การพูดเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตมนุษย์ เพราะเป็นการสื่อสารให้บุคคลอื่นเกิดความเข้าใจในความต้องการ ความคิดเห็น หรืออารมณ์ความรู้สึกจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง นอกจากนี้การพูดที่ดียังสามารถ จูงใจสร้างความพึงพอใจ รักใคร่ เคารพนับถือครองใจคนได้เป็นอย่างดี การพูดจึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีแก่ทุกคนโดยผลนำไปสู่ความสุขความสำเร็จ ซึ่งทุกคนสามารถฝึกฝนให้เกิดความชำนาญแล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสมส่งผลให้บุคคลนั้นเป็นที่รักและศรัทธาแก่บุคคลทั่วไป
เรื่องที่ 1.1 การพูดสนทนา
การพูดสนทนา เป็นการพูดเพื่อติดต่อสื่อสารกันระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ในการพูดสนทนาโต้ตอบ อาจมีทั้งการพูดตอบรับหรือพูดปฏิเสธพูดแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมทั้งประเด็นที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม คู่สนทนาควรใช้คำพูดที่สุภาพ ไม่ห้วนหรือไม่เป็นคำหยาบคาย เลือกใช้คำพูดที่เหมาะสมกับคู่สนทนา
1) องค์ประกอบของการพูดสนทนา
(1) คู่สนทนา ซึ่งหมายถึงผู้พูดและผู้ฟังควรเป็นผู้มีความพร้อมและให้ความสนใจต่อการสนทนาระหว่างกัน ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร วางใจ ให้เกียรติ ในขณะที่คนหนึ่งพูดอีกคนหนึ่งควรเป็นผู้ฟังอย่างตั้งใจ จับประเด็นได้ หรือสาระสำคัญของผู้พูดโต้ตอบและเปลี่ยนสถานะมาเป็นผู้ฟังที่ดี จึงจะทำให้การสนทนาราบรื่น
(2) ประเด็นการสนทนาและวัตถุประสงค์ของการสนทนาในการพูดสนทนาเราสามารถกำหนดประเภทของการสนทนาเป็น 2 ประเภท คือ
- การสนทนาทั่วไปซึ่งมักจะเป็นการพูดคุยในชีวิตประจำวันการไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ การแสดงความเอื้ออาทร
- การสนทนาที่มีประเด็นเนื้อหาเฉพาะโดยมีการกำหนดวัตถุประสงค์สาระกรอบเนื้อหาการสนทนาที่ชัดเจน เช่น การสนทนาเพื่อแก้ปัญหาชุมชนเรื่องการระบาดของยาเสพติด การสนทนาเรื่องการแต่งตัวตามแฟชั่นยุคใหม่
(3) บรรยากาศการพูดสนทนา ซึ่งหมายถึงสิ่งต่างๆ ที่เอื้อหรือเป็นอุปสรรคของการพูดสนทนา เช่น สถานที่ เวลา สถานการณ์ มลภาวะทางเสียง อื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการพูดสนทนาด้วย
2) การพูดสนทนาระหว่างบุคคล
การพูดสนทนาระหว่างบุคคล ส่วนใหญ่จะเป็นการทักทายปราศรัยเพื่อสร้างสัมพันธ์ภาพที่ดีต่อกัน มีขั้นตอนที่พึงปฏิบัติดังนี้
ขั้นที่ 1 การแสดงความเป็นมิตร โดยการยิ้มแย้มแจ่มใส แสดงอาการยินดีที่ได้พบหรือได้รู้จักผู้ที่เราทักทาย กล่าวคำทักทายเป็นที่ ยอมรับกันในสังคม เช่น สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ/ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
ขั้นที่ 2 การแนะนำตนเอง การแนะนำตัวนับว่าเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นการแสดงความจริงใจเปิดเผย ซึ่งมีหลักปฏิบัติดังนี้ บอกชื่อ นามสกุล บอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเราพอสังเขป และบอกวัตถุประสงค์ในการแนะนาตัว
