คมกฤช จันทราสา เทคนิคการออกเสียงขับร้อง
เรียบเรียงหลักสูตรโดย คมกฤช จันทราสา อาจารย์โอ๊ะ
41 เสียงที่มีลักษณะหลง
การออกเสียงขับร้องที่มีลักษณะเสียงหลง หรือเสียงแปร๋นผิดแผกออกไปจากเสียงร้องเดิม น้องๆคงเคยได้ร้องเพลงขึ้นเล่นๆกับตัวเองมาบ้างแล้ว หรือฝึกขับร้องเพลงด้วยตัวเอง และน้องๆก็คงได้ยินคำบอกเล่าถึงการออกเสียงขับร้องให้เต็มเสียงได้ผ่านหูมาบ้างไหม การออกเสียงขับร้องให้เต็มเสียงน้องๆคงเข้าใจดีว่า ควรใช้เสียงที่ลำคอเท่านั้นจึงจะได้เสียงที่เต็มแน่น และน้องๆก็เข้าใจและปฏิบัติได้ถูกต้องแล้ว และทุกเพลงที่น้องๆออกเสียงขับร้องออกมา น้องๆก็จะใช้เสียงที่ลำคอไปจนตลอดทั้งเพลงไม่ว่าจะเป็นเพลงใดก็ตาม น้องๆก็ยังใช้เสียงที่ลำคอขับร้องเพลงอีกเช่นเดิมใช่ไหม จึงขอบอกกับน้องๆว่าการใช้ลักษณะของกล่องเสียงที่ลำคอจะเป็นการออกเสียงขับร้องใช้เสียงต่ำ-เสียงกลาง เพราะฉะนั้นใน 1 บทเพลง ก็ย่อมมีเมโลดี้คำร้องทั้งเสียงต่ำ เสียงกลาง เสียงสูง หากน้องๆใช้เสียงที่ลำคอขับร้องใช้เสียงสูง เสียงของน้องๆก็จะขับออกมาไม่ถึงเมโลดี้คำร้องที่เป็นเสียงสูง ทำให้เสียงมีลักษณะบางไม่เต็มเสียงขาดน้ำหนักจนทำให้เสียงแปร๋นผิดแผกออกไป ซึ่งให้ความหมายของเสียงนี้ว่า เป็นเสียงหลง หากน้องๆยังเข้าใจผิดคิดว่าต้องใช้พลังเสียงมากๆถึงจะขับร้องออกมาไม่ให้เกิดเป็นเสียงหลงได้ จึงขอบอกกับน้องๆได้ว่าไม่ใช่เลย หากน้องๆใช้พลังมากขึ้นเสียงก็ยิ่งแปร๋นมากขึ้นเช่นกัน น้องๆควรเปลี่ยนมาใช้กล่องเสียงที่กระพุ้งแก้ม หรือที่ริมฝีปากออกเสียงขับร้องที่เป็นเมโลดี้คำร้องเสียงสูง แล้วใช้พลังขับออกมาจากท้องให้ลมผ่านลำคอไปอย่างอิสระ เพียงแค่นี้น้องๆก็จะออกเสียงขับร้องที่เป็นเมโลดี้คำร้องเสียงสูงได้ดี โดยลักษณะของเสียงไม่ผิดแผกแปร๋นออกไปทำให้เกิดเป็นเสียงหลงได้ ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องมีเมโลดี้คำร้องคำใดที่เป็นเสียงสูงบ้างไหม ที่จะทำให้เสียงของน้องๆที่ขับร้องออกมาเกิดเป็นเสียงหลงผิดแผกแปร๋นออกไปบ้างไหม
42 เสียงในลักษณะตก
การออกเสียงขับร้องทที่มีลักษณะของเสียงตก ขณะที่น้องๆออกเสียงขับร้องให้น้องๆควบคุมเรื่องการใช้น้ำหนักเสียงด้วย ประโยคแรกของท่อนแรกในบทเพลง น้องๆอาจใช้น้ำหนักออกเสียงขับร้องได้ดี และประโยคต่อไปน้ำหนักเสียงของน้องๆอาจจะแผ่วเบาบางลงเรื่อยๆ ซึ่งให้ความหมายของเสียงว่า เป็นลักษณะของเสียงตก ลักษณะของเสียงตกก็คือน้ำหนักเสียงที่เริ่มอ่อนลงจากการออกเสียงขับร้องเดิม และเมื่อเสียงมีน้ำหนักอ่อนลง เสียงก็จะบางลงด้วยเช่นกัน จนไม่สามารถควบคุมให้ได้ดีได้อีกต่อไป เสียงก็จะอ่อนบางแกว่งไปแกว่งมาและไร้ซึ่งความรู้สึกของเสียงได้มากเลยทีเดียว ให้น้องๆออกเสียงขับร้องควบคุมน้ำหนักเสียง และตรวจสอบไปทีละประโยคให้ได้ดีไปจนกว่าจะถึงประโยคสุดท้ายของเพลง
