ประวัติความเป็นมาของ...ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์...
ประวัติความเป็นมาของ...ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์...
"การแห่ไม้ค้ำสะหลี” หรือ “การแห่ไม้ค้ำต้นโพธิ์”
โดยคำว่า ‘สะหลี’ เป็นภาษาล้านนา มาจากคำว่า ‘ศรี’ อันหมายถึงพระศรีมหาโพธิ์ การแห่ไม้ค้ำศรี หรือการแห่ไม้ค้ำต้นโพธิ์ อันหมายถึง “พระศรีมหาโพธิ์” เป็นพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาจากการที่กลุ่มคนนำไม้ค้ำไปค้ำที่ต้นโพธิ์ ซึ่งไม้ค้ำที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษนี้ จะถวายทานในเทศกาลสงกรานต์ การที่ได้นำเอาไม้ค้ำไปค้ำที่ต้นโพธิ์ เหมือนการค้ำชูพระพุทธศาสนา ชาวล้านนาเชื่อว่า เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์แล้ว ทุกคนควรจะทำพิธีสืบชะตาของตน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง บางพื้นที่จะตัดไม้ง่าม ขนาดตามความพอใจ ทาด้วยขมิ้นสีเหลือง หรือประดับตกแต่งด้วยกระดาษสีสันสวยงาม นำไปเข้าพิธีสืบชะตา พิธีแห่ไม้ค้ำสลี เป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวล้านนา ตามประวัติเล่าว่า เมื่ออดีตกาลได้เกิดพายุลมแรง พัดเอากิ่งไม้สลี หรือต้นโพธิ์ ภายในวัดหักลงมา ชาวบ้านได้ช่วยกันทำไม้ค้ำสลีมาถวายวัด เพื่อช่วยค้ำพยุงต้นโพธิ์ ไม่ให้หักโค่นลงมาได้อีก
เมื่อพูดถึงไม้ค้ำศรี (ไม้ค้ำโพธิ์) ในวัฒนธรรมล้านนาแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่าคนเมืองจะมีประเพณีตานไม้ค้ำศรีในช่วงประเพณีสงกรานต์ และประเพณีแป็ดเป็ง เพื่อค้ำยันกิ่งไม้สำคัญในพุทธศาสนา ไม้ค้ำดังกล่าว จะถูกคัดมาจากไม้ที่มีง่าม สำหรับรองรับกิ่งต้นโพธิ์ ที่ทอดเป็นพุ่มแตกทรงเป็นวงกว้าง ด้วยความเชื่อในอดีตที่ว่าการตัดก้านตอนกิ่งไม้โพธิ์จะตกขึดกับผู้กระทำ จึงไม่ค่อยมีใครกล้าตัดกิ่งก้านแผ่ขยายร่มกว้าง ทำให้มีการตานไม้ค้ำเพื่อพยุงกิ่ง จนเป็นประเพณีและเพื่ออานิสงส์ตามความเชื่อ
ไม้ที่นิยมนำมาทำไม้ค้ำอีกชนิดหนึ่งคือ ไม้ก้ำ หรือไม้คล้ำ ไม้ผลัดใบขนาดกลาง ยอดใบเป็นก้านพุ่ม มีเปลือกหนา ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ตามต้นศรีมหาโพธิ์ โดยสังเกตจากไม้ค้ำศรีที่เป็นไม้ก้ำจะไม่แกะเปลือกออก เพื่อเวลานำมาค้ำแล้ว ไม้ยังอาศัยเนื้อเยื่อจากเปลือกในการเจริญเติบโตแตกรากเป็นต้นไม้ ในลักษณะของการปักชำ เพื่อความมั่นคงในการค้ำกิ่งไม้ ซึ่งบางทีเราจะพบต้นไม้ก้ำที่แตกกิ่งก้านสาขาขึ้นอยุ่ข้างต้นศรีมหาโพธิ์ หรือไม้สำคัญที่อยู่ในวัด
นอกจากนี้ ไม้ก้ำ หรือไม้ค้ำ ยังเชื่อว่าเป็นไม้มงคลที่ใช้มัดเสาเอก หรือใส่หลุมเสาเรือนเป็นสิริมงคลบ้าน “ค้ำชูเป็นไม้ค้ำยัน” ให้กับบ้านเรือนที่สร้างขึ้นใหม่อีกด้วย
ไม้ค้ำโพธิ์ หรือ ไม้ค้ำศรี (ออกเสียงว่าสะหลี) จะเป็นไม้ง่าม อาจทำมาจากไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้ฉำฉา หรือไม้เนื้อแข็งแกะสลักสวยงาม จะมีกรวยดอกไม้ธูปเทียน และกระบอกไม้อ้อ หรือไม้ไผ่บรรจุน้ำ และทรายผูกติดกับไม้ง่ามไปด้วย ตรงบริเวณง่ามของไม้ก็จะมีหมอนรองไว้ เชื่อว่าจะหนุนค้ำจุนพระศาสนา ให้อยู่ยืนยาวตลอดไป