ขั้นที่ 3 การสนทนา คือการพูดคุยกันเพื่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ความคิด ความรู้สึก ประสบการณ์ ด้วยความเป็นมิตร จริงใจ ใช้ถ้อยคำสำนวนภาษาที่เข้าใจง่าย สุภาพ ใช้คำพูดและน้ำเสียงที่น่าฟังและเป็นกันเอง
ขั้นที่ 4 การลาเมื่อจบการสนทนา ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นที่สำคัญ ที่จะสร้างความประทับใจให้กับคู่สนทนาและเป็นการแสดงความมีมารยาทโดยการกล่าวชื่นชมคู่สนทนากล่าวขอบคุณและกล่าวลาอย่างสุภาพ
3) การพูดสนทนาในกลุ่ม
การพูดสนทนาในกลุ่มเป็นกิจกรรมที่สำคัญในยุคปัจจุบันทั้งในชีวิตประจำวันและในการศึกษา การอบรม ประชุม สัมมนา เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประสบการณ์ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วนำมาเล่าให้กันฟังมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 ขออนุญาตพูดสนทนากับกลุ่ม
ขั้นที่ 2 การพูดสนทนาไม่ควรใช้เวลานานเกินไปควรเปิดโอกาสให้ผู้อื่นพูดบ้าง เล่าถึงประเด็นเนื้อหาที่สำคัญ ๆ ว่ามีอะไรบ้าง
ขั้นที่ 3 ระหว่างพูดสนทนาใช้น้ำเสียงให้ชัดเจนน่าฟังได้ยินทั่วถึง
ขั้นที่ 4 ตอบข้อซักถามผู้ที่ยังมีข้อสงสัยด้วยวาจาสุภาพไม่ใช้อารมณ์ฉุนเฉียว หรือคำที่ไม่สุภาพ
ขั้นที่ 5 สรุปประเด็นสำคัญและขอบคุณทุกคนที่รับฟัง
4) มารยาทในการพูดสนทนา
- เตรียมตัวให้พร้อมในการปรากฏกายต่อหน้าผู้อื่น แต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะ ดูแลความสะอาดของร่างกายโดยเฉพาะกลิ่นตัวและกลิ่นปาก เพื่อป้องกันไม่ให้คู่สนทนารังเกียจหรือรำคาญ
- สร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง มีความกล้าพูดกล้าคุยไม่เก้อเขินต่อหน้าผู้อื่น คู่สนทนาหรือที่สาธารณะ
- หากมีการนัดหมาย กับคู่สนทนาต้องเป็นคนตรงต่อเวลาซึ่งถือว่าเป็นการให้เกียรติคู่พูดสนทนา
- ไม่พูดมากเกินไปจนคู่สนทนาไม่มีช่องว่างที่จะพูดหรือแสดงความคิดเห็นตอบโต้ ไม่ผูกขาดการพูดอยู่ฝ่ายเดียว
- ไม่ขัดจังหวะการพูดของคู่สนทนา แม้ว่าเขาจะพูดนานเกินไปจนเกิดความเบื่อหน่าย อย่าพูดแทรกกลางคันเพราะถือว่าเป็นการไม่สุภาพควรหาวิธีที่ละมุนละม่อม
- ไม่พูดจาโอ้อวดแต่เรื่องตนเอง เช่นความมีเสน่ห์ ความร่ำรวย ความฉลาด ความเก่ง ความยิ่งใหญ่ ซึ่งจะทำให้คู่สนทนาหรือกลุ่มสนทนารู้สึกไม่ดีต่อผู้พูดได้
- ไม่พูดในเรื่องที่ทำให้คู่สนทนาดูด้อยค่าหรือเกิดความเศร้าหมองอาจเป็นการทำร้ายจิตใจคู่สนทนาโดยผู้พูดไม่รู้ตัว ควรตระหนักคิดก่อนพูด
- ไม่นินทาว่าร้ายผู้อื่นเพราะจะทำให้คู่สนทนาเอือมระอาและไม่ต้องการร่วมเป็นคู่สนทนาด้วย
- ไม่ควรนำเรื่องส่วนตัวและเรื่องในที่ทางานไปพูดโดยเฉพาะการติเตียนผู้ร่วมงาน ผู้บริหาร หรือนายจ้าง หรือบ่นถึงเคราะห์กรรมโชคชะตาของตน
- อย่าปฏิเสธความหวังดีของคู่สนทนา หากเขาชี้ข้อบกพร่องหรือสิ่งที่เราควรปรับปรุง แม้เราอาจไม่พอใจแต่โดยมารยาทที่ดีแล้วควรยอมรับ คิดเสียว่าเขามีความปรารถนาดี
5) การพูดสนทนาที่ดีมีมนุษยสัมพันธ์
- พูดในเรื่องที่ควรพูด พูดด้วยความจริงใจ
- พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ
- พูดด้วยถ้อยคำที่สุภาพ
- เปิดโอกาสให้คู่สนทนาได้พูด
- ฟังคู่สนทนาพูดอย่างตั้งใจ เป็นผู้ฟังที่ดี
- ไม่พูดสอดแทรกในขณะที่คู่สนทนากำลังพูด
- พูดสนับสนุนคำพูดคู่สนทนาตามความเหมาะสม
- แสดงมารยาทในการพูด เช่น สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ
- สนใจคู่สนทนาตลอดระยะเวลาที่มีการสนทนานั้น
สรุปหลักการพูดสนทนา
1. วิเคราะห์ ผู้พูด ผู้ฟัง กาลเทศะ วัตถุประสงค์ โอกาส และเรื่องที่จะพูดหรือสนทนา
2. เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมวางอารมณ์กิริยา สีหน้าท่าทางตลอดจนน้ำเสียง และภาษาที่ใช้สอดคล้องกัน
3. พูดเรื่องที่ทำให้คู่สนทนาสนใจ
เรื่องที่ 1.2 การพูดสัมภาษณ์
1) ความหมายการพูดสัมภาษณ์
หมายถึงการสนทนากันอย่างมีเป้าหมาย ระหว่างผู้สัมภาษณ์และผู้ให้สัมภาษณ์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ถูกต้องเที่ยงตรง
2) วัตถุประสงค์ของการพูดสัมภาษณ์
1. เพื่อให้ได้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคล ทำให้ได้ข้อมูลที่มีคุณค่าน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น สมบูรณ์ขึ้น เป็นการเติมสาระสำคัญในเรื่องต่างๆ และเกิดรสชาติทางความรู้สึก
2. เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ไปเขียนเป็นบทความหรือนาไปใช้ประกอบสื่อต่างๆ
3. เพื่อกระตุ้นให้เกิดการกระทำจากข้อคิด หรือการนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์
3) องค์ประกอบสำคัญของการสัมภาษณ์
1. ผู้สัมภาษณ์
2. ผู้ให้สัมภาษณ์
3. เรื่องที่สัมภาษณ์
4. เป้าหมายการสัมภาษณ์
5. วิธีการสัมภาษณ์
4) ประเภทของการสัมภาษณ์
- การสัมภาษณ์เพื่อหาข้อเท็จจริง ผู้ให้สัมภาษณ์จะต้องเป็นบุคคลที่เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นผู้รู้เรื่องที่แท้จริง มีความเชี่ยวชาญหรือมีส่วนรู้เห็นในเรื่องต่างๆ
- การสัมภาษณ์เพื่อให้แสดงความคิดเห็น ผู้ให้สัมภาษณ์ควรเป็นบุคคลสำคัญที่ประชาชนอยากทราบความคิดเห็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ประชาชนสนใจ หรือเป็นการสัมภาษณ์เพื่อขอความคิดเห็นจากบุคคลที่หลากหลายในเรื่องเดียวกัน
- การสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัว เป็นการสัมภาษณ์ในภาพรวมเกี่ยวกับชีวิตของผู้ให้สัมภาษณ์หรือดึงเพียงประเด็นที่สำคัญและน่าสนใจก็ได้
5) คุณสมบัติของผู้สัมภาษณ์
1. มีการเตรียมตัวพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์
2. มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนในการสัมภาษณ์
3. มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่จะสัมภาษณ์เป็นอย่างดี
4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง
5. มีความเป็นคนช่างสังเกต
6. มีมนุษยสัมพันธ์และบุคลิกที่น่าเชื่อถือ
7. มีความรู้และมีไหวพริบในการตอบโต้
8. มีลักษณะของการเป็นผู้ฟังที่ดี
9. มีความสามารถในการจดบันทึกได้อย่างรวดเร็ว
6) การเตรียมคำถามเพื่อการพูดสัมภาษณ์
1. สั้น รัดกุม เหมาะสม ชัดเจน
2. มีใจความและแนวทางไปสู่จุดมุ่งหมายที่ต้องการ
