กระโดดไกลเป็นหนึ่งในกีฬาที่ถูกบรรจุลงสู่การแข่งขันโอลิมปิก แต่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มกรีฑาประเภทลาน โดยจะมีทั้งการ วิ่งกระโดดสูง, การทุ่มน้ำหนัก, การขว้างจักร, การพุ่งแหลน และการวิ่งกระโดดไกล ที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญพิเศษส่วนตัวเท่านั้น พร้อมความคล่องแคล่วและความแข็งแกร่งของร่างกาย รวมไปถึงความคิดที่รวดเร็ว ต้องรู้จักการวิ่งในจังหวะที่ถูกต้อง เพื่อบังคับให้ร่างกายสามารถกระโดดออกไปได้ไกลมากที่สุด ดังนั้นจึงถือว่าเป็นหนึ่งในกีฬาที่ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ประวัติกระโดดไกลเริ่มต้นมาจากการถูกบันทึกให้เป็นหนึ่งในกีฬา ที่ได้เปิดการแข่งขันมาตั้งแต่ช่วงสมัยโอลิมปิกโบราณและในยุคสมัยใหม่ก็ยังคงมีการแข่งขันประเภทนี้อยู่ ซึ่งหัวใจหลักของการแข่งกระโดดไกล คือ ความเร็ว, ความแข็งแกร่ง และการพาตัวเองกระโดดไปสู่เป้าหมายให้ไกลมากที่สุด โดยจะมีเส้นตั้งต้นที่เป็นเส้นกำหนด เมื่อกระโดดออกไปแล้วจะวัดจากจุดที่ลงจุดแรก ส่วนใหญ่จะใช้เป็นส้นเท้าลง จากนั้นจะมีการวัดว่าใครที่ไปได้ไกลกว่า สำหรับการแข่งขันช่วงแรกเริ่มในปี ค.ศ.1896 จะมีแต่เฉพาะการแข่งกระโดดไกลของผู้ชายเท่านั้น ส่วนการแข่งขันของผู้หญิงมาเริ่มต้นในช่วงปี ค.ศ.1948 ส่วนจุดเริ่มต้นจริงของกีฬากระโดดไกลมีตั้งแต่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว จึงถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มกีฬาที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลกและรวมอยู่ในกลุ่มของกรีฑาที่มีรูปแบบแตกต่างออกไป
จุดเริ่มต้นของกีฬากระโดดไกลมาจากการสู้รบ เพราะท่าของการกระโดดในระยะทั้งใกล้และไกลเป็นการฝึกอบรมของทหารในยุคโบราณ เพื่อการเอาตัวรอดในสนามรบ แต่เมื่อสงครามสงบลงจึงถูกสร้างให้เป็นการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกรุ่นโบราณ ดังนั้น เมื่อนักรบไม่ได้ออกไปสู้เหมือนในอดีตจึงกลายมาเป็นนักกีฬา กระโดดไกล ที่สามารถนำทักษะพิเศษส่วนตัวมาคว้ารางวัลไปครอง การฝึกฝนของเหล่านักรบในช่วงแรกที่ต้องกระโดดไกล คือ การกระโดดข้ามทั้งลำธารและคูน้ำ เมื่อฝึกบ่อยครั้งจึงทำให้ร่างกายเกิดความแข็งแกร่งและมีทักษะที่ดีเยี่ยม ส่วนการกำหนดน้ำหนักของการลงพื้นในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ 1-4.5 กิโลกรัมเท่านั้น และในการแข่งกระโดดไกลแต่ละครั้งจะต้องสามารถผลักให้ตัวเองไปสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด พร้อมการลงพื้นได้โดยไม่ลงไปนั่งหรือล้มแต่อย่างใด การฝึกฝนจึงใช้ทรายปูพื้นเป็นหลัก เพราะพื้นทรายจะนุ่ม รองรับเท้าได้ดี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายมากจนเกินไป
