ประวัติศาสตร์


ในอดีตไนล์เป็นที่อยู่ของชนกลุ่มน้อยหลายเผ่าที่กระจัดกระจายอยู่ตามชายฝั่งของเขตลุ่มน้ำที่เรียกกันว่า ‘ดินแดนแห่งแม่น้ำร้อยสาย’  ในดินแดนที่แสนอุดมสมบูรณ์นี้พวกเขามีความเชื่อร่วมกันในเทพีแห่งสายน้ำซึ่งมอบความเขียวขจีและอุดมสมบูรณ์แก่ดินแดนในลุ่มน้ำนี้ เมื่อเวลาผ่านไปชนเผ่าริมน้ำต่างๆเริ่มรวมกลุ่มเพื่อต่อต้านภัยจากชนเผ่าเร่ร่อนบนหลังม้าจากทางตะวันตกที่เริ่มขยายอาณาเขตรุกคืบเข้ามาในดินแดนของพวกเขา ชนกลุ่มนั้นนับถือเทพเจ้าแห่งฤดูหนาวซึ่งเป็นอริกับเทพีแห่งสายน้ำ สุดท้ายแล้วชาวดินแดนแม่น้ำร้อยสายได้รับชัยชนะและขับไล่ผู้รุกรานออกไปได้สำเร็จ หลังจากนั้นสังคมชนเผ่าไนล์แห่งก็พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นประเทศและตั้งชื่อดินแดนของตนว่า ไนล์ (Nile) อันเป็นนามของเทพีแห่งสายน้ำ เพื่อให้นางช่วยปกปักรักษาลูกหลานของชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายสืบไป


ไนล์กลายเป็นเบ้าหลอมทางวัฒนธรรม ชาวไนล์ร่ำรวยขึ้นมาจากการค้าขายธัญพืช เหล้า เครื่องปั้นดินเผาและผ้าทอ อันเป็นความถนัดของชนเผ่าดั้งเดิมในชุมชนแม่น้ำร้อยสาย พ่อค้าชาวไนล์นิยมเดินทางด้วยเรือ เพราะสะดวกและสามารถลำเลียงสินค้าได้เป็นจำนวนมากในแต่ละครั้ง และเพราะความต้องการธัญพืช เหล้า เครื่องปั้นดิน เผา และผ้าทอนั้นมีมาก ไนล์จึงจำเป็นต้องพัฒนาการต่อเรือขนส่งสินค้าขึ้นมาให้เพียงพอต่อสำหรับการค้า ทำให้เกิดการพัฒนาของระบบคมนาคมในไนล์ นั่นส่งผลให้วิทยาการการต่อเรือของไนล์ก้าวหน้าและมีชื่อเสียงอย่างมากกระทั่งปัจจุบัน 


Timeline ประวัติศาสตร์ของไนล์โดยสังเขป

≈6000 Before A.D

ชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายที่ยังไม่มีอารยธรรมได้ต้อนรับการมาถึงของแมวบ้านคู่แรก พวกเขาปล่อยให้มันนอนบนกองหญ้าฟางที่ได้จากการเก็บเกี่ยวธัญพืชในทุ่งหญ้า กำจัดเศษอาหารและแบ่งปันไออุ่นแก่กันและกัน

≈5800 Before A.D.

ชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายเริ่มรู้จักการเพาะปลูก และไม่นานนักพวกเขาก็เริ่มเรียนรู้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งมีชีวิตขนปุยน้อยๆที่ชอบมานอนเอื่อยเฉื่อยรอแทะเศษเนื้อจากการล่าของมนุษย์นั้นสามารถไล่สัตว์ฟันแทะน่ารำคาญที่ชอบเข้ามาขโมยเมล็ดพืชที่เก็บเกี่ยวมาได้อย่างยากลำบากไปได้ ดังนั้นมนุษย์จึงเริ่มดูแลแมวด้วยความเอาใจใส่มากขึ้น

