วัดบ้านสิ ตำบลสิ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่มากวัดหนึ่ง มีอายุมากกว่า 220 ปีตามประวัติความเป็นมาทราบว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่งนามว่า ซาคูจางวางเป็นพระภิกษุที่จาริกมาจากลาวเวียง (ประเทศลาว) ยกลุ่มท่านซาคูจางวางได้แยกตัวออกจากกลุ่มใหญ่ (กลุ่มเดิมอยู่ที่บ้านไทรอีกกลุ่มแยกทางบ้านขุนหาญ) และได้มาพบทำเลซึ่งเป็นที่อุดมสมบูรณ์มีแหล่งน้ำอยู่ใกล้หนองสิ อันเป็นทำเลที่เหมาะสมในการจัดตั้งหมู่บ้านและได้พาคณะสร้างเป็นที่พักสงฆ์ขึ้นที่มอใกล้หนองน้ำ (มอ คือเนินดิน) ที่มอนั้นตั้งชื่อว่าโนนบักแดง ต่อมาท่านซาคูจางวางได้ย้ายที่ตั้งขึ้นมาทางด้านเหนืออีกราว 1 กิโลเมตร ส่วนหนึ่งก็ย้ายไปทางด้านใต้ (ส่วนที่ย้ายไปทางด้านทิศใต้ทราบว่าไปตั้งเป็นบ้านเลียวเดิม) ส่วนท่านซาคูจางวางที่ย้ายมาทางทิศเหนือก็ได้ตั้งกุฏิสงฆ์ขึ้น ในราวปี พ.ศ.2323 หลังจากท่านซาคูจางวางถึงแก่มรณภาพก็มีองค์สืบต่อคือซาคูโส
เมื่อท่านซาคูโสมรณภาพก็มีท่านซาคูสิ้วสืบต่อ ที่พักสงฆ์ก็มีความเจริญมาโดยลำดับ จนมาถึงสมัยหลวงพ่อทูล มีการพัฒนาที่พักสงฆ์ขึ้นมาก จึงส่งผลให้ได้รับอนุญาตสร้าง และอนุญาตตั้งจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้เป็นวัดที่ถูกต้องสมบูรณ์ เมื่อ พ.ศ.2435 หลังจาก ท่านพระอธิการทูล มรณภาพก็มีพระอธิการทัน ธัมมโฆตปัญโญ เป็นอาวาส ได้นำพาชาวบ้านพัฒนาวัดและก่อสร้างอุโบสถจนแล้วเสร็จ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2472 ต่อมาหลวงพ่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และท่านได้มรณภาพ เมื่อพ.ศ. 2491 ขณะท่านอายุได้ 84 ปี ต่อจากนั้นก็ได้มีพระภิกษุสงฆ์ผู้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน
ประเพณีบุญผะเหวดวัดบ้านสิ ท่านผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าต่อๆกันมาว่า ในคราวที่หลวงพ่อ พระอุปัชฌาย์ทันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่นั้น หลวงพ่อได้เล่าบอกญาติโยมว่าท่านจำความได้ ก็เห็นเขาทำประเพณีบุญผะเหวดอยู่แล้ว จึงไม่สามารถสันนิษฐานและชี้ชัดได้ว่า ประเพณีบุญ ผะเหวดวัดบ้านสิเริ่มทำกันมาแต่คราวใดและชาวบ้านสิก็ได้ร่วมอนุรักษ์ สืบสาน มาตลอดทุกปีจนถึงปัจจุบัน โดยเมื่อครั้งก่อนๆการกำหนดวันทำบุญประเพณีฟังเทศน์ผะเหวดจะมีการประชุมชาวบ้านเป็นปีๆไป และในทุกปีก็จะกำหนดเอาวันที่เหมาะสมไม่กำหนดตายตัว ส่วนใหญ่แล้ว
จะกำหนดอยู่ระหว่างเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน