วัดป่ายาง เดิมมีชื่อว่า วัดสันพระเจ้าแดง สร้างเมื่อ พ.ศ. 2405 ตามประวัติวัดแจ้งว่าเดิมเป็นที่วัดร้าง ต่อมามีชาวบ้านมาอาศัยอยู่มากขึ้น จึงร่วมใจกันสร้างวัด โดยในขั้นแรกได้สร้างวิหารก่อน จากนั้นจึงได้มีการอาราธนาพระพุทธรูปองค์หนึ่งซึ่งทาชาดสีแดงมาเป็นพระประธานในวิหาร จึงให้ชื่อวัดว่า "วัดสันพระเจ้าแดง" ในเวลาต่อมามีชาวบ้านเพิ่มขึ้นอีกหลายหลังคาเรือน ประกอบกับบริเวณหมู่บ้านมีต้นยางขึ้นหนาแน่น จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดจากเดิมมาเป็น "วัดป่ายาง" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2481 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 50 เมตร ยาว 60 เมตร
วัดเริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างในยุคสมัยของพระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว) เป็นเจ้าอาวาส (พ.ศ. 2464–2526) ภายหลังจากสิ้นครูบาขันแก้ว วัดป่ายางได้ตกอยู่ในสภาพทรุดโทรม จวบจนครูบากฤษดา สุเมโธ เข้ามารักษาการแทนเจ้าอาวาสในปี พ.ศ. 2539 ท่านจึงเริ่มปรับปรุงและพัฒนาวัดเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
อุโบสถหลังปัจจุบัน กว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร ลักษณะทรงล้านนา เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทั้งหลัง ภายในอุโบสถมีพระประธานศิลปะเชียงแสน พระนามว่า พระเจ้าแดง ขนาดหน้าตักกว้าง 7 ศอก ลงรักปิดทองทั้งองค์ วิหารพระปัจเจกโพธิกว้าง 3 เมตร ยาว 3 เมตร ลักษณะทรงล้านนา เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทั้งหลัง ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปเทวดาและพระสงฆ์น้อมโมทนาคุณของพระปัจเจกพุทธเจ้า วิหารพระอุปคุตกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร ลักษณะทรงล้านนา เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทั้งหลัง ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังจำลองสถานที่ใต้ท้องทะเล ซึ่งมีความเชื่อกันว่าสถานที่จำพรรษาของท่านนั้นอยู่ในปราสาทแก้ว กลางมหาสมุทร
วัดป่ายาง มีบรรยากาศร่มรื่นและรื่รรมย์ในธรรมเป็นอย่างยิ่ง บรรยาการกาศภายในสะอาดงามตา จึงอยากชักชวนให้มาเข้าวัดทำบุญตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การทำจิตใจให้สงบ รักษาศีล น้อมนำจิตไปสู่การเจริญภาวนา ขัดเกลาจิตใจให้สงบและมีสติมากยิ่งขึ้น เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับคนในชุมชน ทั้งในตำบลห้วยยาบและตำบลบ้านธิอีกด้วย
ข้อมูลเนื้อหา เรียบเรียง โดย นางสาววณิชยา พลับพลา
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย นางสาววณิชยา พลับพลา
นำเสนอประจำเดือน เมษายน 2567
ข้อมูลอ้างอิง
โอกิ๊ฟ ชาแนล