สฟิงซ์ :
สัตว์วิเศษประจำชาติ


อ้างอิงจาก Sphinx ,สฟิงซ์ แห่งกีซ่า 


" สฟิงซ์ " ในที่นี้ เป็นการตีความและสร้างนิยามขึ้นมาใหม่ตามจินตนาการของผู้ดูแลประเทศไนล์ของคอมมูนิตี้ ToBss3
โดยสร้างขึ้นให้มีความเหมาะสมกับเซ็ตติ้งของคอมมู ToBss3 เท่านั้น  ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงที่อื่นได้

และไม่สามารถนำไปอ้างอิงนอกเหนือจากการพูดถึงในเนื้อหาคอมคอมมูนิตี้ ToBss3 โดยไม่ได้รับอนุญาต





สฟิงซ์เป็นสัตว์วิเศษล้ำค่าของไนล์ ถิ่นอาศัยของพวกมันอยู่บนเทือกเขาสูงทางใต้ที่ติดต่อกับทริสทอร์ พวกมันมีลักษณะเด่นคือมีร่างกายใหญ่ กล้ามเนื้อหนา แต่เคลื่อนไหวปราดเปรียว อุ้งเท้าใหญ่มีกรงเล็บแข็งแรง หางยาวมีพวงขนตรงปลาย รูปลักษณะของร่างกายเหมือนสิงโต มีปีกคู่ใหญ่บนหลัง  

ลักษณะนิสัยของสฟิงซ์นั้น เป็นสัตว์ที่ชาญฉลาดและดุร้าย อยู่รวมกันเป็นฝูง มีความผูกพันกับพวกพ้องสูงและเป็นสัตว์ที่เจ้าคิดเจ้าแค้น โดยเฉพาะกับชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ไม่ใช่พวกพ้องตนเองจะถูกเกลียดอย่างที่สุด หวงถิ่นของตัวอย่างร้ายกาจ สฟิงซ์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติยังคงออกล่าเป็นกลุ่ม 

ภายในขอบเขตน่านฟ้าของไนล์นั้นพวกมันเป็นนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุด


สฟิงซ์ของไนล์มีสามสายพันธุ์ ได้แก่ 



อายุขัยของสฟิงซ์อยู่ที่ 25-30 ปี พวกมันจะโตเต็มวัยในช่วงอายุประมาณ 2 ปี เมื่อถึงวัยผสมพันธ์ จะมีลูกสฟิงซ์ครอกละ 1-3 ตัว ในกลุ่มสฟิงซ์ป่าหลายครั้งที่มักพบพฤติกรรมการช่วยกันเลี้ยงลูกสฟิงซ์จากแม่สฟิงซ์ร่วมฝูงที่มีลูกในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

จำนวนของสฟิงซ์ที่สามารถพบตัวได้ในธรรมชาติมีน้อย แต่ไม่ใช่เพราะพวกมันมีอยู่น้อย ตรงกันข้ามเลยทีเดียว สฟิงซ์นั้นเป็นสัตว์วิเศษที่ชาญฉลาด หลายๆคนได้เลี้ยงพวกมันไว้ตามบ้านเรือน ให้ที่พัก อาหาร เสื้อผ้า ของเล่น พวกมันได้กินอยู่อย่างราชา มีคนปรนนิบัติเอาใจ

เพราะเหตุว่าสฟิงซ์นั้นชาญฉลาด มันจึงแฝงตัวอยู่ในมวลหมู่แมวมาตั้งแต่อดีตกาลแล้ว

ภายใต้รูปลักษณ์ที่น่าเกรงขาม สฟิงซ์นั้นเป็นสัตว์วิเศษที่ได้รับความรักและพรจากโลก ทำให้มันมีความสามารถที่ไม่เหมือนใครในการแปลงรูปลักษณ์



สฟิงซ์นั้นชาญฉลาด ต้นเผ่าพันธุ์ของสฟิงซ์ที่เกือบสูญพันธุ์ได้คัดเลือกแล้วคัดเลือกอีก เลือกเฟ้นอย่างดีจนกระทั่งในที่สุด—-เรียนรู้การแปลงรูปลักษณ์ให้อยู่ในสภาพของสิ่งมีชีวิตน้อยๆอันได้รับความรักจากผู้คนมากมายเพื่อการเอาชีวิตรอด


