Content ส่วนใหญ่บนเว็บนี้ เขียนขึ้นจากประสบการณ์ส่วนตัวคิดเองทำเอง หรือลิงก์ของแปลกๆที่มีประโยชน์สำหรับชาวบ้านก็มี
เป็นงานอดิเรกที่มีประโยชน์ซึ่งนิยมคิดทำอะไร ใหม่ๆ รอบๆ ตัวให้ดีขึ้นหรือสะดวกขึ้น และหวังจะแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อแชร์ความรู้แก่กันและกันให้มากที่สุด
โดยจะแบ่งเป็น เรื่องต่างๆ โดยจัดกลุ่มได้ดังนี้
ตัวอย่าง นวัตกรรม
1. อุปกรณ์ : หาซื้อกล่องใส่กล้องตามขนาดของกล้องโดยเลือกซื้อแบบที่กันน้ำได้
- กล่องป้องกันน้ำ 100% : หาซื้อได้ตาม Lotus , Big-C ราคาประมาณ 100-200 บาท
- กาวซิลิโคน : หาซื้อได้ตาม Lotus , Big-C ราคาประมาณ 100 บาท
- โพร์มความหนาแน่นสูง กล่องโฟร์มใส่วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ใช้แล้ว
- ลูกโป่งเล็ก : ของเล่นเด็กๆ
- ปุมกดปิดเปิดไฟฟ้าชนิดกดติดปล่อยดับ
- หาคอขวดชนิดใหญ่กว่าเลนส์มากๆ ตัดเฉพาะขอบบ่าและฝาเกลียวด้านในพร้อมฝาปิด
- แผ่นพลาสติคอะคีริคอย่างดีชนิดใส
2. เจาะกล่องป้องกันน้ำด้านหน้าเลนส์กล้อง
เจาะ Housing ด้านหน้าเลนส์ เพื่อติดตั้งแผ่นพลาสตืคใสเป็นช่องถ่ายภาพ
3. ติดยึดฝาปิดยึดแผ่นใส กับ housing
เจาะรูกล่องป้องกันน้ำ เพื่อใส่คอขวดเกลียวพลาสติคขนาดใหญ่ ใช้ทั้งฝาปิดและเกลียวคอขวด
เป็นอุปกรณ์ยึดแผ่นใส ตัดวงกลมพลาสติคทำแผ่นใสปิดยึดกับ Housing ด้านหน้าเลนส์
เจาะฝาปิด เพื่อเปิดช่องถ่ายภาพ และยึดแผ่นใสติดกับ housing
ติดตั้งคอขวดเกลียว ซีลป้องกันน้ำรั่วที่ขอบบ่าเกลียวกับ housing ด้านใน ด้วยกาวซิลิโคน
ติดแผ่นพลาสติคใสกับบนเกลียวปากคอขวด ด้วยกาวซิลิโคน
ขันปิดฝาเกลียวล็อค แผ่นใส,บ่าเกลียวคอขวดกับ housing ก่อนซิลิโคนแข็งตัว
แท่นโพร์มต้องตัดแต่งยึดตัวกล้องและ housing ให้กระชับแน่นพอดีไม่สั่นคลอนเมื่อปิดฝา
4 บรรจุกล้องพร้อมแท่นโพร์มเข้าที่กำหนด วัดระยะเจาะรูที่จะตืดตั้งปุ่มกดชัตเตอร์ทั้ง 2
ปรับปรุงต่อเติมแกนของปุ่มกดทั้งสองให้มีแกนยาวสามารถกดปุ่มชัตเตอร์และปุ่มวีดีโอได้เมื่อติดตั้ง
บน housing นำปุ่มกดทั้งสองหุ้มด้วยลูกโปงยางเพื่อป้องกันน้ำเข้าก่อนนำไปติดต้ังที่ housing
การใช้ housing นี้ ต้องเปิดกล้อง,โปรแกรมและเปิดใช้จอภาพก่อนบรรจุเข้า housing ทุกครั้งจึงปิด
ฝาครอบ จากนั้นให้ทดลองถ่ายภาพและวิดีโอใน housing และปรับแต่งให้ใช้งานได้ดีทุกครั้ง
ที่ถอดเข้าออก
ฝาปืดเปิดของกล่องมีระบบป้องกันน้ำมาให้เรียบร้อย และมีความใสพอที่จะมองเห็นภาพที่จอภาพ
ได้ชัดเจนจึงไม่ได้เจาะไส่แผ่นพลาสติคใสเช่นด้านหน้าเลนส์
หูหิ้ว housing ใช้เทปหิ้วน้ำ้ตราสิงห์ เพราะไม่ต้องการเจาะรูเพิ่ม
เพื่อความมั่นใจก่อนจะนำไปใช้ใต้น้ำจริง อย่าลืมทดลองแช่ไว้ใต้น้ำจริงๆ สัก 1-2 ชั่วโมง โดยไม่ต้อง
มีกล้องอยู่ ถ้าทดลองข้ามคืนให้ใส่เรซิ่นดูดความชื้นไปด้วยเพราะวัสดุที่ใส่เข้าไปเพื่อถ่วงให้จมอาจ
มีความชื้นอยู่มาก เมื่ออุนหภูมิลดลงนานๆอาจมีหยดน้ำ ทำให้คิดว่า housing รั่วได้
การเลือกใช้กล่อง housing ภ้าเลือกใหญ่เกิน จะทำให้มีแรงลอยตัวมากอาจทำให้การดำน้ำถ่ายภาพ