≈5500 Before A.D

เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดในสฟิงซ์จนจำนวนสฟิงซ์ลดลงเกือบถึงจุดวิกฤติ ฝูงสฟิงซ์ที่กระจัดกระจายในเทือกเขากลับต้องมารวมตัวกันเพื่อความอยู่รอด

จ่าฝูงของฝูงสฟิงซ์ที่แทบสิ้นตระกูลฝูงหนึ่งพบว่ามันไม่สามารถเลี้ยงดูลูกสฟิงซ์น้อยกำพร้าได้ จึงตัดสินใจคาบลูกสฟิงซ์น้อยไป ‘ฝาก’ ไว้กับครอบครัวสัตว์ตระกูลแมวที่กำลังเป็นแม่ลูกอ่อนเท่าที่มันจะหาได้ ก่อนที่มันจะพบว่าโอกาสรอดของสฟิงซ์น้อยที่ถูกนำไปฝากไว้กับแม่แมวครอกที่มีลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่ง–อาศัยอยู่กับครอบครัวมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตดินแดนแม่น้ำร้อยสาย–มีอัตรารอดชีวิตที่น่าทึ่ง

นับแต่นั้น สฟิงซ์ก็ได้สอดแทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแมวบ้าน–และมนุษย์–อย่างช้าๆ

4400-4200
Before A.D.

เกิดการรบพุ่งอย่างยาวนานระหว่างชนเผ่าแม่น้ำร้อยสาย กับชนเผ่าเร่ร่อนบนหลังม้าที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาจากตอนหนือในแถบที่เป็นประเทศซาเรสในปัจจุบัน ชนเผ่านี้นับถือเทพเจ้าแห่งฤดูหนาวที่มีชื่อว่าไซบีเรีย และเกิดเป็นตำนานการต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าแห่งฤดูหนาวกับเทพีแห่งสายน้ำขึ้น

สุดท้ายแล้วชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายก็สามารถเอาชนะชนเผ่าบนหลังม้า และขับไล่พวกเขาไปจากดินแดนได้ บางส่วนของชนเผ่าบนหลังม้าที่ถูกทิ้งไว้ก็ได้กลายเป็นเชลยศึก ผู้ใช้แรงงาน บางส่วนที่เหลือรอดอย่างผู้หญิง เด็ก ผู้บาดเจ็บที่ถูกทอดทิ้งไว้ที่ถูกมองว่าไม่ได้มีพิษภัย หลังถูกกักตัวในพื้นที่เล็กๆเพื่อสังเกตุการณ์ก็ได้รับอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐาน ไม่นานก็หลอมรวมเข้ากับชาวไนล์

4200-4000
Before A.D.

เกิดภัยหนาวที่รุนแรงที่สุดต่อเนื่องยาวนาน ผู้คนล้มตายมากมายเพราะขาดแคลนอาหาร จอมเวทของชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายแต่โบราณมีความหวาดกลัวว่าชนเผ่าเร่ร่อนบนหลังม้าจะหวนกลับมา พวกเขารวมตัวกันสร้างมหามนตราที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ตราไว้ตามต้นน้ำ แม่น้ำ และแหล่งน้ำต่างๆ ทำให้แม่น้ำสายต่างๆในไนล์ไม่กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว ผลพลอยได้คือกลับมีต้นไม้ที่งอกงามขึ้นเพราะสายน้ำ และชีวิตก็เริ่มงอกเงยอีกครั้ง

4020-3950
Before A.D.

เกิดเหตุวุ่นวายในทริสทอร์ทำให้การปกครองส่วนท้องถิ่นภายในของทริสทอร์นั้นเกิดความระส่ำระส่าย ชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายถือโอกาสขยายอาณาเขตเข้าครอบครองเขตเทือกเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของทริสทอร์ ซึ่งสุดท้ายแล้วพื้นที่างส่วนที่ถูกยึดครองมาได้นี้จะกลายมาเป็นเขตปกครองซัคคาราของไนล์ในปัจจุบัน

≈2500
Before A.D.

