IPOO MODEL
IPOO MODEL
รูปแบบการบริหารงาน
***ประเด็นท้าทายที่เสนอสอดคล้องกับนโยบายจุดเน้นนโยบายระยะเร่งด่วน (Quick Win) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแพร่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
1. การเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
1.1 ส่งเสริมสนับสนุนจัดหาเครื่องมือ พร้อมอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยสําหรับการเรียนรู้
1.2 จัดหาระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของสถานศึกษา
1.3 พัฒนา ส่งเสริม และขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ผู้เรียนได้เรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา
.
รูปแบบกระบวนการบริหาร IPOOR Model
ห้องเรียนคุณภาพ เรียนดี มีความสุข
สภาพปัญหาที่เป็นประเด็นท้าทาย
โรงเรียนถิ่นโอภาสวิทยา อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ได้จัดการศึกษาภาคบังคับและการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดการเรียนการสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึงปีที่ ๖ โดยปัจจุบัน มีจำนวนนักเรียน 217 คน โรงเรียนมีระยะห่างจากจังหวัดแพร่ ประมาณ ๓ กิโลเมตร บริบทผู้ปกครองมีค่านิยมในการส่งบุตรหลานไปเรียนในโรงเรียนยอดนิยมประจำจังหวัดแพร่ ส่งผลทำให้จำนวนนักเรียนลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องต่อไป อีกทั้งสถานการณ์ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เยาวชนและชุมชนกำลังอยู่ในสภาพแห่งการถดถอยและความเสี่ยงทั้งด้านพฤติกรรมและการเรียนรู้ สภาพปัญหาด้านด้วยการเรียนรู้ของโรงเรียนในปัจจุบัน ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว โรงเรียนต้องจัดการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวเข้ากับการเรียนรู้ในปัจจุบัน สามารถเรียนรู้ได้ในทุกที่ทุกเวลาและมีทักษะดิจิทัลเพื่อการการเรียนรู้ในการใช้ชีวิตและดูแลตนเองได้
ด้วยการใช้ทักษะดิจิทัลเพื่อการการเรียนรู้เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการปรับตัวในปัจจุบัน เช่น การทำงานที่บ้าน การเรียนที่บ้าน การสั่งของออนไลน์ การใช้เงินแบบดิจิทัล จึงอาจกล่าวได้ว่า นอกจากทักษะพื้นฐานที่จำเป็นที่ทุกคนได้ศึกษาเล่าเรียนมาแล้ว ยังต้องมีทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตด้วย การใช้ดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพชีวิตที่เหมาะสมและมีความสุข ทักษะการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ การศึกษาเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นการเรียนรู้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด นวัตกรรมใหม่ ๆ มีบทบาทต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และมีแนวโน้มในการเพิ่มขีดความสามารถมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การจัดการศึกษาจึงต้องมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งข้อมูล ข่าวสารสาระความรู้ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบูรณาการเชื่อมโยงทั้งด้าน ศาสตร์ ศิลป์ ชีวิต และเทคโนโลยี ตอบสนองความต้องการและความถนัดของผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างสร้างสรรค์ ทักษะการใช้ดิจิทัลที่คาดหวังให้เกิดกับผู้เรียน เช่น การรู้และใช้สื่อ (Media Literacy) สามารถสร้างสรรค์ สร้างสื่อ ใช้สื่อ เพื่อการสื่อสารและเรียนรู้ สร้างคุณค่าให้กับตนเองและสังคม แยกแยะสื่อที่เป็นความจริง (Fact) และความเห็น (Opinion) ออกจากกันได้ รู้ผลกระทบ และ ผลที่ติดตามมาจากการใช้สื่อ ทักษะในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการติดต่อ สื่อสาร เพื่อการทำงานร่วมกัน (Communications and collaboration) เป็นทักษะเพื่อกิจการสังคม สื่อสารสังคมใช้งานระบบออนไลน์ เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร และเท่าทันการรับรู้ข่าวสาร รู้ผลกระทบการให้ข่าวสารที่ผิด ทั้งเรื่องศีลธรรม จรรยาธรรม และ ทักษะความสามารถในการใช้ดิจิทัลเพื่อจัดการดูแลอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนในโลกไซเบอร์ (Career & Identity management) ให้ปลอดภัยและสร้างสรรค์ เช่น รหัสผ่าน ลายนิ้วมือ เลขบัตรประชาชน มีความรู้เรื่องพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัย และป้องกันความเสี่ยง เป็นต้น
