เทคนิคการขับร้อง 3

31 เสียงที่ถูกกด                                                                                                                                                                              การออกเสียงขับร้องด้วยการกดเสียง  หรือเสียงที่ถูกกด  วิธีการออกเสียงขับร้องควรบีบอัดเสียงให้แน่นเป็นเส้นหรือเป็นแท่ง  แล้วใช้พลังกดเสียงให้ได้ระดับความลึกที่ต้องการของเสียง  และควบคุมระดับน้ำหนักให้มีความคงที่  หรือเสียงอาจจะ          ถูกกดลงพอได้เนื้อน้ำหนักระดับความลึกของเสียงแล้ว  บ้างก็ถูกเฟดเสียงขึ้น ให้ เสียงนั้นลอยขึ้นมา  บ้างก็ถูกเฟดเสียงลง ให้เสียงนั้นแผ่วเบาค่อยๆจางหายไป    บ้างก็ถูกขยี้เสียง ให้เกิดมีความสั่นสะเทือนของเสียงมากขึ้น  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่ถูกกดเป็นลักษณะใด 

32 เสียงที่ถูกขยี้                                            

เสียงที่ถูกขยี้ หรือการสั่นสะเทือนของเสียง  การออกเสียงขับร้องด้วยการขยี้เสียง หรือเสียงที่ถูกขยี้ให้เกิดการสั่นสะเทือน  วิธีการออกเสียงโดยส่วนมากจะนิยมใช้กับคำร้องตัวสุดท้ายของประโยค  หรือคำที่เป็นคำร้องตัวเอก  ซึ่งจะถูกใช้ด้วยการขยี้เสียงให้เกิดการสั่นสะเทือนของเสียง  และเสียงที่ถูกขยี้จะมีอยู่ 3 ลักษณะด้วยกัน

ลักษณะที่ 1 การออกเสียงขับร้องด้วยการบีบอัดเสียงให้แน่นเป็นเส้นหรือเป็นแท่ง  แล้วกดเสียงให้ได้ระดับในความลึกที่ต้องการ  และใช้พลังขยี้เสียงให้บานออกก็จะเกิดการสั่นสะเทือนจากน้อย-มาก

ลักษณะที่ 2 ออกเสียงขับร้องด้วยการบีบอัดเสียงให้แน่นเป็นเส้นหรือเป็นแท่ง  แล้วกดเสียงให้ได้ระดับความลึกที่ต้องการ  และเฟดเสียงให้ลอยขึ้นจึงขยี้เสียงให้เกิดการสั่นสะเทือนจากน้อย-มาก

ลักษณะที่ 3 ออกเสียงขับร้องประโยคตัวสุดท้ายให้เป็นตัวเอก  แล้วจึงขยี้ปลายเสียงให้เกิดการสั่นสะเทือนจากน้อย-มาก

33 เสียงที่ถูกบีบอัด

เสียงที่ถูกบีบอัดให้เป็นเส้นหรือเป็นแท่ง  การออกเสียงขับร้องด้วยการบีบอัดเสียง  โดยส่วนมากจะนิยมใช้กับคำร้องตัวสุดท้ายของประโยค  หรือคำร้องที่เป็นตัวเอก  ตัวอย่างเช่น  คำว่า  เขา  