ก่อตั้งวิหารเทพีแห่งสายน้ำอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก โดยการรวมเอาเหล่าผู้ศรัทธาเป็นกลุ่มก้อน และสังคายนาตำนานของนางให้มีเหลือเพียงบทหลักสำนวนเดียว

แม้แต่หัวหน้าของชนเผ่าทั้งหลายก็ยังถือพระราชอำนาจของเทพีเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด

≈1700 Before A.D.

ชาวชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายได้รับรู้เป็นครั้งแรกโดยบังเอิญ…ว่าในบรรดาแมวน้อยผู้ช่วยจัดการสัตว์ฟันแทะของเขานั้น….มีสิ่งมีชีวิตที่น่าเกรงขามอย่างสฟิงซ์แฝงตัวอยู่อย่างลับๆ

พวกเขารู้กิตติศัพท์ความดุร้ายของสฟิงซ์ดีและไม่กล้าไล่มันไป จึงทำได้แต่คอยดูแลไปจนกว่าสฟิงซ์เหล่านั้นจะโตและจากไป

≈1525 Before A.D.

ผู้ใช้เวทของชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายค้นพบวิธีที่จะแยกลูกสฟิงซ์น้อยจากลูกแมวน้อยเป็นครั้งแรก พวกเขาปฏิบัติกับพวกมันด้วยความเคารพเป็นพิเศษเนื่องจากได้ทราบแล้วว่าสฟิงซ์เหล่านั้น แม้โตเต็มวัยจนถึงช่วงที่สามารถเดินทางกลับสู่เทือกเขาสูงเองได้แล้ว พวกมันบางส่วนก็ยังเดินทางกลับมาอาศัยกับพี่น้องแมวตัวน้อยๆของมันเช่นเดิม

≈1200 Before A.D

ชนเผ่าแม่น้ำร้อยสายจับมือกันก่อตั้งประเทศ โดยในระยะเริ่มต้นมีการเปลี่ยนชื่อเรียกดินแดนนี้ไปหลายชื่อ ก่อนที่สุดท้ายแล้วทุกชนเผ่าจะเห็นตรงกันว่าให้ใช้ชื่อตามพระนามของเทพีแห่งสายน้ำ หรือก็คือ ‘ไนล์’

≈327 Before A.D.

ชาวไนล์เฉลิมฉลองวันแมวเป็นครั้งแรก พวกเขาคิดสร้างเทศกาลนี้ขึ้นมาเพื่อระลึกถึงความเสียสละของแมวที่ช่วยปกป้องพืชพันธุ์ธัญญาหารของชาวไนล์จากสัตว์รบกวน

A.D. 24

ไฮคิงดราโกเนียประกาศให้ใช้ภาษากลางและค่าเงินเดียวกัน

ประชาชนในไนล์บางส่วนต่อต้าน เพราะจาก ‘ฟาโรห์’ ที่เรียกกันด้วยภาษาถิ่น ในภาษากลางจะถูกเรียกว่าคิงเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ซึ่งชาวไนล์มองว่าเป็นการลบเลือนอัตลักษณ์ของไนล์ สุดท้ายทางการในตอนนั้นจึงต้องประกาศให้ใช้คำว่าคิงในเอกสารทางการ และคำว่าฟาโรห์ก็ยังคงเป็นภาษาปากของชาวไนล์มาจนกระทั่งปัจจุบัน

A.D. 153

เอเดนแพ้สงครามกับเดมอส และตกอยู่ใต้การปกครองของเดมอสอย่างสมบูรณ์

สงครามกินเวลาเพียง268วัน ปีศาจก็นำทัพยึดส่วนใหญ่ของเอเดนได้สำเร็จ ผู้นำประเทศในเอเดนยามนั้นจึงเลือกยอมแพ้

ราชสำนักไนล์จับตามองการเคลื่อนไหวของชาวเดมอส รวมถึงทริสทอร์ที่เป็นเพื่อนบ้านอย่างเงียบๆและระแวดระวัง ถึงแม้มีขุนเขาและสัตว์ร้ายขวางกั้นอยู่แต่พวกเขายังไม่อาจวางใจ เพราะกลัวทริสทอร์จะฉวยโอกาสมาแย่งชิงดินแดนที่ครั้งหนึ่งเป็นของตนกลับคืนไป