3.ใช้คำถามปลายเปิดเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ตอบคำถามได้ยาวๆ
4. คำถามต้องมีลักษณะในการเสาะแสวงหาข้อเท็จจริง
5. หลีกเลี่ยงคำถามที่มีลักษณะตอบโต้หรือเกิดข้อพิพาทกับผู้ให้สัมภาษณ์เอง
7) วิธีการพูดสัมภาษณ์ที่ดี
- แนะนำตนเองแก่ผู้ให้สัมภาษณ์ด้วยความสุภาพ
- เริ่มต้นการสัมภาษณ์ด้วยคำถามง่ายๆ และเป็นกันเอง
- สร้างความคุ้นเคยกับผู้ให้สัมภาษณ์สร้างบรรยากาศที่ดี
- ไม่พูดอวดดีหรือแสดงท่าทีว่ารู้มากกว่าผู้ให้สัมภาษณ์
- ขออนุญาตก่อนใช้เครื่องมืออัดเสียง
- พูดถึงเป้าหมายการสัมภาษณ์ให้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น
- ระมัดระวังการพูดโดยใช้ภาษาให้เหมาะสมกับตำแหน่ง หน้าที่ หรือฐานันดร
- เรียงลำดับคาถามให้เหมาะสมเพื่อผู้ให้สัมภาษณ์ตอบได้อย่างราบรื่น
- อย่าเร่งเวลาหรือรีบรวบรัดให้จบ
- ควรบอกผู้ให้สัมภาษณ์ทราบเมื่อถึงคำถามสุดท้าย
- กล่าวคำขอบคุณและขออนุญาตลากลับด้วยความสุภาพ
- ไม่ควรพูดชี้นำหรือชักจูงให้ผู้สัมภาษณ์ตอบตามที่ตนคาดหวัง
8) การวางตัวเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์
- ไปถึงก่อนเวลานัดอย่างน้อย 10 นาที เพื่อดูแลความเรียบร้อยของตนเอง เช่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ใบหน้า ทรงผม และทำสมาธิก่อนเข้ารับการสัมภาษณ์
- นั่งรอด้วยความเรียบร้อย ไม่ควรแสดงอาการหงุดหงิดเมื่อต้องรอนาน ไม่เดินไปเดินมา มีความอดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
- เคาะประตูก่อนเข้าห้อง เพื่อเป็นการขออนุญาต เมื่อเข้าห้องแล้วปิดประตูไม่ให้มีเสียงดังและนั่งลงเมื่อได้รับอนุญาต
- ขณะถูกสัมภาษณ์ไม่ควรหลบตาหรือมองไปทางอื่น
9) การพูดขณะให้สัมภาษณ์
- พูดเสียงดังฟังชัด ไม่อู้อี้อยู่ในลำคอ แต่ก็ไม่ควรดังเกินไป
- น้ำเสียงเป็นกันเองไม่ใช้เสียงห้วนและเสียงแข็ง
- จังหวะการพูด ไม่ช้าหรือเร็วเกินไปแบ่งคำให้ถูกต้องเหมาะสม
- ระวังคำซ้ำคำเกินที่มากเกินควร เช่น เอ้อ อ้า แบบว่า ฯ
- ไม่ใช้คำสแลงเพราะเป็นคำที่รับรู้กับเฉพาะกลุ่มและบางคำถือเป็นคำไม่สุภาพ
- ไม่พูดมากเกินไปหรือน้อยเกินไป จนน่ารำคาญและไม่น่าประทับใจ
- ไม่พูดโกหก เพราะอาจเจอผู้มีประสบการณ์มากกว่าจับโกหกได้ จึงไม่เกิดผลดีมีแต่ผลเสีย
- เว้นการพูดจาโอ้อวดเกินความจริง
- ตั้งใจฟังคำถามและตอบไปอย่างปกติไม่ต้องรีบร้อนหรือนั่งคิดนานเกินไป ข้อที่ตอบไม่ได้ควรบอกโดยตรง อย่าพูดจาอวดรู้อวดดี
- เมื่อเสร็จการสัมภาษณ์ควรแสดงความเคารพและกล่าวคำขอบคุณ
สรุปการพูดสัมภาษณ์
คือ การสนทนาที่มีจุดมุ่งหมายโดยเฉพาะ ประกอบด้วยบุคคลสองฝ่ายคือผู้ถามและผู้ตอบแต่ละฝ่ายจะต้องมีการเตรียมการที่ดีจึงจะทำให้การพูดสัมภาษณ์บรรลุจุดมุ่งหมาย เพราะสิ่งที่ได้จากการพูดสัมภาษณ์มักจะเป็นเรื่องที่จะนำไปเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบ ดังนั้นผู้ที่สัมภาษณ์และผู้ให้สัมภาษณ์จะต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี มีทักษะในการฟัง เป็นคนช่างสังเกต มีปฏิภาณ ไหวพริบ และรู้จักสร้างบรรยากาศระหว่างการพูดสัมภาษณ์ให้เกิดความราบรื่น