มีปัญหา นอกเหนือจากถ่ายภาพใต้น้ำแล้วประโบชน์อีกหนึ่งอย่างคือถ่ายภาพกลางสายฝนได้ดีอีกด้วย
housing เช่นนี้เคยทำใช้มาหลายตัวแล้วถ่ายภาพได้ชัดเจนเช่นไม่มี housing และใช้ได้ผลดีทุกตัว
ตัวนี้เพิ่งทำใหม่ทำจึงถือโอกาศถ่ายภาพแนะนำวิธีการทำ คุณสมบัติทั่วไปใช้ระดับน้ำลึกไม่เกิน 10 เเมตร
ใช้งบประมาณไม่ถึง 500 บาทเหมาะกับกล้องแต่ละตัวโดยเฉพาะ
การเปิดประตูหน้าต่างและมุ้งลวดให้อากาศถ่ายเทเข้าและออกห้องพอที่ทำให้ห้องมีอุณหภูมิต่ำลง
ได้มาก จะใช้เวลาตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตกดินกระทั่งก่อนเข้าห้องนอนสัก 3-4 ชั่วโมง แล้วจึงขึ้นบ้าน
ปิดประตูหน้าต่างมุ้งลวดเข้านอน หลายคนเป็นห่วงว่ายุงคงเต็มห้อง ขอบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องยุง
ถ้าบริหารการเปิดปิดประตูหน้าต่างมุ้งลวดเป็น เพราะมุ้งลวดเขาออกแบบมาป้องกันไม่ให้ยุงเข้าและออก
การไม่เปิดมุ้งลวดบ้างมันก็เป็นการขังไม่ให้ยุงออกด้วย ถ้ารู้จักนำธรรมชาตินิสัยของยุงมาประยุกต์ใช้
จัดการบริหารการปิดเปิดหน้าต่างมุ้งลวดร่วมกับการระบายความร้อน ยุงก็จะบินออกจากห้องหมด
ธรรมชาตินิสัยของยุงที่ต้องเรียนรู้
1.ยุงส่วนมากจะออกที่ซ่อนเพื่อหากินหลังพระอาทิตย์ตกดิน
2.ยุงชอบที่จะบินทวนกระแสลมออกจากห้องไปหาเหยื่อ แต่ถ้ามีเหยื่ออยู่ในห้องมันก็ไม่ไปใหน
3.ยุงจะบินตามเหยื่อจากการมองเห็นด้วยรังสีอินฟาเรด และจากกลิ่นไอหรือคาร์บอนไดออกไซด์
สิ่งที่เราจะค้องประยุกต์ทำให้ไม่มียุงในห้อง
1.เมื่อใก้ลค่ำเปิดหน้าต่างประตูและมุ้งลวดในห้องที่ต้องการระบายความร้อน
2.ต้องเปิดให้มีช่องลมเข้าและช่องลมออกให้มากพอที่จะทำให้ความร้อนลดลงได้ และยุงก็จะบินออก
ทางด้านที่ลมเข้าหมดห้อง
3.เมื่อถึงเวลาจะเข้าห้องให้ระวังยุงบินตามเข้าด้วยต้องพัดไล่ยุงก่อนเข้าไปแล้วรีบปิดประตู,หน้าต่างห้อง
ทุกบานทันที
ปัจจัยที่ทำให้มียุงในห้อง
1.บริเวณอาคารเป็นพื้นที่อับลมไม่มีกระแลลมพัดเลย หรือด้านที่กระแสลมเข้าปิดมุ้งลวดไว้
2.ช่วงเปิดประตูหน้าต่างระบายความร้อนต้องไม่มีใครอยู่ในห้องนานๆ ทำให้ยุงชอบที่จะรอเหยื่อที่นี่ต่อ
3.ไม่ระวังป้องกันยุงบินตาม ขณะที่กำลังจะเข้าห้อง
4.มีกลิ่นไอคนค้างอยู่ในห้องมากเกินไป ยุงอาจคิดว่ายังมีเหยื่ออบู่
5.ช่วงฝนจะตกหรืออากาศเย็นยุงจะหาที่กำบังในห้อง
สรุป
ผมทดลองและปรับปรุงกระทั่งใช้งานได้ผลดี ไม่ต้องใช้ยาฉีดยุงมาหลายปีแล้ว ผลพลอยได้ที่คุ้มค่า
คือช่วยลดต่าไฟฟ้าของแอร์คอดิชั่นได้มาก (ห้องในฤดูร้อนถ้าไม่ระบายความร้อนดังกล่าวก่อน เวลาเปิด
แอร์ช่วงแรกแอร์คอมเพรสเซอร์ต้องใช้เวลาทำความเย็นให้ถึงอุนหภูมิที่ต้องการนานกว่าในห้องเดียวกัน
ที่ทำการระบายความร้อน ประมาณ 1 ชั่วโมง) ผลการทดลองกับบ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างมีคนพลุกพล่านทำ
กิจวัตรกันตลอดเวลาจึงไม่ค่อยได้ผล แต่บนชั้น 2 ได้ผลดีมากก่อนนอนยุงออกหมด ทั้งที่ไม่มีประตูปิด
ระหว่างทางขึ้นลง