ดังนั้นโรงเรียนถิ่นโอภาสวิทยา อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการใช้ทักษะดิจิทัลเพื่อการการเรียนรู้ ควบคู่กับการส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ได้อย่างทัดเทียมและทั่วถึง จึงได้นำเรื่องการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ มาเป็นประเด็นท้าทายในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายจุดเน้นนโยบายระยะเร่งด่วน (Quick Win) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแพร่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนการสอน และการบริหารจัดการสถานศึกษา ให้ครูและนักเรียนเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructures) และสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล ส่งเสริมให้ เกิดทักษะการสืบค้นและเรียนรู้ด้วยตนเองได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถต่อยอดความรู้เดิมและประยุกต์ ใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมทั้งกับตนเองและสังคม
โรงเรียนถิ่นโอภาสวิทยา อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ จึงบริหารงานและขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยกระบวนการบริหาร IPOOR Model โดยจัดสำรวจความต้องการ ความจำเป็นของโรงเรียน ทุกคนร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมทำและประเมินนิเทศติดตามร่วมกัน มีการประชุมมอบหมายและกระจายอำนาจไปยัง ๔ กลุ่มบริหารในโรงเรียน ประกอบไปด้วยกลุ่มบริหารวิชาการ กลุ่มบริหารงบประมาณ กลุ่มบริหารทั่วไป กลุ่มบริหารบุคลากรและกิจการนักเรียน ขับเคลื่อนการทำงานให้มีคุณภาพด้วยรูปแบบกระบวนการบริหาร IPOOR Model ดังรูป
กระบวนการบริหารงาน IPOOR Model
I - Input and Innovation ร่วมคิด ร่วมวิเคราะห์ ร่วมทำ นำเข้าข้อมูลสู่กระบวนการ ด้วยการคิดค้น ปรับเปลี่ยนและสร้างนวัตกรรมใหม่อย่างสร้างสรรค์
P - Precess and PDCA พัฒนากระบวนการ วิธีการ สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ เริ่มตั้งแต่การวางแผน วิเคราะห์ปัญหา การกำหนดเป้าหมาย การดำเนินงาน สร้างเป็นแผนในการดำเนินงานให้ครอบคลุม และการสะท้อนการทำงานจนถึงสิ้นสุดกระบวนการ
O - Output ผลผลิตผลที่เกิดขึ้นสิ่งที่ได้รับในแต่ละช่วงของกระบวนการ การสร้างนวัตกรรม
O - Outcome ผลลัพธ์ ผลสัมฤทธิ์และคุณค่าที่เกิดขึ้นในกระบวนการ
R - Reflective การสะท้อนผลลัพธ์ ผลสัมฤทธิ์และคุณค่าที่เกิดขึ้นเพื่อนำมาพัฒนา การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ที่เกิดขึ้น
ซึ่งในการบริหารงานผ่านกระบวนการบริหาร IPOOR Model เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการบริหารด้วยวิธีการที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจและร่วมดำเนินงานโดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ เพื่อพัฒนานักเรียนได้อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานทางการศึกษาของชาติ รวมถึงเป้าหมาย พันธกิจ กลยุทธ์ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของโรงเรียน และสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียน ให้เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน
การทำงานให้มีคุณภาพด้วยกระบวนการ P-D-C-A
1. P – Plan การวางแผน และวิเคราะห์ปัญหา คือ การกำหนดเป้าหมายจากปัญหา และสร้างออกมาเป็นแผนในการดำเนินงาน เพื่อทำให้แผนงานประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นในขั้นตอนนี้จะต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนเสียก่อน และต้องกำหนดให้ครอบคลุมกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงสิ้นสุดกระบวนการ
2. D – DO การลงมือปฏิบัติ คือ เป็นขั้นตอนของการลงมือปฏิบัติตามแผน โดยนำแผนดังกล่าวมาใช้ดำเนินการ
จริงเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ หัวใจสำคัญของขั้นตอนนี้คือ การทดสอบเก็บข้อมูล ซึ่งเป็นการทดสอบแผนงานจากกระบวนการที่ก่อนหน้านี้เพื่อเก็บผลลัพธ์ โดยนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาเพิ่มและใช้งานจริงภายหลัง
3. C – Check การตรวจสอบ (Check) คือ ขั้นตอนในการตรวจสอบ เพื่อหาช่องทางในการพัฒนากระบวนการ
ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และพิจารณาผลลัพธ์ในขั้นตอนลงมือปฏิบัติว่าสามารถทำให้เป้าหมายที่วางแผนไว้แต่แรกเป็นจริงได้หรือไม่ หากเป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้ ก็สามารถไปสู่ขั้นตอนต่อไป
4. A – Act การปรับปรุงแก้ไขและวางแผนใหม่ คือ ขั้นตอนของการดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้กระบวนการต่าง ๆ ดีขึ้นเมื่อเราได้วางแผน ทดสอบลงมือทำตามกระบวนการ ขั้นตอนต่อมาก็คือ การนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง ส่วนใหญ่พบว่าเหตุที่ทำให้วงจร PDCA ไปไม่ถึงความสำเร็จ เนื่องจากมีข้อจำกัดทางด้านทรัพยากร เช่น บุคคล เงินทุน เวลา ทักษะ เป็นต้น