43 เสียงที่มีลักษณะเพี้ยนต่ำ
การออกเสียงขับร้องที่มีลักษณะเสียงเพี้ยงลงต่ำจะมีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกัน ลักษณะที่ 1 เสียงที่มีลักษณะเพี้ยนลงต่ำ ในหนึ่งประโยคคำร้องตัวใดตัวหนึ่งจะเป็นตัวที่เชื่อมประโยค หรือจะเป็นตัวเอกก็ตาม หากออกเสียงขับร้องออกมาแล้ว ย่อมเกิดเสียงที่มีลักษณะของเสียงที่เพี้ยนต่ำได้เสมอ เสียงที่มีลักษณะเพี้ยนลงต่ำจะเกิดจากความกังวานของเสียงที่แผ่ฟุ้งกระจายไปไม่ถึงเมโลดี้คำร้อง หรือการออกเสียงขับร้องที่ขาดความกังวานของเสียงนั่นเอง หรือการออกเสียงขับร้องที่มีเนื้อเสียงตรงตามเมโลดี้คำร้องและเกิดอาการสั่นแกว่งลงต่ำทำให้เกิดเสียงที่เพี้ยนต่ำได้ การออกเสียงขับร้องที่เกิดเสียงเพี้ยนลงต่ำในลักษณะนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ผู้ฝึกหัดออกเสียงขับร้องย่อมเจอกับปัญหานี้ ให้น้องๆออกเสียงขับร้องในหนึ่งประโยคคำร้องให้มีเสียงเพี้ยนต่ำได้ 1 ตัว ซึ่งถือว่ามากแล้ว น้องๆลองนับดูสิว่าใน 1 บทเพลงจะมีอยู่ 16 ประโยคคำร้อง และน้องๆจะมีเสียงที่เพี้ยนต่ำอยู่ 16 ตัวเช่นกัน ซึ่งถือว่าเยอะมาก น้องๆควรหมั่นฝึกฝนให้เสียงเพี้ยนต่ำในลักษณะนี้ให้ลดน้อยลงให้เหลือท่อนละ 1 ตัว ในหนึ่งบทเพลงจะมีอยู่ 4 ท่อน และน้องๆก็จะมีเสียงเพี้ยนต่ำอยู่ 4 ตัว หากฝึกฝนบ่อยๆในการออกเสียงขับร้องก็จะไม่ทำให้เกิดเสียงเพี้ยนได้เลย
ลักษณะที่ 2 เสียงที่มีลักษณะเพี้ยนลงต่ำ หนึ่งประโยคคำร้องหรือทุกประโยคคำร้องของเนื้อเพลงทั้งหมด จะมีลักษณะเสียงที่เพี้ยนลงต่ำซึ่งจะเกิดจากเสียงที่ขับร้องออกมาต่ำกว่าเพดานเสียงเมโลดี้คำร้องทั้งหมดทั้งเพลง หรือเป็นการออกเสียงขับร้องที่ไม่ตรงตามคีย์ของบทเพลงที่กำหนดไว้ การออกเสียงขับร้องที่เกิดเสียงเพี้ยนลงตำในลักษณะนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ควรปรับปรุงเป็นอย่างยิ่งให้ได้รับการฝึกหัดจากขั้นพื้นฐานกันเลย ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องมีเสียงที่เพี้ยนลงต่ำบ้างไหม หากมีให้รีบปรับปรุงแก้ไขฝึกฝนทันที
44 เสียงที่มีลักษณะเพี้ยนสูง