เหล่านักล่า นายพรานตามป่าเขาล้วนเริ่มฝึกสัตว์ร้ายเพื่อการล่า สัตว์อันตรายอย่างมังกรหรือกริฟฟินก็ยังมีผู้ฝึกสอนและใช้งานกันโดยทั่วไป

ชาวไนล์ตัดสินใจแล้วว่านอกจากจะให้ความเคารพยำเกรงแก่สฟิงซ์ซึ่งเป็นเผ่าพันธ์ที่สูงส่ง พวกเขาควรจะร่วมมือกันกับสัตว์ร้ายที่สูงสง่าชนิดนี้เพื่อผ่านพ้นวิกฤติ

การวิจัยเพื่อฝึกสอนสฟิงซ์จึงเริ่มต้นขึ้น

A.D. 167

หลังจากรวบรวมชนเผ่าต่างๆเข้ามาร่วมภายใต้การปกครองของฟาโรห์มากขึ้นเรื่อยๆ ก็มีการเปลี่ยนระเบียบกฏมณเฑียรบาลจากการกดดันของชนเผ่าอื่นๆและประเทศรอบข้าง จากการที่ให้บุตรคนโตของฟาโรห์ไม่ว่าเพศใดก็สามารถครองบัลลังก์ได้ เป็นให้สิทธิ์การครองบัลลังก์แก่เพียงบุตรชายคนโต และราชสันตติวงศ์เพศชายเท่านั้น

A.D. 246

วิจัยแอพส์สำเร็จเป็นครั้งแรก และถูกนำไปทดลองใช้ร่วมกันการฝึกสอนสฟิงซ์ในทันที

A.D. 280

ก่อตั้งกองบินสฟิงซ์อย่างเป็นทางการ สายบัญชาการขึ้นตรงกับเสนาธิการฝ่ายขวาและกษัตริย์ตามลำดับ

A.D. 394

ออกกฏหมายสัมมะโนประชากรแมวเพื่อควบคุมประชากรแแมว และเฟ้นหาประชากรแฝงของสฟิงซ์ในหมู่แมวอย่างลับๆ

A.D. 442

ในวันกลางฤดูร้อนเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในไนล์ เป็นผลมาจากการที่วิหารเทพีแห่งสายน้ำในแต่ละท้องถิ่นไม่ทำงานร่วมมือเป็นเอกเทศจึงให้ให้เกิดผลลัพธ์น่าเศร้า ทั้งผู้คนและปศุสัตว์บาดเจ็บล้มตายมากมาย ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย ราชสำนักจึงเข้ามาแทรกแซงศาสนจักรเพื่อให้วิหารได้ปฏิรูปองค์กรขึ้นใหม่ และในคราวนี้ได้รวมอำนาจของวิหารให้อยู่ภายใต้อำนาจของกษัตริย์เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นอีก

A.D. 498

วิหารเทพีแห่งสายน้ำขาดแคลนทรัพยากรนักบวชอย่างมาก จึงจัดตั้งโครงการฝึกอบรมการจัดการทรัพยากรน้ำภาคประชาชนเพื่อรับอาสาสมัครเข้ามาช่วยดูแลโครงการต่างๆของวิหาร ซึ่งโครงการนี้ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยกลายเป็นโครงการที่ผู้ที่ต้องการเป็นนักบวชของศาสนจักรมักจะสมัครเข้ามาเพื่อเรียนรู้และทดลองใช้ชีวิตแบบนักบวช

A.D. 607

กษัตริย์แห่งไนล์สนองบัญชาเรียกระดมพลของไฮคิง มุ่งหน้าเข้าร่วมมหาสงครามพันวัน 

กองบินสฟิงซ์ซึ่งเป็นอาวุธลับที่ไนล์ซุ่มฝึกฝนมาตลอดก็ได้เผยตัวในสงครามครั้งนี้ เป็นการแสดงแสนยานุภาพเพื่อแสดงให้เห็นว่าไนล์มีศักยภาพเพียงพอที่จะต่อสู้ปกป้องประเทศของตน