การตานไม้ค้ำศรีนี้ถือคติว่า
1. เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการค้ำชูพระศาสนาให้ยาวนานต่อไป
2. เพื่อเป็นการสืบชะตา ค้ำอายุตัวเอง และเสริมศิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่
ในบางวัดมีต้นโพธิ์ใหญ่กิ่งก้านสาขามากมาย ได้โอกาสนี้ใช้ไม้ค้ำโพธิ์ยึดค้ำกิ่งก้านสาขาไว้ไม่ให้โน้มลงมาจนกิ่งหักได้
ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์บ้านดงหลวง...
ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์บ้านดงหลวง จัดทุกวันที่ 17 เมษายน ของทุกปี เป็นประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานของภาคเหนือตอนบน ซึ่งมีความเชื่อว่าต้นไม้สะหลีหรือต้นโพธิ์ เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่พระพุทธศาสนามายาวนาน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าประทับอาศัยร่มเงา ในคืนที่ทรงพิจารณาสภาวธรรม และก่อนการตรัสรู้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๘ เมษายน ในทุกตำบลของอำเภอเวียงหนองล่อง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมแห่ไม้ค้ำโพธิ์และถือว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญในวันสงกรานต์ ที่เสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน ในการจัดแห่ไม้ค้ำโพธิ์ของวัดบ้านดงหลวง ตำบลวังผาง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ได้มีการจัดขบวนรถแห่ไม้ค้ำโพธิ์ที่ตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม พร้อมเครื่องสักการะเช่น หมากสุ่ม หมากเบ็ง ต้นผึ้ง ต้นเทียน เป็นต้น มีการแต่งกายด้วยชุดพื้นเมือง นอกจากนี้ในขบวนแห่ยังมีการแสดงออกถึงวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่นและความหลากหลายของ ไม้ง่ามนั้นเรียกว่า "ไม้ค้ำโพธิ์" หรือ "ไม้ค้ำสะหลี" ซึ่งนอกจากจะเป็นการค้ำยันกิ่งไม่ให้ล้มแล้ว ยังมีความหมายไปถึงการค้ำชูพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวสืบต่อไป
ไม้ค้ำโพธิ์ นอกจากจะช่วยค้ำต้นโพธิ์ไว้แล้ว ประเพณีดังกล่าวถือเป็นการสร้างความสามัคคีในชุมชนและหากผู้ใดได้ร่วมพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ปัจจุบันจะพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก โดยจะกระทำกันในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพียงปีละครั้งเท่านั้น
ข้อมูลเนื้อหา โดย : นางสาวเพชรรัตน์ ยอดแก้ว และ นางสาวรัชดา เสมอใจ
เรียบเรียงเนื้อหา โดย : นางสาวเพชรรัตน์ ยอดแก้ว และ นางสาวรัชดา เสมอใจ
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย : เทศบาลตำบลวังผาง/@นิยมพานิชบ้านโฮ่ง
ข้อมูลคลังความรู้ประชาชน (TKP) : ประจำเดือน พฤษภาคม 2566