ลักษณะภายนอกของไส้เดือน
ลักษณะภายนอกที่เด่นชัดของไส้เดือน คือ การที่มีลําตัวเป็นปล้องตั้งแต่ส่วนหัวจนถึง ส่วนท้าย มีรูปร่างเป็นรูปทรงกระบอก มีความยาวในแต่ละชนิดไม่เท่ากัน เมื่อโตเต็มที่จะมีปล้อง ประมาณ 120 ปล้อง แต่ละปล้องจะมีเดือยเล็ก ๆ เรียงอยู่โดยรอบปล้อง ไม่มีส่วนหัวที่ชัดเจน ไม่ มีตา ไม่มีหนวด แต่มี Clitellum (ไคลเทลลัม) คือ อวัยวะที่เป็นวงแหวน หรือ มดลูกของไส้เดือน
ลักษณะภายนอกของไส้เดือนประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ที่สําคัญ ดังนี้
1.พรอสโตเมียม ( Prostomium) เป็นปล้องแรกของไส้เดือน มีลักษณะเป็นพูเนื้อที่ อยู่ติดกับผิวด้านบนของช่องปาก เป็นตําแหน่งหน้าสุดของไส้เดือนลักษณะคล้ายริมฝีปากสามารถยืดและหดได้ทําหน้าที่สําหรับกวาดอาหาร
2. เพอริสโตเมียม (Peristomium) อยู่ถัดจากพรอสโตเมียม มีลักษณะเป็นเนื้ออยู่ ล้อมรอบปากสามารถยืดหดได้ 3. ช่องปาก (Oral cavity) เป็นช่องทางเข้าออกของอาหารเข้าสู่ร่างกาย มีต่อม น้ำลายที่ผลิตสารหล่อลื่นอาหารที่กินเข้าไป
ลักษณะภายนอกของไส้เดือนประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ที่สําคัญ ดังนี้
1.พรอสโตเมียม ( Prostomium) เป็นปล้องแรกของไส้เดือน มีลักษณะเป็นพูเนื้อที่ อยู่ติดกับผิวด้านบนของช่องปาก เป็นตําแหน่งหน้าสุดของไส้เดือนลักษณะคล้ายริมฝีปาก สามารถยืดและหดได้ทําหน้าที่สําหรับกวาดอาหาร
2. เพอริสโตเมียม (Peristomium) อยู่ถัดจากพรอสโตเมียม มีลักษณะเป็นเนื้ออยู่ ล้อมรอบปากสามารถยืดหดได้
3. ช่องปาก (Oral cavity) เป็นช่องทางเข้าออกของอาหารเข้าสู่ร่างกาย มีต่อม น้ำลายที่ผลิตสารหล่อลื่นอาหารที่กินเข้าไป
4. เดือยหรือขน (Setae) มีลักษณะคล้ายขนสัตว์แข็ง ๆ อยู่ส่วนนอกของผนังลําตัว สามารถขยายออกหรือหดตัวลงได้เชื่อมต่อกับระบบประสาทใต้ผิวหนังสําหรับป้องกันตัว รับ ความรู้สึกจับยึดกับวัตถุหรือส่วนของดิน
5. ช่องเปิดกลางหลัง (Dorsal pore) เป็นช่องเปิดขนาดเล็กตั้งอยู่ในร่องระหว่าง ปล้อง บริเวณแนวกลางหลังสามารถพบช่องเปิดชนิดนี้ได้ในไส้เดือนเกือบทุกชนิด มีหน้าที่ขับ ของเหลวหรือเมือกภายในลําตัวออกมาช่วยลําตัวภายนอกชุ่มชื้นป้องกันการระคายเคือง ทําให้ เคลื่อนไหวง่าย
6. รูขับถ่ายของเสีย (Nephridiopore) เป็นรูที่มีขนาดเล็กมาก สังเกตเห็นได้ยาก เป็นรู สําหรับขับของเสียออกจากร่างกาย เป็นรูเปิดภายนอก ซึ่งมีอยู่เกือบทุกปล้อง ยกเว้น 3-4 ปล้องแรก
7. ช่องสืบพันธุ์เพศผู้ (Male pore) เป็นช่องสําหรับปล่อยสเปิร์ม จะมีอยู่ 1 คู่ตั้งอยู่ บริเวณลําตัวด้านท้องหรือข้างท้อง ในแต่ละสายพันธุ์ช่องสืบพันธุ์อยู่ในปล้องที่ไม่เหมือนกัน มี ลักษณะเป็นแอ่งคล้ายหลอดเล็กยาวเข้าไปภายใน 8. ช่องสืบพันธุ์เพศเมีย (Female pore) เป็นช่องสําหรับออกไข่ โดยทั่วไปมักตั้งอยู่ ในปล้องถัดจากปล้องที่มีรังไข่ (Avary) มักจะพบเพียง 1 คู่ ตั้งอยู่ในร่องระหว่างปล้องหรือบน ปล้อง ตําแหน่งที่ตั้งมักจะแตกต่างกันในไส้เดือนแต่ละพันธุ์
9. ช่องเปิดสเปิร์มมาทีกา (Spermathecal porse) เป็นช่องรับสเปิร์มจากไส้เดือน คู่ผสมอีกตัวหนึ่งขณะมีการผสมพันธุ์แลกเปลี่ยนสเปิร์มซึ่งกันและกัน เมื่อรับสเปิร์มแล้วจะนําไป เก็บไว้ในถุงเก็บสเปิร์ม (Seminal receptacle)
10. ปุ่มยึดสืบพันธุ์ (Genital papilla) เป็นอวัยวะที่ช่วยในการยึดเกาะขณะที่ ไส้เดือนจับคู่ผสมพันธุ์กัน
11. สี (pigmentation) เกิดจากเม็ดสีหรือแถบสีที่ปรากฏภายใต้เนื้อเยื่อผิว ไส้เดือน บางชนิดมีสีแดง ชมพูน้ำตาล หรืออาจผสมกันเป็นสีเทา สีเขียว น้ำเงิน บางครั้งพบเป็นสีเหลือง น้ำตาลเข้มถึงสีดํา ปกติสีลําตัวด้านท้อง (ventral) จะอ่อนกว่าสีลําตัวด้านหลัง (dorsal) แต่พวก ที่ขุดโพรงลึก ๆ มีสีเท่ากันตลอดลําตัวและส่วนใหญ่มีสีอ่อนกว่าพวกที่อยู่บนผิวหน้าดิน