สฟิงซ์ในสังคมมนุษย์

ประวัติศาสตร์ของสฟิงซ์กับวิถีชีวิตของชาวไนล์นั้นต้องเท้าความไปถึงแมวป่าแห่งไนล์ที่มีวิถีชีวิตเกี่ยวพันกับชาวไนล์ตั้งแต่อดีตกาล พวกมันได้รับความรักความเอาใจใส่ ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี การได้รับความรักเช่นนี้ทำให้เป็นโอกาสสำหรับสฟิงซ์ที่ในคราหนึ่งพวกมันเกือบสูญพันธุ์เพราะโรคระบาดและความอดอยากได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง 

ความที่ลูกสฟิงซ์นั้นยามแรกเกิดก็หาได้ผิดแผกจากลูกแมวธรรมดา มันตัวเล็ก นุ่มนิ่ม หอมกลิ่นนม มีสารพัดสีและลวดลาย อุ้งเท้าสีชมพู น้ำตาล ไปจนถึงดำตามสีขนนุ่มนิ่มน่าถนอม รวมถึงไม่มีปีก พ่อแม่ของพวกมันจะส่งลูกๆของตัวสู่ครอบครัวแมวที่เพิ่งคลอดลูกใหม่ในยามค่ำคืน ลูกสฟิงซ์เหล่านี้จะเติบโตอยู่กับฝูงแมวหรือในบ้านของมนุษย์จนอายุครบ 2 ขวบปี อันเป็นเวลาที่แมวเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย ถึงตอนนั้นสัญชาตญาณของสฟิงซ์ในตัวพวกมันจะเรียกร้องให้พวกมันเดินทางกลับเข้าสู่ป่า ไปหาพ่อแม่ที่แท้จริง พวกมันจะผลัดขนเป็นสีทอง กลายร่างเป็นสฟิงซ์โตเต็มวัย อันโดรจะมีใบหน้าคล้ายกับมนุษย์ผสมกับสิงโต แผงคอยาวคล้ายกับเส้นผม ในพันธ์ุที่ตัวเล็กกว่า ใบหน้าจะมีลักษณะคล้ายมนุษย์ผสมกับแกะ(ครีโอ)และมนุษย์ผสมกับนกเหยี่ยว(เฮียราโก้) ปีกเองก็จะปรากฏขึ้นในช่วงอายุนี้

หลังจากการเดินทางกลับถิ่นฐาน สฟิงซ์บางตัวยังคงพำนักในป่าเขา ไม่ได้หวนกลับมายังชุมชนมนุษย์อีก แต่สฟิงซ์บางตัวยังคงเปลี่ยนกลับมาอยู่ในรูปลักษณ์ของแมว และกลับสู่ครอบครัวมนุษย์ที่ซึ่งมันได้รับการต้อนรับ เป็นที่อยู่อาศัยแสนสุข สฟิงซ์ในกลุ่มนี้จะเดินทางกลับสู่ป่าในฤดูผสมพันธุ์ทุกๆ 1-2 ปี

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถแยกลูกสฟิงซ์ออกจากแมวธรรมดาได้เสียเลย มีสิ่งประดิษฐ์หนึ่งที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในยุคชนเผ่าแม่น้ำร้อยสาย มันถูกเรียกว่า แอพส์ เป็นสร้อยที่มีลักษณะคล้ายงู ถูกทำขึ้นพร้อมกับการร่ายมนตราโบราณ ทำให้แผ่นโลหะสีทองบนสร้อยเมื่อเขย่าแล้วจะมีเสียงกรุ๋งกริ๋งคล้ายกระดิ่ง ฟังดูไพเราะสำหรับมนุษย์ แต่สำหรับสฟิงซ์แล้วเสียงของแอพส์ทำให้พวกมันตื่นตัว หากเขย่าแอพส์เหนือฝูงแมวที่กำลังหลับ ลูกแมวตัวที่กระดิกหูและลุกขึ้นมาอย่างซุกซนแทบจะทันทีนั้นล้วนเป็นสฟิงซ์ทั้งสิ้น