การออกเสียงขับร้องที่มีลักษณะเสียงเพี้ยนขึ้นสูงจะมีอยู่ 2 ลักษณะด้วยกัน ลักษณะที่ 1 เสียงที่มีลักษณะเพี้ยนขึ้นสูง ในหนึ่งประโยคคำร้องตัวใดตัวหนึ่งจะมีตัวเชื่อมประโยคหรือเป็นตัวเอกก็ตาม หากออกเสียงขับร้องออกมาแล้วย่อมเกิดเสียงที่มีลักษณะของเสียงที่เพี้ยนขึ้นสูงได้เสมอ เสียงที่มีลักษณะเพี้ยนสูงจะเกิดจากความกังวานและการสั่นสะเทือนของเสียงที่ถูกขยี้ให้ฟุ้งกระจายแผ่ออกไปมากจนเกินเพดานของเสียงเมโลดี้คำร้อง หรือจะให้ความหมายอีกอย่างหนึ่งว่า การออกเสียงขับร้องหน้าเสียงจะตรงตามเมโลดี้คำร้องส่วนปลายเสียงจะถูกขยี้ให้เกิดการสั่นสะเทือนกระจายออกจนสูงเกินเมโลดี้คำร้อง จึงทำให้เสียงเกิดการเพี้ยนขึ้นสูงได้ หรือการออกเสียงคำร้องคำใดคำหนึ่งที่มีเสียงสูงกว่าเมโลดี้คำร้องคำนั้น หรือการออกเสียงขับร้องที่สูงกว่าเพดานเสียงของเมโลดี้คำร้องที่กำหนดไว้ การออกเสียงขับร้องที่เกิดเสียงเพี้ยนขึ้นสูงในลักษณะนี้ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งผู้ขับร้องทุกคนย่อมเจอกับปัญหาเหล่านี้ ให้น้องๆปรับปรุงด้วยการออกเสียงขับร้องฝึกฝนบ่อยๆก็จะไม่ทำให้เกิดเสียงที่เพี้ยนขึ้นสูงได้
ลักษณะที่ 2 เสียงที่มีลักษณะเพี้ยนขึ้นสูง หนึ่งประโยคคำร้องหรือทุกประโยคคำร้องของเนื้อเพลงทั้งหมดจะมีลักษณะเสียงที่เพี้ยนขึ้นสูง ซึ่งเกิดจากเสียงที่ขับร้องออกมาสูงกว่าเพดานเสียงเมโลดี้คำร้องทั้งหมดทั้งเพลง หรือเป็นการออกเสียงขับร้องที่ไม่ตรงตามคีย์ของบทเพลงที่กำหนดไว้ การออกเสียงขับร้องที่เกิดเสียงเพี้ยนขึ้นสูงในลักษณะนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ควรปรับปรุงเป็นอย่างยิ่งให้ได้รับการฝึกหัดจากขั้นพื้นฐานกันเลย ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องมีเสียงที่เพี้ยนขึ้นสูงบ้างไหม หากมีให้ปรับปรุงแก้ไขแล้วฝึกฝนทันที
45 เสียงที่ไม่เป็นอิสระ
เสียงที่ไม่เป็นอิสระ หรือการอั้นเสียง การออกเสียงขับร้องด้วยการอั้นเสียง หรือปล่อยเสียงออกมาไม่หมดทำให้ขาดความเป็นอิสระหรือขาดความเป็นธรรมชาติของเสียง โดยส่วนมากจะไม่ค่อยนิยมใช้เทคนิควิธีนี้นำมาขับร้อง แต่จะมีข้อยกเว้นบางกรณีที่มีบทเพลงใดบทเพลงหนึ่งซึ่งจำเป็นต้องใช้เสียงที่ไม่เป็นอิสระขับร้องด้วยการอั้นเสียงเอาไว้ หากเป็นการออกเสียงขับร้องด้วยการอั้นเสียงโดยใช้สำเนียงเสียงที่เป็นแบบธรรมดาก็จะให้ความรู้สึกของเสียงที่อึดอัดมาก และหาความกลมกลืนที่ลงตัวกับดนตรีได้ยาก หากเป็นการออกเสียงขับร้องด้วยการอั้นเสียงโดยใช้สำเนียงเสียงที่เป็นแบบคนเมาสุรา ก็จะให้ความรู้สึกของเสียงที่ดี และจะลงตัวกลมกลืนเข้ากับดนตรีได้ดี โดยส่วนมากผู้ชายจะนิยมใช้เสียงที่ไม่เป็นอิสระออกเสียงขับร้องใช้วิธีการอั้นเสียงให้เกิดเป็นสำเนียงแบบคนเมาสุรา หากผู้หญิงจะใช้วิธีนี้ออกเสียงขับร้องก็ได้ ซึ่งจะให้ความรู้สึกของเสียงที่แปลกหูน่าตื่นตาดีมาก น้องๆควรสังเกตเสียงที่ขับร้องออกมาด้วย ว่าเป็นเสียงที่เข้ากับดนตรีได้ดีแค่ไหน ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่เป็นเป็นอิสระที่มีสำเนียงแบบคนเมาสุราบ้างไหม
