ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การอ่านโคลงภาษาอังกฤษเป็นหนึ่งในทักษะที่มีความสำคัญในกระบวนการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในรายวิชาการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การตีความ และการเชื่อมโยงความรู้ในเชิงลึก โคลงภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่เป็นวรรณกรรมที่สะท้อนถึงความงามของภาษา แต่ยังเป็นเครื่องมือในการพัฒนาทักษะการสื่อสารและการเข้าใจบริบททางวัฒนธรรม การพัฒนาทักษะการอ่านโคลงจึงเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การจัดการเรียนรู้ในหัวข้อโคลงภาษาอังกฤษเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ความซับซ้อนของเนื้อหา ความยากของคำศัพท์ การตีความความหมายเชิงนัย และความขาดแคลนของสื่อการสอนที่สร้างสรรค์ การเรียนรู้ที่ไม่ตอบสนองต่อความหลากหลายของนักเรียนยิ่งเพิ่มความยากลำบากในการพัฒนาทักษะเหล่านี้
สรุป การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโคลงภาษาอังกฤษในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ 4 (อ30204) เป็นความท้าทายที่สำคัญ แต่เป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในระดับสูง การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยการจัดการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการสนับสนุนให้นักเรียนมีแรงจูงใจและทัศนคติที่ดีต่อโคลงภาษาอังกฤษ
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. Plan (วางแผน)
1.1 กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัด ตั้งเป้าหมายให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์โคลงภาษาอังกฤษได้ทั้งในด้านโครงสร้าง ความหมายเชิงลึก และการตีความ กำหนดตัวชี้วัดเชิงปริมาณ เช่น คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น 15% และเชิงคุณภาพ เช่น นักเรียนมีความมั่นใจและทัศนคติที่ดีต่อโคลง
1.2 วิเคราะห์ความต้องการของผู้เรียน ประเมินพื้นฐานความรู้และทักษะการอ่านโคลงของผู้เรียนสำรวจความต้องการและปัญหาที่พบในการเรียนโคลงภาษาอังกฤษ
1.3 ออกแบบแผนการสอน เลือกโคลงภาษาอังกฤษที่เหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น การอ่าน การวิเคราะห์โคลง และการใช้งาน AI เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ เตรียมสื่อการเรียน เช่น บทเรียน AI, แบบฝึกหัดวิเคราะห์, และแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้อง
2. Do (ลงมือปฏิบัติ)
2.1 ดำเนินการจัดการเรียนการสอน จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการอ่านโคลง ได้แก่ การวิเคราะห์คำศัพท์และโครงสร้างโดยใช้ AI การอภิปรายกลุ่มเกี่ยวกับความหมายและภาพพจน์ในโคลง การแต่งโคลงง่าย ๆ โดยใช้ AI ช่วยตรวจสอบและปรับปรุง
2.2 การใช้ AI ในกระบวนการเรียนรู้ ใช้ AI เช่น ChatGPT หรือ Text-to-Speech เพื่อช่วยนักเรียนในการวิเคราะห์โคลงและฝึกการออกเสียง ให้นักเรียนใช้ AI ในการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมหรือประเมินความก้าวหน้าของตนเอง
2.3 การสอนเชิงปฏิสัมพันธ์ สร้างบรรยากาศที่นักเรียนสามารถถามคำถามและแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ กระตุ้นให้นักเรียนทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและความคิดเห็นเกี่ยวกับโคลง
3. Check (ตรวจสอบผล)
3.1 ประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ใช้แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน (Post-test) เพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตรวจสอบการมีส่วนร่วมในกิจกรรม เช่น การวิเคราะห์ การอภิปราย และการแต่งโคลง
3.2 วิเคราะห์ข้อมูลจากผลการประเมิน สรุปคะแนนและวิเคราะห์ผลลัพธ์ทั้งในเชิงปริมาณ (คะแนน) และเชิงคุณภาพ (พฤติกรรมและความคิดเห็นของผู้เรียน) รวบรวมความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะจากนักเรียนเกี่ยวกับการใช้ AI และกิจกรรมการเรียน
3.3 เปรียบเทียบผลลัพธ์กับเป้าหมาย ตรวจสอบว่านักเรียนบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ เช่น คะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและนักเรียนมีทัศนคติที่ดีขึ้น
4. Act (ปรับปรุงและพัฒนา)
4.1 ปรับปรุงกระบวนการสอน แก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคที่พบระหว่างการสอน เช่น ปรับความยากง่ายของโคลง หรือเพิ่มคำอธิบายเกี่ยวกับการใช้ AI พัฒนาแผนการสอนและสื่อการเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น เพิ่มตัวอย่างโคลงที่หลากหลาย หรือสร้างกิจกรรมใหม่ ๆ
4.2 ส่งเสริมการเรียนรู้ต่อเนื่อง แนะนำให้นักเรียนใช้ AI ในการศึกษาด้วยตนเองหลังจบบทเรียน จัดกิจกรรมพิเศษ เช่น การประกวดการอ่านโคลง การวิเคราะห์โคลง หรือการเขียนโคลง
4.3 สรุปและเผยแพร่ผลการดำเนินงาน นำผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนินงานมาเผยแพร่ให้ผู้บริหาร ครูผู้สอน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการสอนในอนาคต บันทึกข้อมูลเพื่อใช้เป็นแนวทางในรอบการดำเนินงานครั้งถัดไป
สรุป วงจร PDCA ช่วยให้การพัฒนาทักษะการอ่านโคลงภาษาอังกฤษมีความเป็นระบบและยืดหยุ่น สามารถปรับปรุงและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับบริบทและความต้องการของผู้เรียน
จากวิธีการดำเนินการให้บรรลุผลดังกล่าวข้างต้น สามารถสรุปเป็นขั้นตอนตามรูปแบบวงจร PDCA (Plan-Do-Check-Act) ได้ดังภาพ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนในที่เรียนรู้ผ่านการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโคลงภาษาอังกฤษในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ 4 (อ30204) ร้อยละ70 มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การตีความโคลงภาษาอังกฤษในแง่ของโครงสร้างและความหมายที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นตามลำดับ
นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการเรียนรู้ อยู่ในระดับดีขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
ได้รูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโคลงภาษาอังกฤษในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ 4 (อ30204)
4. ผลลัพธ์และการพัฒนา
4.1 เชิงปริมาณ
จากการที่นักเรียนเรียนรู้ผ่านการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโคลงภาษาอังกฤษในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ 4 (อ30204) ร้อยละ 70 มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การตีความโคลงภาษาอังกฤษในแง่ของโครงสร้างและความหมายที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นตามลำดับ
4.2 เชิงคุณภาพ
ได้รูปแบบการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโคลงภาษาอังกฤษในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายวิชาการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ 4 (อ30204)
5. ข้อเสนอแนะ
1. เป็นรูปแบบการสอนทักษะการอ่านโคลงที่ดี ควรนำไปปรับใช้ในเนื้อหาหรือรายวืชาอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกิจกรรมการเรียนการสอนในชั้นเรียน
2. ควรเปรียบเทียบการจัดกิจกรรมสอนอ่านโคลงด้วยการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโคลงภาษาอังกฤษกับรูปแบบการสอนอื่นๆ เพื่อให้เห็นความแตกต่าง และเกิดความหลากหลายในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน