3. ก้อนหินขนาดเท่ากำมือ หรือเล็กกว่า 5–6 ก้อน วางบนพื้นทราย ค่อยๆวางบนพื้นกระจกเป็นระยะห่างเท่าๆกัน

4. น้ำประปา โดยให้ผู้เลี้ยงใส่น้ำลงในตู้ประมาณครึ่งตู้ และทิ้งไว้จนหมดกลิ่นคลอรีนประมาณ 1 อาทิตย์

5. นำน้ำจากแหล่งน้ำที่ไฮดราอาศัยอยู่เดิม ให้ผู้เลี้ยงใส่น้ำจากแหล่งน้ำที่ไฮดราอาศัยอยู่เดิมลงในตู้เลี้ยงด้วย ซึ่งควรตักให้มีตะกอน หรือเศษไม้เล็กๆ ในแหล่งน้ำนั้นติดมาด้วย จากนั้นให้นำใส่ในตู้เลี้ยง เนื่องจากว่าน้ำจากแหล่งน้ำที่ไฮดราอาศัยอยู่เดิมนี้จะมีแพลงตอน ไรน้ำ สาหร่ายชนิดต่างๆ ติดมาด้วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเลี้ยงไฮดรา

6. หลอดหยดสำหรับดูดไรน้ำและไรแดง

7. วัชพืชน้ำ ได้แก่ แหนเป็ดเล็ก แหนเป็ดใหญ่ สาหร่ายหางกระรอก ซึ่งไม่ควรใช้ต้นโตเกินไป และไม่ควรใส่จำนวนเยอะ เพราะทำให้น้ำเน่าง่าย

การเปรียบเทียบความเหมาะสมของวัชพืชน้ำในการนำมาใช้งาน

การย้ายไฮดราลงตู้เลี้ยง มีวิธีการ ดังนี้ ให้ผู้เลี้ยงทำการย้ายไฮดราที่เกาะอยู่ตามรากของวัชพืชน้ำ โดยนำวัชพืชน้ำใส่ลงในตู้เลี้ยงที่เตรียมไว้ ซึ่งจะต้องระวังว่า ขณะที่ขนย้ายนั้น ไฮดราอาจจะเคลื่อนที่จากรากของวัชพืชน้ำมาเกาะที่ภาชนะที่ขนย้ายมา ซึ่งถ้าทำการย้ายเพียงวัชพืชน้ำ ก็อาจจะทำให้มีไฮดราหลงเหลือเกาะอยู่ตามภาชนะที่ขนย้าย ทำให้ย้ายไฮดราไม่หมด ดังนั้น จึงแนะนำให้แช่ภาชนะที่ขนย้ายไว้ในตู้เลี้ยงจนกว่าไฮดราจะเคลื่อนไปเกาะผนังตู้จนหมดแล้ว

จากการที่บุคลากรได้ทำการเลี้ยงไฮดราด้วยตู้เลี้ยงขนาดใหญ่มาโดยตลอด จึงได้สรุปวิธีการเลี้ยงและดูแลไฮดราด้วยตู้เลี้ยงขนาดใหญ่ ดังนี้

1. เตรียมตู้เลี้ยงขนาดประมาณ 1X1X1 ฟุต หรือเล็กกว่านั้น โดยให้ผู้เลี้ยงใส่น้ำประปาลงในตู้ประมาณครึ่งตู้ และทิ้งไว้ให้ตกตะกอนจนหมดกลิ่นคลอรีนประมาณ 1 อาทิตย์

2. นำก้อนหินขนาดเท่ากำมือ หรือเล็กกว่า 5– 6 ก้อนวางบนพื้นตู้

3. ให้ผู้เลี้ยงใส่น้ำจากแหล่งน้ำที่ไฮดราอาศัยอยู่เดิมลงในตู้เลี้ยงด้วย ซึ่งควรตักให้มีตะกอน หรือเศษไม้เล็กๆ ในแหล่งน้ำนั้นติดมาด้วยใส่ในตู้เลี้ยง เนื่องจากน้ำจากแหล่งน้ำที่ไฮดราอาศัยอยู่เดิมนี้จะมีแพลงตอน ไรน้ำ สาหร่ายชนิดต่างๆ ติดมาด้วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเลี้ยงไฮดรา

4. ให้ผู้เลี้ยงนำวัชพืชน้ำจำพวกแหนเป็ดเล็ก แหนเป็ดใหญ่ ซึ่งเป็นวัชพืชที่เหมาะสมที่สุดในการนำมาเลี้ยงไฮดรา เนื่องจากสามารถดูดธาตุอาหารที่อยู่ในน้ำ และเอาไปใช้ในการเจริญเติบโต ทำให้ตะไคร่น้ำเจริญเติบโตช้าลง และอาจจะไม่ปิดบังแสงแดดได้ ข้อดีอีกประการหนึ่ง คือ รากของแหนเป็นแหล่งที่ไฮดราชอบเกาะ จึงเหมาะสำหรับการจะขนย้ายแหนที่มีไฮดราเกาะอยู่ไปยังตู้อื่นได้สะดวก