เธอจากไปแล้ว       ไปอยู่กับใครเขา   

แหละวันนี้ฉันมีเพียงน้ำตา        ออกมาจนหมดใจ

ให้น้องๆสังเกตคำที่ขีดเส้นใต้ และขอกล่าวถึงคำร้องตัวสุดท้ายของประโยคก่อน จะมีคำว่า  แล้ว  เขา  ตา  ใจ  วิธีออกเสียงขับร้อง 4 คำนี้ จะใช้วิธีขับร้องเหมือนกัน  คือหน้าเสียงจะมีระดับสัญญาณเสียงที่กว้างมาก  แล้วบีบอัดเสียงให้ปลายเสียงมีความแน่นเป็นเส้นหรือเป็นแท่งให้เกิดความคมชัดของเสียง  และคำที่ขีดเส้นใต้ที่อยู่ในประโยคหรือตัวเชื่อมประโยค  จะมีคำว่า  จาก  อยู่  นี้  มี  จน    มาดู 2 คำนี้ก่อน   คือคำว่า  อยู่  กับคำว่า  นี้       คำว่า  อยู่  สามารถออกเสียงขับร้องด้วยการบีบอัดเสียงให้เป็นเส้นหรือเป็นแท่งได้  และจะมีระดับในความลึกของเสียงค่อนข้างตื้น  และคำว่า  นี้  ก็สามารถออกเสียงขับร้องด้วยการบีบอัดเสียงให้เป็นเส้นหรือเป็นแท่งได้เช่นกัน  และจะมีระดับในความลึกของเสียงค่อนข้างลึกมาก  ต่อไปคือคำว่า  จาก  มี  เพียง  จน     คำที่มีสระอี  จะมีระดับสัญญาณเสียงที่  แคบ  หรือแบนมาก  ให้ออกเสียงขับร้องบีบอัดเสียงให้แน่นก็จะเกิดสัญญาณเสียงให้มีความ  แคบ  แบนมากยิ่งขึ้น  มีความคมชัดของเสียงมากยิ่งขึ้น  และคำว่า  จาก จะมีระดับของสัญญาณเสียงที่กว้าง  ให้ออกเสียงขับร้องแปลงระดับของสัญญาณเสียง  ให้มีความแคบแบนลง  เหมือนกับการออกเสียงขับร้องคำที่มีสระอี  ให้น้องๆสังเกตอีกต่อไป  คำที่ขีดเส้นใต้ทั้งหมด  ก็จะเหมือนกับการออกเสียงขับร้องที่เน้นเสียง  หรือเสียงที่ถูกเน้นให้โดดเด่นดังขึ้นด้วยการบีบอัดเสียงให้มีความแน่นมากขึ้น  คมชัดมากขึ้น  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่ถูกบีบอัดให้เกิดความแน่นคมชัดบ้าง

36 เสียงที่ค่อยๆเบาลง

เสียงที่ค่อยๆเบาลง  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่เริ่มจากดังมากแล้วทำให้เสียงค่อยๆแผ่วเบาลงจนจางหายไป  หรือเสียงที่ถูกเฟดออกให้มีความเบาลง  วิธีการออกเสียงขับร้อง หน้าเสียงจะมีความเต็มของเสียงแล้วบังคับให้เสียงเกิดระดับที่อ่อนเบาบางลงจนค่อยๆจางหายไป  ส่วนหน้าเสียงจะออกเสียงขับร้องใช้สัญญาณเสียงที่กว้างมากแล้วค่อยๆบังคับใช้สัญญาณเสียงให้แคบลงทีละนิดไปจนสุดปลายเสียง  การออกเสียงขับร้องแบบเฟดเอ้าท์นี้เป็นการออกเสียงขับร้องที่เป็นไปตามธรรมชาติของเสียงมากที่สุด  เพราะเสียงที่ขับร้องออกมาจะมีปลายเสียงเหมือนกับลมที่ค่อยๆจะหมดลง  ซึ่งเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกที่สวยงามตามธรรมชาติได้ดีมาก  และจะไม่มีการปรุงแต่งผสมผสานใช้เทคนิคใดๆเข้ามาสอดแทรก  หากใช้เทคนิคใดๆเข้ามาผสมผสาน ความเป็นธรรมชาติของเสียงก็จะลดน้อยลง  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงแบบเฟดอินเอ้าท์บ้างไหม

37 เสียงที่มีลักษณะเต็มสมบูรณ์

เสียงที่มีลักษณะเต็มสมบูรณ์  หรือเสียงที่มีความสมบูรณ์เป็นอันดับหนึ่ง  การออกเสียงขับร้องที่มีลักษณะเต็มเสียงสมบูรณ์  วิธีการออกเสียงขับร้องให้ขับร้องออกเสียงตรงๆ ให้มีความเต็มของเสียงไปจนถึงสุดปลายเสียง  หรือเมโลดี้คำร้องของเนื้อเพลงทั้งหมดให้ออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่มีความเต็มของเสียงสมบูรณ์เป็นที่หนึ่ง  การออกเสียงขับร้องแบบเต็มเสียงนี้จะมีน้ำหนักเสียงที่หนักแน่นเข้มแข็งมีพลังจะให้ความรู้สึกของเสียงแข็งและหยาบกระด้าง  การออกเสียงขับร้องในลักษณะนี้เป็นการออกเสียงขับร้องของผู้ที่เริ่มฝึกหัดการออกเสียง  จะใช้วิธีการออกเสียงขับร้องแบบจังหวะตกตรงๆให้เต็มเสียงตรงตามเมโลดี้คำร้องด้วยความกระชับของเสียง  หากคุ้นเคยชินกับเมโลดี้คำร้องดีแล้วและคุ้นเคยกับการออกเสียงขับร้องที่มีลักษณะเต็มเสียงดีแล้ว  ให้ผสมผสานวิธีการออกเสียงขับร้องหรือใช้เทคนิคต่างๆเข้ามาสอดแทรก  เช่นการเอื้อนผันเสียงให้มากๆ  หรือการใช้เสียงออดอ้อนจริตเสียง  หรือการใช้เสียงเฟดอิน  หรือการใช้เสียงเฟดเอ้าท์  เพื่อลดความแข็งกระด้างของเสียงที่มีลักษณะเต็มสมบูรณ์  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่มีลักษณะเต็มสมบูรณ์บ้างไหม