A.D. 889

ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ประชาชนของไนล์กับฟรานซ์มักมีปัญหากระทบกระทั่งกันตามชายแดนมาโดยตลอด ความขัดแย้งของชาวไนล์และชาวฟรานซ์ค่อยๆสะสมหนักขึ้น จนถึงจุดหนึ่งจึงกลายเป็นว่าไม่มีการผ่อนปรนซึ่งกันและกัน ชาวฟรานซ์เริ่มจะขับไล่แมวออกจากถิ่นฐานบ้านเรือนของพวกเขา และในขณะเดียวกันชาวไนล์ก็ขับไล่สุนัขออกไปเช่นกัน กลายเป็นว่าเริ่มมีประชากรสัตว์จรสำนวนมาก บางส่วนก็อพยพย้านถิ่นข้ามเขตแดนกันไปมา ชาวไนล์บางส่วนก็ใช้วิธีแก้ปัญหาโดยการรับแมวจนเหล่านี้มาเป็นสัตว์เลี้ยงเสียเลย

และเมื่อประชากรแมวเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากเดิมที่เป็นเพียงการที่ทางการขอความร่วมมือกับประชาชนให้งดเว้นการเพาะปลูกลิลลี่ หลังจากเหตุการณ์นี้ทำให้การปลูกลิลลี่ถูกแบนในไนล์โดยสมบูรณ์ รวมถึงห้ามการนำเข้าและซื้อขายลิลลี่อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพราะลิลลี่เป็นสัญลักษณ์ของฟรานซ์เท่านั้น แต่ทุกส่วนในต้นลิลลี่ตั้งแต่รากจนถึงเกสรเป็นพิษต่อแมวอย่างรุนแรงจนทำให้แมวน้อยสามารถตายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

A.D. 1002

เกิดโรคระบาดขึ้นในฟรานซ์ โดยมีพาหะนำโรคเป็นหนู ความเสียหายลุกลามเป็นวงกว้างจนไม่อาจเยียวยาได้โดยง่าย ทว่าทางไนล์ที่มีแมวคอยควบคุมประชากรหนูกลับแทบไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เหตุการณ์นี้นับเป็นจุดแตกหักของความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนชาวไนล์และฟรานซ์ เนื่องจากมีการปิดพรมแดนไม่ไปมาหาสู่ อนุญาตให้ผ่านทางเฉพาะขบวนสิ่งของบรรเทาทุกข์และต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทำให้คนจากทั้งสองฝั่งพรมแดนมีการติดต่อปฏิสัมพันธ์กันน้อยที่สุด 

A.D. 1003

ถึงจะมีการประกาศห้ามการเดินทางเข้าออก แต่หลายครั้งก็ยังพบคนที่มีอาการป่วยตามแนวพรมแดน กษัตริย์ของไนล์ในขณะนั้นจึงประกาศให้ใช้วิหารเทพีแห่งสายน้ำเป็นจุดศูนย์กลางในการกระจายยาและเวชภัณฑ์ ผู้มีความรู้เรื่องสมุนไพรและการพยาบาลเป็นที่ต้องการตัวอย่างสูง สถานศึกษาและการฝึกอาชีพในสาขาวิชาเกี่ยวกับการแพทย์ โอสถ เวชศาสตร์ต่างๆกลายเป็นสายอาชีพที่ร้อนแรงและได้รับความสนใจมากที่สุด ทำให้ในช่วงเวลานี้เป็นหนึ่งในช่วงเวลารุ่งเรืองของการศึกษาด้านแพทย์และสมุนไพรในไนล์

คนไนล์ที่มีนิสัยรักความสะอาดสะอ้านเป็นทุนเดิมบางส่วนกลายเป็นว่ามีนิสัยหมกมุ่นกับการทำความสะอาดไปเลยด้วยเหตุนี้

