ความสำคัญและที่มา
การสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ และ พระธาตุ เป็นประเพณีความเชื่อดั้งเดิมมาแต่โบราณ ที่นิยมกระทำเป็นประจำทุกปี เปรียบเสมือนการได้สรงน้ำพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ทั้งหลาย โดยทั่วไปจะกระทำในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา หรือ วันงานเทศกาลประจำปี เช่น สงกรานต์ เป็นต้น และวิธีปฏิบัติในการสรงน้ำ ก็จะแตกต่างกันไป แล้วแต่ความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละท้องที่นั้นๆหรือแล้วแต่บุคคล สมัยโบราณมักจะบูชาพระบรมธาตุด้วยเครื่องหอม และข้าวตอกดอกไม้ ตามปกติแล้วจะสรงพระธาตุด้วยน้ำสะอาดบริสุทธิ์ หรือน้ำสะอาดเจือด้วยสิ่งบูชา แล้วแต่ความชอบ และความเชื่อในแต่ละท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่น น้ำหอม น้ำอบ ดอกไม้ กลีบดอกไม้ ฝักส้มป่อย หรือ แก่นไม้จันทน์ฝน เป็นต้น
เนื่องจากองค์พระบรมธาตุ ส่วนใหญ่บรรจุอยู่ใต้ฐานพระเจดีย์ การสรงน้ำจึงกระทำโดยการราดน้ำไปบนองค์พระเจดีย์ เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นของที่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นบริเวณรอบ องค์เจดีย์จึงนิยมทำกำแพงแก้วกั้นไว้เป็นบริเวณลาน (ข่วง) เจดีย์ บุคคลใดประสงค์จะเข้าไปที่ ลานในกำแพงแก้ว เพื่อกราบไหว้บูชา หรือเข้าไปทำความสะอาด ถ้าสวมหมวกจะต้องถอดออก ถ้าสวมรองเท้าต้อง ถอดรองเท้า และที่ห้ามเข้าไปในบริเวณลานเจดีย์ คือ ผู้หญิง ถือว่าถ้าผู้หญิงเข้าไปจะทำให้เสียความศักดิ์สิทธิ์ เรื่องเขตหวงห้ามนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องพระธาตุเจดีย์กับสตรี แต่ยังมีการห้ามฆราวาสผู้ครองเรือนเข้าเขตสงฆ์ ซึ่งแม้แต่บุรุษก็ไม่สามารถเข้าได้
พระธาตุศรีปิงเมือง เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งของชุมชนเวียงลอเป็นจอมเจดีย์องค์หนึ่งในจำนวนแปดแห่งของประเทศไทย เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สร้างในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช พระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไป ประเพณีสรงน้ำพระธาตุเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่สนใจของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำพูน และจังหวัดใกล้เคียง ประเพณีนี้ ยึดถือและปฏิบัติมาเป็นประจำทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. เพื่อเป็นการสักการะพระบรมธาตุฯ ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่ของวัดพระธาตุศรีปิงเมืองและนับเป็นโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ของชาวตำบลลอและชาวพุทธทั่วไป
2. เพื่อสักการะพระบรมธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
3. เพื่อเป็นการบูชาเสาหลักเมือง ทั้งนี้เพราะประชาชนชาวตำบลลอนับถือว่าเจดีย์พระบรมธาตุศรีปิงเมืองเป็นเสาหลักเมือง เมื่อทำพิธีสรงน้ำพระบรมธาตุศรีปิงเมือง จึงเท่ากับได้ทำบุญเสาหลักเมืองพะเยาด้วย
วัน 8 เป็ง หรือวันวิสาขบูชา เป็นวันสรงน้ำพระธาตุศรีปิงเมือง ตอนเช้าจะมีพิธีทำบุญตักบาตร รับศีลรับพรและสรงน้ำพระธาตุ บ่ายจะมีการจิบอกไฟ(จุดบ้องไฟ) เพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลก่อนเข้าฤดูทำนาในเดือนถัดไป นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันจิบอกไฟในหมู่บ้านด้วย ตกเย็นจึงประกอบพิธีเวียนเทียน
เมื่อผู้แข่งแห่บอกไฟไปถึงสถานที่กำหนดแล้ว ก็จะทำร้านสำหรับวางบอกไฟ เรียกว่า “ค้าง” ซึ่งจะต้องให้สูงกว่ายอดไม้ เวลาจะจุดก็เอาบอกไฟไปไว้บนค้าง หันหัวขึ้นให้ได้มุมประมาณ 45 องศา จากนั้นจึงจุด “เฝ่า” หรือดินปืน ซึ่งจะดันบอกไฟขึ้นข้างบน ทั้งนี้ก่อนจะมีการฮ่ำบอกไฟ คือ พรรณนาเรื่องราวความเป็นมาของบอกไฟที่จะจุดนั้น เช่น พูดถึงช่างประดิษฐ์บอกไฟ รวมถึงการพูดโอ้อวดประสิทธิภาพของบอกไฟที่ทำนั้นด้วย
ส่วนพิธีเวียนเทียนจะเริ่มหลังจากการแข่งขันบอกไฟสิ้นสุดแล้ว ชาวบ้านจะร่วมทำวัตรเย็นในวิหารกับภิกษุสงฆ์ เมื่อพระสวดจบ ก็นำชาวบ้านเวียนเทียนรอบพระธาตุศรีปิงเมือง