38 เสียงหลบเมโลดี้

เสียงหลบเมโลดี้  หรือเสียงสำรองเป็นการเปลี่ยนสัญญาณเสียง  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงหลบเมโลดี้คำร้องหรือการใช้เสียงสำรอง  โดยปกติแล้วผู้ขับร้องจะใช้เสียงขับร้องออกมาเต็มเสียงซึ่งเป็นเสียงที่เต็มสมบูรณ์ดี  ส่วนผู้ชายจะออกเสียงขับร้องได้เมเสียงสูงที่สุดอยู่ในต่ำแหน่งโน้ตเสียงตัว  ซอล  หรือเสียง G  ในอ็อคสเต็ปที่ 3  ส่วนผู้หญิงจะออกเสียงขับร้องได้เต็มเสียงที่สุดอยู่ในตำแหน่งโน้ตเสียงตัว  เร  หรือเสียง D ในอ็อคสเต็ปที่ 2  และผู้ชายจะออกเสียงขับร้องใช้เสียงได้สูงมากกว่าผู้หญิง  หากน้องๆผู้หญิงและน้องๆผู้ชายฝึกออกกำลังกายให้มีพลังที่ดี  และฝึกการใช้ลำดับกล่องเสียงจนเกิดการชำนาญด้วยการใช้เสียงที่ดีแล้ว  น้องๆทั้งหญิงชายก็จะออกเสียงขับร้องได้เต็มเสียงสูงที่สุดขึ้นมาอีก 1 เสียง ผู้ชายจากโน้ตตัว  ซอล G  ก็จะสูงขึ้นเป็นเสียงตัว  ลา A  ส่วนผู้หญิงจากโน้ตตัว  เร D  ก็จะสูงขึ้นเป็นเสียงตัว  มี E  การออกเสียงขับร้องที่ควรใช้เสียงหลบเมโลดี้จะมีอยู่  2  ลักษณะ                                                                                                                                         

ลักษณะที่  1  เนื้อคำร้องคำใดที่เป็นเมโลดี้เสียงสูง  ซึ่งผู้ขับร้องไม่สามารถออกเสียงขับร้องให้เต็มเสียงได้  จึงใช้เสียงที่ขับร้องออกมาไม่เต็มเสียงที่เกิดเป็นเสียงหลบเมโลดี้คำร้อง  เสียงหลบเมโลดี้คำร้องจะมีสัญญาณเสียงที่เล็กและบางมาก  หากผู้ชายออกเสียงขับร้องใช้เสียงหลบเมโลดี้คำร้อง  ก็จะเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับเสียงของผู้หญิงได้ดีที่เดียว   

ลักษณะที่  2  เมโลดี้คำร้องที่เป็นเสียงสูงซึ่งผู้ขับร้องสามารถออกเสียงขับร้องใช้เสียงให้เต็มเสียงได้  แต่จะใช้วิธีการเปลี่ยนสัญญาณเสียงให้เล็กและแคบบางลงแล้วออกเสียงขับร้องให้เป็นเสียงหลบเมโลดี้ก็ได้  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่หลบเมโลดี้คำร้องหรือการใช้เสียงสำรองนี้  ก็จะเหมือนกับการเล่นกีฬาที่เราได้ใช้ตัวสำรองเข้าลงไปเล่นในสนาม  ซึ่งเป็นการเพิ่มสีสันให้ดูดีขึ้น  น่ารักขึ้น  มีเสน่ห์ขึ้นในบางครั้งบางคราวได้ดีมาก  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่มีลักษณะหลบเมโลดี้คำร้องบ้างไหม  