A.D. 1119

รามเสส ราโฮเทป ที่สาม กษัตริย์แห่งไนล์ สวรรคตอย่างกระทันหันด้วยพระชนม์มายุ 43 ชันษา

แต่งตั้ง อัคอามอน นาร์เมอร์ อดีตเสนาบดีฝ่ายขวาแห่งไนล์ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แทนเจ้าชายเซธ รัชทายาทที่ยังศึกษาที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก

A.D. 1120

เจ้าชายเซธ ราห์โฮเทป ที่สอง จบการศึกษาจากโรงเรียนพระราชา และเสด็จกลับไนล์เพื่อขึ้นครองราชย์ ดำรงพระยศเป็นกษัตริย์แห่งไนล์

A.D. 1126

กษัตริย์เซธได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงลูอิซา สกอร์ปิอัส เจ้าหญิงแห่งสกอร์ปิโอ และสถาปนาพระชายาขึ้นเป็น ลูอิซา ราห์โฮเทป ราชินีแห่งไนล์ 

A.D. 1127

ทั่วเอเดนรับบัญชาแรกจากไฮคิง “สังคายนาการคมนาคมทั้งเอเดน”

ไนล์จัดตั้งที่พักหลวงสำหรับนักเดินทาง และร่วมมือกับสมาคมแพทย์โอสถให้จัดจ้างแพทย์ประจำที่พักเเหล่านี้ในทุกเส้นทาง รวมถึงออกกฏหมายควบคุมการเดินทางทางอากาศในพื้นที่ของไนล์อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นครั้งแรก

A.D. 1128

สำนักวิจัยอุปกรณ์เวทมนตร์แห่งไนล์สำเร็จการวิจัยอุปกรณ์ฝึกสอนและควบคุมสฟิงซ์สำหรับประชาชนทั่วไป ทางการไนล์จึงได้เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถขึ้นทะเบียนครอบครองอุปกรณ์ควบคุมนี้เพื่อฝึกสอนและใช้สฟิงซ์เป็นพาหนะได้เป็นครั้งแรก

A.D. 1137

สงครามเวนอล-คาโนวาล เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม

ทางการของไนล์ไม่ได้มีการประกาศให้ประชาชนเฝ้าระวังอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ให้มีการรักษาความปลอดภัยภายในประเทศให้มีความรัดกุมมากขึ้นเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีลักลอบเข้ามาก่อความวุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับขบวนคาราวานข้าวปลาอาหาร และจับตามองการกักตุนสินค้าของพ่อค้าต่างชาติ

A.D. 1138

ราชินีลูอิซ่ามีพระประสูติการแก่เจ้าชายพระองค์แรกของกษัตริย์เซธ

เมื่อเจ้าชายองค์โตของกษัตริย์ถือกำเนิด ตำแหน่งรัชทายาทที่เคยอยู่ที่เจ้าชายโฮเรมเฮบ อนุชาของกษัตริย์เซธมาตั้งแต่กษัตริย์ขึ้นครองราชย์ในปี 1119 จึงถูกส่งมอบให้แก่เจ้าชายน้อยตามกฏมณเทียรบาล

A.D. 1139

แอเรียสเข้าร่วมสงครามเวนอล-คาโนวาล โดยการร่วมเข้าโจมตีเวนอล เกิดความตึงเครียดขึ้นที่เขตชายแดนโดยฉับพลัน กษัตริย์เซธสั่งให้มีการตรึงกำลังตามชายแดนแอเรียสในทันทีเพื่อป้องกันผู้หวังเข้ามาสร้างสถานการณ์  กองบินสฟิงซ์ลาดตระเวนตลอดแนวพรมแดนตลอดทั้งกลางวันกลางคืน

A.D. 1147

เริ่มการพิจารณากฏหมายว่าด้วยตำแหน่งผู้สืบราชสันตติวงศ์ฉบับใหม่

A.D. 1150


---------------ปีปัจจุบัน (เริ่มเหตุการณ์ในคอมมูนิตี้)---------------