และสำหรับช่วงแรกของการแข่งขันกีฬากระโดดไกลในโอลิมปิกปี ค.ศ.1896 ผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์แห่งการกระโดดไกลและคว้ารางวัลเหรียญทองได้สำเร็จ คือ นักกีฬา กระโดดไกลอย่าง Ellery ที่สามารถทำระยะทางในการกระโดดได้สูงถึง 6.35 เมตร จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของการแข่งกระโดดไกลที่ถูกบันทึกไว้เป็นสถิติโลก แต่หลังจากนั้นได้ 25 ปี Jesse Owen สามารถที่จะกระโดดได้ไกลถึง 8.13 เมตร และถูกทำลายสถิติอีกครั้งที่ระยะ 8.95 เมตร ซึ่งผู้ที่ทำลายสถิติได้นั้นเป็นนักกีฬา กระโดดไกลผู้หญิง จึงทำให้กีฬาประเภทนี้ไม่แบ่งแยกชาย-หญิงและได้การยอมรับมายาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นกีฬาสำคัญในการแข่งขันทั้งระดับประเทศและระดับโลกจนถึงปัจจุบัน
กติกากระโดดไกล คือ การที่นักกีฬาแต่ละคนจะต้องเข้าแข่งขันแล้วทำสถิติให้ดีที่สุด จากนั้นจะมีการรวมคะแนนจากสถิติที่ทำไว้มาตัดสิน ใครที่ทำคะแนนกระโดดไกลได้ดีที่สุดคนนั้นจะถือว่าเป็นอันดับที่ 1 สำหรับการกระโดดจะมีเส้นที่นักกีฬาจะต้องใช้ปลายเท้าเสมอกับเส้น จากนั้นให้ย่อตัวลงแล้วกระโดดลงไปในบ่อทราย หรือจะวิ่งมาก่อนแล้วกระโดดตรงเส้นที่ถูกกำหนดไว้ก็ได้เช่นกัน สามารถใช้ท่ากระโดดไปทางด้านหน้าหรือใช้ท่าด้านข้างได้ทั้งหมด ส่วนการเขย่งก้าวกระโดดจะใช้การก้าวขาออกไปก่อนแล้วกระโดด พร้อมการเขย่งที่จะใช้เท้าเดียวและเมื่อลงสู่พื้นจะใช้เท้าเดียวกันกับที่เขย่งเหยียบลงบนกระดาน จากนั้นจะมีการวัดระยะทางและรวมสถิติเพื่อตัดสินผลเช่นเดียวกับการแข่งกระโดดไกลตามปกติ
เทคนิคการกระโดดไกล
สำหรับเทคนิคของการกระโดดไกล จะต้องทำให้ร่างกายเกิดความสมดุลกันตั้งแต่ช่วงวิ่ง โดยจะมีระยะของการวิ่งที่แล้วแต่คนจะถนัด สำหรับการฝึกฝนช่วงแรกจะใช้เป็นบอร์ดเพื่อสปริงตัว การวิ่งตั้งแต่เริ่มต้นจะต้องเร่งความเร็วให้ได้มากที่สุด จากนั้นเมื่อถึงแผ่นบอร์ดให้กระโดดด้วยการเอนตัวไปด้านหน้าแล้วพุ่งออกไปให้เร็วที่สุด ในขณะที่กระโดดให้เปลี่ยนท่าสู่การใช้เท้าลงพื้น ช่วงขณะที่กำลังกระโดดให้ย่อสะโพกลงและพยายามให้ขาทั้งสองข้างสมดุลกันมากที่สุด ส่วนช่วงที่ลอยตัวอยู่บนอากาศควรกางแขนออก ให้ลักษณะคล้ายกับโดนแขวนกลางอากาศแล้วให้แกว่งขาเหมือนกำลังวิ่งอยู่กลางอากาศ ส่วนในขณะที่ลงพื้นให้รวบขาทั้งสองข้างแล้วเหยียดขาออกไป เพื่อทำให้ได้จุดของการลงที่ไกลมากที่สุด
กีฬากระโดดไกลถือว่าเป็นการใช้ทักษะพิเศษสำหรับการแข่งขัน ดังนั้นผู้ที่เป็นนักกีฬาจึงต้องมีความแข็งแรงพอสมควร จะต้องมีการฝึกฝนอย่างหนักและทำท่าอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ก่อให้เกิดอันตราย เนื่องมาจากท่าของการกระโดดมีความพิเศษ ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนที่ดีอาจทำให้ช่วงล่างหรือช่วงสะโพกบาดเจ็บหนักและอาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บเรื้อรังในอนาคตอีกด้วย
ขั้นตอนการวิ่งกระโดดไกล