46 เสียงที่มีลักษณะไม่มั่นใจ
เสียงที่มีลักษณะไม่มั่นใจ สั่น การออกเสียงขับร้องที่มีลักาณะของเสียงที่ไม่มั่นใจ เมื่อเสียงที่น้องๆขับร้องออกมายังทำให้เกิดอาการพะวงกับเมโลดี้คำร้อง หรือยังไม่คุ้นเคยกับเมโลดี้คำร้องในประโยคใดประโยคหนึ่งที่ดีพอ ก็จะทำให้การออกเสียงขับร้องอาจได้ตรงตามเมโลดี้คำร้อง แต่เมื่อฟังแล้วยังไม่เกิดการสวยงามเท่าที่ควรซึ่งเป็นเสียงที่มีลักษณะไม่มั่นใจ น้องๆควรฝึกการออกเสียงขับร้องซ้ำบ่อยๆหลายๆครั้งกับประโยคใดประโยคหนึ่ง ซึ่งน้องๆยังคิดว่ายังไม่คุ้นเคยกับเมโลดี้คำร้องนี้ดีจนกว่าน้องๆจะคุ้นเคยกับเมโลดี้นี้ดีพอที่น้องๆจะออกเสียงขับร้องออกมาด้วยความมั่นใจ แม่นตรงตามเมโลดี้คำร้องที่ฝึกฝนมาก็จะทำให้เกิดความสวยงามของเสียงที่ดีมากพอพอที่ได้ฟังแล้วให้ความไพเราะได้ดี ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีประโยคคำร้องคำใดที่น้องๆยังไม่คุ้นเคยกับเมโลดี้คำร้องที่ดีพอบ้างไหม
47 เสียงที่เป็นตัวเอก
การออกเสียงขับร้องใช้เสียงให้เป็นตัวเอก จะขอยกตัวอย่างขึ้นมาสักหนึ่งประโยคคำร้อง คำว่า สายลมพลิ้วผ่านพัดเอื่อยเรื่อย มา ประโยคคำร้องตัวสุดท้ายคือคำว่า มา หรือเสียงคำร้องตัวสุดท้ายของประโยคจะมีความสำคัญต่อการใช้เสียงขับร้องเป็นอย่างยิ่ง และจะถูกจัดให้เสียงคำร้องตัวสุดท้ายของประโยคนี้ให้เป็นพระเอก หรือเสียงที่เป็นพระเอก หรือเสียงที่เป็นตัวเอก เสียงที่เป็นพระเอกหรือเสียงที่เป็นตัวเอกย่อมมีลักษณะของเสียงที่โดดเด่นและสวยงาม น้องๆควรออกเสียงขับร้องบังคับเสียงให้เป็นตัวเอกให้มีความนิ่งให้เกิดความสวยงามของเสียงก่อน เพื่อให้เกิดความชำนาญและคุ้นเคยกับเสียงที่เป็นตัวเอก หากคุ้นเคยและชำนาญดีแล้วน้องๆจึงค่อยผสมผสานใช้เทคนิคต่างๆเข้ามาสอดแทรกเพื่อให้เกิดความสวยงามมากยิ่งขึ้น บางครั้งน้องๆออกเสียงขับร้องตั้งแต่ต้นประโยคได้นิ่งสวยงามดีมาก แต่พอมาถึงคำร้องที่เป็นตัวเอกกลับเป็นเสียงที่แกว่งสั่นผิดเมโลดี้คำร้องไปซึ่งเป็นเสียงที่เสียไม่น่ารับฟัง และน้องๆต้องออกเสียงขับร้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นประโยคกันเลย ในหนึ่งประโยคคำร้องหากมีคำร้องคำใดคำหนึ่งเป็นเสียงที่แกว่งสั่น หรือเสียงที่ผิดเมโลดี้คำร้อง ให้น้องๆแก้ไขการออกเสียงขับร้องคำนั้นใหม่ แล้วเริ่มออกเสียงขับร้องใหม่หมดทั้งประโยคอีกครั้ง ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่เป็นตัวเอกได้นิ่งสวยงามบ้างไหม
48 เสียงที่เป็นตัวเชื่อมประโยค
