การเลี้ยงไฮดราด้วยวิธีนี้จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับนำไปใช้ในการเรียนการสอน เนื่องจากมีความสะดวกในการเลี้ยงและดูแล ผู้เลี้ยงไม่ต้องเสียเวลาหาไฮดราจากตัวอย่างน้ำให้ยุ่งยาก และไม่จำเป็นต้องหาซื้อไรน้ำ หรือไรแดงมาเป็นอาหารให้กับไฮดรา เนื่องจากในอ่างบัวมีอาหารของไฮดราหมุนเวียนตลอด และมีธาตุอาหารที่ได้จากดิน สาหร่ายหางกระรอก
ผู้เลี้ยงอาจจะใส่แหนลงไปเพิ่ม เพื่อให้ไฮดราเกาะรากของแหนในการดักรออาหาร และคอยสังเกตปริมาณน้ำในอ่างบัวให้อยู่ในปริมาณที่พอดีอยู่เสมอ ซึ่งเมื่อต้องการนำไปให้ผู้เรียนศึกษา ผู้เลี้ยงก็จะมาดำเนินการย้ายไฮดราจากอ่างบัวไปยังตู้เลี้ยง (ในอ่างบัวมีปลาหางนกยูงอยู่ด้วยก็ไม่มีผลใดๆกับการเลี้ยงไฮดรา)
เนื่องจากบริเวณคณะวิทยาศาสตร์มีอ่างบัวซึ่งผู้ปฏิบัติงานได้เคยทดลองหาไฮดราจากอ่างบัวมาก่อนจึงทำให้ทราบว่ามีไฮดราอยู่ในอ่างบัวและสามารถอาศัยอยู่ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานจึงทดลองเลี้ยงไฮดราในอ่างบัว ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงแบบธรรมชาติ เนื่องจากระบบนิเวศในอ่างบัวไม่เปลี่ยนแปลงเร็วเป็นการเลี้ยงแบบสมดุลในธรรมชาติ การเลี้ยงไฮดราในอ่างบัวจึงเป็นอีกวิธีการเลี้ยงไฮดราที่มีความเหมาะสม และได้ดำเนินการเลี้ยงมาตลอดจนปัจจุบัน
สำหรับสภาพแวดล้อมรอบที่ตั้งของอ่างบัวที่เหมาะสม คือ อ่างบัวจะต้องอยู่ในบริเวณที่ตั้งที่ค่อนข้างร่ม ตอนเช้าแสงแดดส่องถึง ช่วงบ่ายร่ม แสงแดดไม่ส่องตลอดทั้งวัน อ่างบัวขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อให้สะดวกต่อการที่ผู้เลี้ยงจะสามารถนำไฮดรามาใช้ได้ทุกเวลา โดยไม่ต้องลำบากไปหาจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่
ข้อแนะนำ
1. ผู้เลี้ยงควรเลี้ยงไอดราสำรองไว้ในอ่างบัวหลายๆอ่าง เพื่อให้สามารถนำไฮดราไปใช้งานได้ตลอดเวลา หากอ่างบัวใดไม่มีไฮดราเพียงพอกับการใช้งาน ก็สามารถนำไฮดราจากอ่างอื่นไปใช้งานได้
2. ถ้ามีสาหร่าย หรือแหนมากเกินไปในอ่างบัว ให้นำออกบ้าง เนื่องจากหากมีมากจนหนาแน่นจะบดบังแสงแดด และทำให้ระบบนิเวศขาดความสมดุลไป
3. ผู้เลี้ยงไม่จำเป็นต้องนำบัวออก เนื่องจากบัวจะช่วยบังแสงแดดให้ไฮดรา และบัวจะขึ้นไม่หนาแน่นมาก
4. ผู้เลี้ยงไม่ควรให้ไรน้ำหรือไรแดงเพิ่มในอ่างบัว เนื่องจากการให้ไรน้ำหรือไรแดงเพิ่มจะทำให้มีจำนวนปลาหางนกยูงมากเกินไป จะไปรบกวนหรือกินไฮดรา อีกทั้งเป็นการทำให้ระบบนิเวศไม่สมดุล ฉะนั้นควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