39 เสียงที่มีลักษณะเหนื่อยสั่น

การออกเสียงขับร้องที่มีลักษณะของเสียงที่เหนื่อยสั่น  และจะสั่นขึ้นเองโดยไม่ได้เจตนาจะมีอยู่ด้วยกัน  2ลักษณะ                                                                                                          

ลักษณะที่  1 อาการสั่นของเสียงที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ได้เจตนา  จะเกิดจากความตื่นเต้นเมื่อออกเสียงขับร้องจะมีระดับของสัญญาณเสียงที่สั่นแกว่งขึ้นแกว่งลงไม่ได้ระดับความคงที่ของเสียง  หรือเสียงที่ไม่มีความนิ่งนั่นเอง  เสียงที่เกิดจากความตื่นเต้นนี้  จะไม่มีอาการของความเหนื่อยหอบเข้ามาผสม                                                                                               

ลักษณะที่  2  อาการสั่นของเสียงที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ได้เจตนา  จะเกิดจากการใช้พลังออกเสียงขับร้องมากเกินไปจนทำให้เกิดเสียงที่แกว่งขึ้นแกว่งลงด้วยความเหนื่อยหอบ  เสียงสั่นที่เกิดจากการเหนื่อยหอบนี้  จะไม่มีอาการของความตื่นเต้นเข้ามาผสม  วิธีแก้ไขควรฝึกออกกำลังกายและฝึกลมหายใจให้ควบคู่กันไป  การฝึกลมหายใจจะทำให้เกิดสมาธิที่ดีขึ้นเพื่อลดความตื่นเต้นลงได้มากทีเดียว  และจะมีลมหายใจที่เข้มแข็งขึ้น  เวลาออกเสียงขับร้องที่ใช้พลังมากๆก็จะควบคุมเสียงให้มีความนิ่งได้ดี  และจะไม่เกิดอาการเหนื่อยให้เสียงนั้นแกว่งขึ้นแกว่งลงอีกด้วย  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่มีการตื่นเต้นบ้างไหม  และเวลาที่ออกเสียงขับร้องที่ใช้พลังมากๆจะมีอาการของการเหนื่อยหอบบ้าง

40 เสียงที่ถูกกั้นไม่ให้ออกทางด้านข้าง

การออกเสียงขับร้องกั้นเสียงไม่ให้ออกทางด้านข้าง  หรือการออกเสียงขับร้องด้วยการจีบปาก  วิธีการออกเสียงขับร้องให้จีบปากขับร้องกั้นเสียงไม่ให้ฟุ้งกระจายออกทางด้านข้าง  คือทางด้านซ้ายและทางด้านขวา  ให้น้องๆบังคับเสียงให้อยู่ในต่ำแหน่งตรงกลางโดยประมานความพอดีของเสียง  หากน้องๆกั้นเสียงด้วยการจีบปากมากเกินไปเสียงที่ขับร้องออกมาก็จะขากความเป็นธรรมชาติของเสียงได้มาก  น้องๆควรออกเสียงขับร้องด้วยการจีบปากกั้นเสียงโดยประมานความพอดีให้เสียงได้มีความเป็นธรรมชาติติดผสมหลงเหลืออยู่บ้าง  เพื่อให้เสียงที่ขับร้องออกมาได้เกิดความรู้สึกของเสียงที่น่ารักด้วยความพอดี  ซึ่งเป็นวิธีการออกเสียงขับร้องของกลุ่มคนรุ่นใหม่  และเป็นที่นิยมกันทั้งชายและหญิง  วิธีการออกเสียงขับร้องด้วยการจีบปากเพื่อกั้นเสียงไม่ให้ออกทางด้านข้างนี้โดยส่วนมากจะนิยมใช้กับเพลงไทยสากล  หากเป็นบทเพลงลูกทุ่งหรือบทเพลงเพื่อชีวิต  น้องๆไม่ควรออกเสียงขับร้องด้วยการจีบปากใดๆเลย  ปล่อยให้เสียงฟุ้งกระจายลอยออกมาทางด้านข้างได้ยิ่งมากยิ่งดี  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องกั้นเสียงไม่ให้ออกมาทางด้านข้างบ้างไห