ปัจจุบันหากสฟิงซ์ตัวนั้นมีฐานะเป็นแมวเลี้ยงตามบ้านเรือน ในเวลาที่พวกมันถูกนำไปลงทะเบียนประชากรแมว เจ้าหน้าที่จะทำการทดสอบด้วยแอพส์ หากพบว่าพวกมันเป็นสฟิงซ์ จะมีการทำสัญลักษณ์ลงในสมุดทะเบียนและบันทึกรายชื่อเข้าสู่ทะเบียนสฟิงซ์ ซึ่งเป็นทะเบียนลับที่ขึ้นตรงกับการดูแลของกรมสฟิงซ์ สังกัดกระทรวงมหาดไทย

สฟิงซ์ที่เคยถูกมนุษย์สวมกำไลระบุตัวตนให้ขณะอยู่ในร่างแมว  ดังที่ได้กล่าวไปแล้วในบทของแมวว่ากำไลสามารถขยายขนาดได้ตามขนาดตัวของแมวที่เปลี่ยนไป ดังนั้นเมื่อกลับมาอยู่ในร่างสฟิงซ์ กำไลเวทนั้นก็จะขยายขนาดให้เข้ากับร่างใหม่ได้อย่างพอดีเช่นกัน

จากความเฉลียวฉลาดของพวกมัน ทำให้สฟิงซ์นั้นสามารถฝึกฝนให้ทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้ พวกมันมีสัญชาตญาณหวงถิ่น หวงคู่ครอง หวงฝูง โดยมากสฟิงซ์ที่ผูกพันธุ์กับมนุษย์ตั้งแต่เล็กมักมองว่ามนุษย์คือส่วนหนึ่งในฝูง ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสฟิงซ์กับมนุษย์คนใดคนหนึ่ง จะไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์ใต้บัญชากับเจ้าของ แต่เป็นเพื่อนคู่หู มีความเท่าเทียมซึ่งกันและกัน 

การจะฝึกสฟิงซ์ให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด คือการเริ่มฝึกตั้งแต่พวกมันยังไม่เปลี่ยนร่างเป็นสฟิงซ์ตัวเต็มวัย ควบคู่กับการใช้แอพส์ และการร่ายมนตรากำกับ แอพส์จึงถือเป็นอุปกรณ์สำหรับช่วยสื่อสารและฝึกฝนสฟิงซ์ที่สำคัญยิ่ง สฟิงซ์ที่ได้รับการฝึกเมื่อกลายร่างเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกลับมาหาคู่หูของมันเสมอ หากมนุษย์ดูหมิ่นสฟิงซ์คู่หูในเชิงไม่ให้เกียรติหรือมองว่าด้อยกว่า ไม่นานพันธะระหว่างทั้งสองจะหมดสิ้นต่อกัน สฟิงซ์จำเป็นจะต้องจับคู่กับมนุษย์คนใหม่และใช้เวลานานกว่าจะฝึกให้เชื่อใจกันได้ใหม่  ในขณะที่มนุษย์ที่ทำให้สฟิงซ์หมดความเชื่อใจ น่าแปลกว่าจะไม่มีสฟิงซ์ตนใดเลือกเขาเป็นคู่หูอีกเลย

สฟิงซ์จ่าฝูงที่มีอายุมากหลายตัวนั้นสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ สฟิงซ์หลายตัวในกลุ่มนี้ประจำอยู่ในกองทัพของไนล์ในฐานะผู้ดูแลฝูงบิน

การขึ้นทะเบียนการใช้สฟิงซ์เป็นพาหนะสำหรับบุคคลทั่วไป

ปัจจุบันมีการเลี้ยงสฟิงซ์ทั่วไปในไนล์ (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ) แต่ในอดีตคนที่สามารถครอบครองแอพส์ที่ใช้ในการฝึกสอนสฟิงซ์ได้มีเพียงกองทัพและคนในราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น การลักลอบใช้แอพส์ฝึกสอนสฟิงซ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะได้รับโทษหนัก