กีฬากระโดดไกลนั้น จะได้ว่าเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬา คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ทั้งนี้เป็นเพราะ การเล่นกีฬาชนิดนี้นั้น สามารถทำได้อย่างง่ายดายและไม่ยุ่งยากซับซ้อน นอกจากนี้ยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆให้มากมาย อีกด้วย สำหรับการเล่นกีฬาประเภทนี้นั้น แท้จริงแล้วสามารถเริ่มต้นเล่นได้โดยง่าย โดยผู้ที่เล่นนั้น มีสิ่งที่จำเป็นต้องรู้แค่เทคนิค ท่าและขั้นตอนพื้นฐานสำหรับการกระโดดไกล เท่านั้น เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเริ่มเล่นได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามสำหรับผู้เล่นมือใหม่หลายๆคนอาจจะมีความสงสัยว่า นอกเหนือไปจากกฎกติกาและข้อห้ามต่างๆแล้วขั้นตอนการกระโดดไกล มีกี่ขั้นตอน ซึ่งในวันนี้เราจะพาผู้อ่านมาหาคำตอบกัน ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว มีขั้นตอนพื้นฐานสำหรับการเล่นกีฬากระกระโดดไกล ดังต่อไปนี้
การออกตัววิ่ง
ในขั้นตอนแรกของการเล่นกีฬากระโดดไกลนั้นแน่นอนว่าจะต้องเป็นจังหวะสำหรับการออกตัววิ่ง โดยผู้เล่นจำเป็นจะต้องวิ่งออกจากจุดสตาร์ทและค่อยๆเพิ่มความเร็วก่อน ใช้จะความเร็วสูงสุดเมื่อไปถึงจุดเริ่มกระโดด ทั้งนี้ความเร็วในการวิ่งนั้นจะเป็นตัวช่วยในการส่งแรงกระโดดให้กับตัวนักกีฬานั่นเอง
จังหวะการกระโดด
เมื่อนักกีฬาวิ่งมาถึงจุดสำหรับเริ่มกระโดดแล้ว แน่นอนว่าในขั้นตอนต่อไปจะต้องเป็นจังหวะกระโดดนั่นเอง โดยในขั้นตอนนี้นักกีฬาจะต้อง มีความเร็วและจังหวะการก้าว ก่อนถึงจุดเริ่มกระโดดที่สัมพันธ์กัน จากนั้นจึงหยุดในจุดเริ่มกระโดดและ และย่อตัวลงเล็กน้อยส่งแรงทั้งหมดที่มีในการสปริงตัวขึ้นไป บนอากาศ นั่นเอง
จังหวะการลอยตัวบนอากาศ
ขั้นตอนที่ 3 สำหรับกีฬากระโดดไกลนั้น คือจังหวะการลอยตัวบนอากาศนั่นเอง ซึ่งถึงแม้ว่าจังหวะนี้จะเป็น ช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นแต่ทว่ากลับมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าขั้นตอนอื่นๆเลยทีเดียว โดยในขั้นตอนนี้ นักกีฬาหลายคนอาจจะมีเทคนิคการลอยตัวที่แตกต่างกันไป บ้างก็ใช้การซอยเท้าคล้ายกับการวิ่งอยู่ในอากาศ หรืออีกหลายต่อหลายคนก็อาจใช้ลักษณะท่าทางการลอยตัวบนอากาศให้คล้ายกับการนอนหงายและอยู่เฉยๆเพื่อที่จะลอยตัวให้ได้นานที่สุดนั่นเอง
จังหวะการลงพื้น
ในส่วนของขั้นตอนสุดท้ายนั่นก็คือจังหวะการลงสู่พื้นนั่นเอง แล้วท่านตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะเป็นตัวตัดสินผลการแข่งขันให้กับนักกีฬาทุกคนนั่นเอง โดยในจังหวะนี้นักกีฬา ทุกคนจำเป็นจะต้อง ฝึกฝนและสรรหาเทคนิคเฉพาะตัวมาใช้ในการแข่งขันเพื่อให้ตนเองนั้นสามารถลอยและ ลงสู่พื้นได้อย่างมั่นคงรวมถึงมีระยะทางที่ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
และทั้งหมดนี้คือขั้นตอนการกระโดดไกลในเบื้องต้น ที่เราได้รวบรวมมาฝากกันซึ่ง สำหรับใครที่รู้และเข้าใจเกี่ยวกับกฎกติกา รวมไปถึงขั้นตอนต่างๆ สำหรับการเล่นกีฬากระโดดไกลแล้ว ก็สามารถเริ่มต้นฝึกฝนการเล่นกีฬาประเภทนี้ได้เลยทันที ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้การเล่นกีฬา กระโดดไกลประสบความสำเร็จได้นั้น ย่อมเป็นความตั้งใจความขยันและการฝึกฝนที่สม่ำเสมอนั่นเอง