นสุดสภาพด้วยเหตุผลนี้จะได้รับเงินสมทบและผลประโยชน์ทั้งจำนวน 100%
- ตาย - ทุพพลสภาพถาวร
- อายุครบ 60 ปี - เสมือน/ไร้ความสามารถ
- นายจ้างถอนตัว - เลิกกองทุน
5. สิทธิประโยชน์เมื่อสิ้นสมาชิกสภาพ
พกส. ต้องมีอายุสมาชิกตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป
เงินได้เมื่ออกจากงาน สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 ลดหย่อนได้ = 7,000 X อายุงาน
ส่วนที่ 2 ส่วนที่เหลือหักออกอีกร้อยละ 50
เงินได้เมื่ออกจากงานที่รับ ยกเว้นภาษีเงินได้ทั้งจำนวน ในกรณี ดังนี้
6. การจ่ายเงินเมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพ
อัตราส่วนเงินสมทบละผลประโยชน์จากเงินสมทบที่มอบแก่สมาชิก
** (กรณีไม่ครบเงื่อนไขทั้งหมดข้างต้นต้อง คงเงินไว้ในกองทุน จนครบระยะเวลาตามเงื่อนไขดังกล่าว) **
อายุสมาชิกสภาพ เงินสมทบและผลประโยชน์
ของเงินสมทบ ร้อยละ(%)
ไม่ถึง 1 ปี 0
ตั้งแต่ 1 ปี แต่ไม่ถึง 2 ปี 20
ตั้งแต่ 2 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี 40
ตั้งแต่ 3 ปี แต่ไม่ถึง 4 ปี 60
ตั้งแต่ 4 ปี แต่ไม่ถึง 5 ปี 80
ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป 100
7. เงินได้เมื่อสมาชิกออกจากงาน (กรณีโอนย้ายงาน)
- เมื่อออกจากงาน กรณีโอนย้ายงาน จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการนับอายุสมาชิกของแต่ละบริษัทต่อเนื่องกันได้
- เมื่อสมาชิกได้ทำการโอนย้ายเงินกองทุน จำนวนเงินทั้ง 4 ส่วน จะถูกโอนย้ายไปกองทุนใหม่
เงินกองทุนนายจ้างเดิม เงินสะสม ผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสมทบ => ผลประโยชน์ของเงินสะสม
เงินกองทุนนายจ้างใหม่ เงินสะสม ผลประโยชน์ของเงินสะสม
เงินสมทบ + ผลประโยชน์ของเงินสะสม = เริ่มต้นใหม่
เช่น เป็นสมาชิกจากนายจ้างเดิม 6 ปี และได้ลาออก โดยหัก เงินสะสม และเงินสมทบ 2% สมาชิกย้ายไปอยู่ที่ทำงานใหม่ถ้ามีการจัดตั้งกองทุนฯ เหมือนกัน ก็สามารถโอนย้ายไปกองทุนใหม่ได้ ส่วนเงิน สะสม+เงินสมทบ
ต้องเริ่มต้นใหม่ในกองทุนฯ นายจ้างใหม่