การออกเสียงขับร้องที่เป็นตัวเชื่อมประโยค จะขอยกตัวอย่างขึ้นมาสักหนึ่งประโยคคำร้อง คือคำว่า นั่นนกผกผินโผขึ้นสู่ฟ้า คำที่เป็นตัวเชื่อมประโยคหรือคำที่อยู่ในประโยค ให้น้องๆออกเสียงขับร้องให้เป็นตัวรอง อย่าให้เสียงดังโดดเด่นกว่าตัวเอก การออกเสียงขับร้องที่เป็นตัวเชื่อมประโยคหรือตัวรองนี้ จะใช้ระดับของสัญญาณเสียงที่แบน แคบ สั้น และไม่กว้างมาก คำที่เป็นตัวเชื่อมประโยคตัวใดตัวหนึ่งหากออกเสียงขับร้องใช้สัญญาณเสียงที่กว้างมาก อาจทำให้ความกังวานของเสียงฟุ้งเกินเมโลดี้คำร้องออกไป คือเสีงที่เพี้ยนขึ้นสูง ซึ่งเป็นเสียงที่เสีย คือต้องทิ้งต้องคัดตัดออกไป ให้น้องๆแก้ไขออกเสียงขับร้องตัวเชื่อมประโยคนั้นใหม่ ด้วยการทำสัญญาณเสียงให้แคบลง แบนลง หรือกั้นเสียงไม่ให้ความกังวานของเสียงนั้นฟุ้งเกินเมโลดี้คำร้องนั่นเอง ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่เป็นตัวรองได้ดีบ้างไหม
49 เสียงที่เกิดจากฟันกระทบกัน
เสียงที่เกิดจากฟันกะทบกัน โดยส่วนมากจะไม่เกิดขึ้นกับการออกเสียงขับร้อง แต่จะมีบ้างกับบางคนที่ขณะออกเสียงขับร้องอยู่นั้น ได้เจตนาทำให้เกิดฟันกระทบกันขึ้น หรือจะเป็นการเล่นโดยที่ไม่ตั้งใจ เสียงของฟันกระทบกันจะเป็นสัญญาณเสียงสูงค่อนข้างไวต่อเสียงมาก สามารถเข้าไปในไมโครโฟนได้ทำให้เกิดปัญหาของเสียงที่ไม่ต้องการซึ่งได้เข้ามารบกวนการออกเสียงขับร้อง ขอให้น้องๆสังเกตสัญญาณเสียงสูงที่ไวต่อเสียงมากที่สุดคือ เสียงของโลหะกระทบกัน หรือเสียงของโลหะกระทบกับจานกระเบื้อง หรือการระทบกันของขวดกับแก้วน้ำ เสียงเหล่านี้ก็จะให้สัญญาณเสียงที่ไวมาก ให้น้องๆตรวจสอบดูตนเองว่า เมื่อเวลาออกเสียงขับร้องได้เกิดเสียงของฟันกระทบกันบ้างไหม
50 เสียงที่เกิดจากการสวมใส่เครื่องประดับ
เสียงที่เกิดจากการสวมใส่เครื่องประดับแล้วเกิดการกระทบกันทำให้เกิดเสียงดัง กรุ๋ง กริ๋ง การสวมใส่เครื่องประดับ เช่นใส่สร้อยคอ 2 เส้นและห้อยด้วยจี้ต่างๆ หรือการสวมใส่สร้อยกำไรข้อมือ 2 เส้น หรือการแขวนพวงกุญแจไว้ที่หูกางเกง หรือจะเป็นการสวามใส่แหวน 2 นิ้วติดกัน หากน้องๆสวมใส่เครื่องประดับเหล่านี้ติดตามร่างกาย และเมื่อเวลาน้องๆออกเสียงขับร้องเพลง อวัยวะในส่วนต่างๆของน้องๆจะเคลื่อนไหว เช่นคอ แขน มือ เอว ขา และเท้า ก็จะทำให้เครื่องประดับที่สวมใส่อยู่นี้อาจทำให้กระทบกันทำให้เกิดเสียงดัง กรุ๋ง กริ๋ง เข้าไมโครโฟนได้ เพราะเครื่องประดับที่ทำด้วยโลหะต่างๆ หากกระทบกันแล้วก็จะเกิดสัญญาณของเสียงสูง และไวต่อเสียงมาก หากได้เข้าไปในไมโครโฟนแล้ว จะทำให้เกิดปัญหาของเสียงที่ไม่ต้องการเข้ามารบกวนการออกเสียงขับร้องของน้องๆได้ ให้น้องๆตรวจสอบดูตนเองว่า เมื่อเวลาออกเสียงขับร้องได้สวมใส่เครื่องประดับบ้างไหม
เรียบเรียงหลักสูตรโดย คมกฤช จันทราสา อาจารย์โอ๊ะ