การฝึกสฟิงซ์สำหรับใช้งานนั้นแพร่หลายในแวดวงการทหารของไนล์มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ความต้องการที่จะใช้สฟิงซ์เป็นพาหนะของภาคประชาชนก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นแล้วทั้งจากเสียงเรียกร้องของประชาชน และจำนวนสฟิงซ์ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ตามประชากรแมวที่ถูกลงทะเบียนในไนล์ ในเดือนกรกฎาคม ปี A.D. 1128 สำนักวิจัยอุปกรณ์เวทมนตร์ ได้ประกาศข่าวความสำเร็จของการสร้างและทดสอบอุปกรณ์ฝึกสอนและควบคุมสฟิงซ์สำหรับประชาชนทั่วไป

 ด้วยเหตุที่สฟิงซ์เป็นสัตว์วิเศษที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ ทว่าประชาชนของประเทศแม้สามารถครอบครอง แต่ไม่สามารถพาสัญลักษณ์ที่น่าภาคภูมิใจนี้ออกไปอวดแก่สายตานานาประเทศได้ เพราะลักษณะนิสัยของสฟิงซ์เองที่มีลักษณะดังเช่นแมวและสัตว์นักล่าในตระกูลเดียวกัน มีความยากในการฝึกสอนและทำให้เชื่อฟัง มีหลายกรณีที่มีผู้พยายามฝึกสอนสฟิงซ์โดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วย ถูกความเอาแต่ใจและไม่อยู่ในร่องในรอยของพวกมันทำให้ได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน 

ทั้งนี้ยังไม่รวมกรณีสฟิงซ์ที่ถูกฝึกโดยผิดกฏหมายถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรมจนเกิดเป็นความตื่นตระหนกหลายครั้งในอดีตอีกด้วย


ในที่สุดหลังจากความพยายามหลายต่อหลายปี สำนักวิจัยอุปกรณ์เวทมนตร์สังกัดกลาโหม ร่วมกับกรมสฟิงซ์ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำการวิจัยและพัฒนามนตราบทใหม่สำหรับแอพส์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการเพิ่มขีดจำกัดความสามารถในการควบคุม ทำให้แอพส์รุ่นใหม่ลดความซับซ้อนลงและกลายเป็นสิ่งที่ประชาชนทั่วไปสามารถครอบครองได้

แอพส์รุ่นประชาชน จะมาในรูปลักษณ์ของปลอกคอ ซึ่งผลิตขึ้นด้วยวิธีการเดียวกันกับกำไลเวทบ่งบอกตัวตนสำหรับแมว นั่นหมายถึงมันสามารถขยายและเปลี่ยนรูปร่างได้เมื่อสัมผัสพลังเวทแปลงกายของสฟิงซ์ ทำให้สามารถสวมใส่ได้ไม่ว่าอยู่ในร่างใดก็ตาม ผู้เป็นเจ้าของก็จะได้รับกำไลคู่ที่ใช้ควบคุมแอพส์นั้นๆไว้ใส่ติดตัว

สำหรับประชาชนที่ต้องการยื่นขอใบอนุญาตแอพส์ จะต้องผ่านการฝึกอบรมเป็นเวลา 30 ชั่วโมง โดยสามารถขอลงทะเบียบอบรมได้ฟรีที่แผนกทะเบียนประชากรแมวตามสำนักงานเทศบาลและเมืองต่างๆ โดยจะเปิดอบรมเดือนละครั้ง


ในขณะนี้ยังไม่เปิดให้ชาวต่างชาติครอบครองสฟิงซ์ได้โดยทั่วไป แต่ไม่ใช่ว่าจำกัดสิทธิ์การครอบครองทั้งหมดไปเสียเลย ลำดับของชาวต่างชาติที่สามารถครอบครองสฟิงซ์และแอพส์ได้ในปัจจุบันจะเป็น ได้รับเป็นของกำนัลจากการสานสัมพันธ์ทางการทูต > ได้รับจากการมอบให้โดยสมาชิกราชวงศ์ > ได้รับจากการร่วมกิจกรรมของโรงเรียนพระราชา ซึ่งสนับสนุนการมอบสฟิงซ์ให้โดยราชสำนักไนล์>>>>มีถิ่นฐานปัจจุบันในไนล์