5. ให้ผู้เลี้ยงใช้หลอดหยดดูดไรน้ำ หรือไรแดงแล้วพ่นเบาๆ ลงบริเวณที่ไฮดราเกาะอยู่ วิธีนี้จะทำให้ไรน้ำ หรือไรแดงเคลื่อนที่ใกล้ๆ ไฮดรามากที่สุด ไฮดราสามารถจับไปเป็นอาหารได้โดยง่าย โดยให้ผู้เลี้ยงให้อาหารไฮดรา 2 วันต่อครั้ง ไรน้ำที่เหลือภายในตู้เลี้ยงจะขยายพันธ์ต่อไป โดยมีแพลงตอนพืชจากน้ำบ่อเป็นอาหาร ทำให้ไรน้ำไม่สูญพันธ์ ส่วนไรน้ำ หรือไรแดงที่เหลือก็จะมีจำนวนไม่มาก จึงไม่ทำให้น้ำเน่าเสียง่าย

6. หากน้ำในตู้ลดลง ให้ผู้เลี้ยงเติมน้ำประปาลงในตู้จนมีปริมาณน้ำเท่าเดิม

7. เมื่อเลี้ยงไประยะหนึ่งอาจจะเป็น 20 วัน หรือมากกว่านั้น จะมีตะไคร่น้ำมาเกาะที่ผนังตู้เลี้ยง (เนื่องจากในน้ำมีธาตุอาหารจำนวนมาก ซึ่งการใส่แหน หรือสาหร่ายจะช่วยให้ตะไคร่เติบโตช้าลง) ให้ผู้เลี้ยงใช้แผ่นกระจกขนาดเล็ก หรือสไลด์ขนาดเล็ก ขูดตะไคร่น้ำออกจากผนังตู้

โดยวิธีขูดแบบสลับ ดังภาพ

เว้น ขูด เว้น ขูด เว้น ขูด เว้น ขูด

เนื่องจากการขูดแต่ละครั้งอาจทำให้ไฮดราตายได้ แต่ถ้าทิ้งไว้นานๆโดยไม่ขูดออกเลยตะไคร่จะเพิ่มมากขึ้น จนบดบังแสงแดด ทำให้ไรน้ำหรือไรแดงไม่เคลื่อนตัวไปบริเวณที่มีตะไคร่ เป็นผลทำให้ไฮดราที่เกาะตามผนังตู้ขาดแคลนอาหารและตายในที่สุด

เมื่อขูดเสร็จ ให้ทิ้งระยะเวลา 3-5 วัน หรือนานกว่านั้นจนกว่าไฮดราที่เกาะบริเวณผนังตู้ที่ยังไม่ได้ทำการขูด ย้ายมาเกาะบริเวณที่ขูดใหม่แล้วเกือบทั้งหมด จึงทำการขูดบริเวณที่เหลือต่อไป แต่เมื่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ ตะไคร่จะไม่ค่อยเกาะผนังตู้ แต่จะลอยอยู่ตามพื้นและก้อนหินให้ใช้สายยางดูดออกบ้าง และให้เหลือไว้เพื่อดูดซึมแร่ธาตุอาหารที่เกิดจากการเน่าเปื่อย และเป็นแหล่งออกซิเจน

1. ผู้เลี้ยงจะต้องหาไรน้ำหรือไรแดงเพื่อมาเป็นอาหารให้กับไฮดราทุก 2 วัน และต้องทำต่อเนื่อง จึงทำให้ผู้เลี้ยงมีภาระเพิ่ม แต่หากให้จำนวนมากเกินไป ก็จะทำให้มีเศษอาหารเหลือ ซึ่งจะทำให้น้ำเน่าเสียได้ง่าย

2. การให้อาหารไฮดราไปนานๆ จนมีจำนวนไฮดรามากเกินไป อาจทำให้ระบบนิเวศภายในตู้เลี้ยงขาดความสมดุล น้ำเริ่มเน่าเสีย และปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลงซึ่งอาจทำให้ไฮดราตายได้

ข้อแนะนำ ไม่ควรนำเครื่องให้ออกซิเจน มาใช้กับตู้เลี้ยงไฮดรา เพราะไฮดราชอบน้ำนิ่งๆ การสั่นสะเทือนของเครื่องทำออกซิเจนจะทำให้น้ำสั่น ทำให้ไฮดราหดตัวตลอดเวลา จึงไม่สามารถจับอาหารกินได้