1.หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์

การทำงานของคอมพิวเตอร์ จะต้องประกอบด้วย หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) เพื่อรับข้อมูลและคำสั่งหรอโปรแกรมเข้าไปเก็บไว้ในอุปกรณ์เก็บข้อมูลหรือหน่วยความจำหลัก คำสั่งที่เก็บไว้ในหน่วยความจำหลักจะไปตีความ และประมวลผลโดยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ซึ่งเปรียบเป็นสมองของคอมพิวเตอร์ ผลที่ได้จาการคำนวณหรือเปรียบเทียบจะไปเก็บยังหน่วยความจำแรมและพร้อมที่จะแสดงผล


ก่อนที่คอมพิวเตอร์จำทำงานได้จะต้องโหลดเอาระบบปฏิบัติการเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน กระบวนการนี้เรียกว่า “การบูตเครื่อง (Boot)” มี 7 ขั้นตอนดังนี้

1. เมื่อปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ Power Supply จะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปให้ซีพียู (CPU : Central Processing Unit) เริ่มทำงาน

2. ซีพียู สั่งให้ไบออส (BIOS : Basic Input Output System) ทำงาน

3. เริ่มทำงานตามกระบวนการ POST เพื่อตรวจเช็ตอุปกรณ์ต่างๆ หากมีข้อผิดพลาดจะมีสัญญาณเตือน เช่น เสียงยาว 1 ครั้ง และเสียงสั้น 3 ครั้ง แสดงว่าเกิดข้อผิดพลาดจากการ์ดจอ ไบออสแต่ละรุ่น จะมีรหัสสัญญาณที่แตกต่างกัน

4. ผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการ POST จะนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลที่อยู่ใน CMOS (Complementary Metal Oxide Semiconductor) ข้อมูลของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง หรือ ค่า Configuration จะเก็บไว้ในหน่วยความจำนี้ถ้าถูกต้องก็จะทำงานต่อไป ถ้าเกิดผิดพลาดต้องแจ้งผู้ใช้ให้แก้ไขข้อมูลก่อน


5. ไบออสจะอ่านโปรแกรมสำหรับบูตจากฮาร์ดดิสก์ ไปออสในรุ่นใหม่จะกำหนดได้ว่าจะบูตจากเซกเตอร์แรกของอุปกรณ์ตัวไหนก่อน

6. โปรแกรมส่วนสำคัญที่เรียกว่า เคอร์เนล (Kernel) จะถูกถ่ายทอดค่าลงหน่วยความจำแรม (RAM : Random Access Memory)

Kernel คือ ส่วนประกอบหลักของระบบปฏิบัติการ ซึ่งจะคอยดูแลบริหารจัดการทรัพยากรของระบบ และติดต่อประสานงานกับฮาร์ดดิสก์และซอฟต์แวร์ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ เคอร์เนลเป็นฐานร่างสุดในการติดต่อกับทรัพยากรต่างๆ เช่น หน่วยความจำ หน่วยประมวลผลกลาง และอุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุต

7. ระบบปฏิบัติการในหน่วยความจำจะเข้าควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์และแสดงผลลัพธ์เคอร์เนลถูกถ่ายโอนลงสู่หน่วยความจำ และเข้าไปควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์โดยรวมและโหลดค่าของ Configuration ต่างๆ พร้อมทั้งแสดงผลลัพธ์มาที่เดสก์ทอปของผู้ใช้เพื่อรอรับคำสั่งการทำงานต่อไป ซึ่งในปัจจุบันระบบปฏิบัติการใหม่ๆจะมี GUI ที่เหมาะสมกับผู้ใช้

เดสก์ทอป (Desktop) คือ พื้นที่ฉากหลังของ Windows ถูกจำลองมาจากการทำงานบนโจฃต๊ะทำงาน ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน โดยจะมีสัญลักษณ์ภาพแทนสิ่งต่างๆ ในระบบให้มองเห็นเหมือนกับสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะ ผู้ใช้สามารถเรียกใช้งานได้สะดวก รวดเร็ว และยังสามารถปรับเปลี่ยนภาพบนเดสก์ทอปได้ตามความต้องการ

GUI (Graphic User Interface) คือ การใช้ภาพสัญลักษณ์ติดต่อกับผู้ใช้ เป็นการออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้มีการโต้ตอบกับผู้ใช้ โดยใช้ไอคอน (ICON) รูปภาพ และสัญลักษณ์ต่างๆ แทนการพิมพ์คำสั่งในการทำงานช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ง่าย

การบูต มี 2 ชนิด คือ

1. โคลบูต (Cold Boot) คือ การบูตเครื่องที่อาศัยการทำงานของฮาร์ดแวร์ โดยการกดปุ่มสวิตช์เพาเวอร์

2. วอร์มบูต (Warm Boot) คือ การบูตเครื่องโดยทำให้เกิดกระบวนการบูตใหม่หรือที่เรียกว่า

“รีสตาร์ตเครื่อง” ส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดชะงัก (Hang) เมื่อคอมพิวเตอร์หยุดชะงัก สามารถแก้ไขได้ 3 วิธี คือ

1) กดปุ่ม Reaet บนเครื่อ

2) กด Ctrl+Alt+Del

3) สั่งรีสตาร์ตเครื่องจากเมนูปฏิบัติการ