เทคนิคการขับร้อง 1

11 เสียงของการท่อง                                                                                                           

เสียงของการท่อง หรือการใช้ระดับสัญญาณเสียงที่มีความเท่ากัน  การออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงท่อง  หรือการออกเสียงขับร้องที่ใช้ระดับสัญญาณเสียงให้มีความเท่ากันหมดทุกตัว  การออกเสียงขับร้องที่มีระดับสัญญาณเสียงเท่ากันหมดทุกตัว  จะให้ความรู้สึกของเสียงที่เป็นสำเนียงเสียงท่อง  หรือการออกเสียงขับร้องที่มีสำเนียงแบบท่องอาขยาน  การออกเสียงขับร้องแบบท่องอาขยานซึ่งจะไม่เป็นที่นิยมกับเพลงทั่วไป  เพราะการใช้ออกเสียงขับร้องแบบการท่องนี้  เมื่อผสมเข้ากับดนตรีจะไม่เกิดความเหมาะสมและความกลมกลืนเข้ากับดนตรีได้เลย  แต่มีข้อยกเว้นสำหรับการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงท่องแบบอายานนี้  ก็เพื่อใช้ในการสอดแทรกในบทเพลง  เพียง 1 ประโยค  ถึง  2 ประโยค  หรือ 1 ท่อนเล็กๆ  หากบางครั้งน้องๆออกเสียงขับร้อง 1 ประโยค มีระดับสัญญาณเสียงเท่ากันหมดทุกตัว  และน้องๆต้องออกเสียงขับร้องใหม่อีกครั้ง  และควรแก้ไขด้วยวิธีการออกเสียงขับร้องดังนี้   ใน 1 ประโยคคำใดที่เป็นตัวเชื่อมประโยค  ไม่ควรออกเสียงให้เด่นชัดมากเกินไป  และประโยคตัวสุดท้ายให้ออกเสียงขับร้องให้เป็นตัวเอก  เพียงแค่นี้น้องๆก็ได้รู้จักวิธีการแก้ไขการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงท่องแบบอาขยานได้แล้ว  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงท่องบ้างไหม

12 เสียงของการบ่น                                                                                                               

การออกเสียงขับร้องใช้เสียงบ่นเพลง  หรือการบ่นพรึมพรำ  จะใช้วิธีการคล้ายกับการพูดเพลงแต่เป็นการบ่นซึ่งใช้ถ้อยคำที่เยอะมากและรวดเร็ว  ส่วนลักษณะของสัญญาณเสียงไม่ควรบ่นใช้สัญญาณเสียงให้กว้างมากเกินไป  เพราะจะทำให้ขาดสำเนียงและกลิ่นอายของการบ่น  การออกเสียงขับร้องด้วยการบ่นพรึมพรำควรใช้กล่องเสียงที่ริมฝีปากบ่นพรึมพรำให้เกิดการได้ยินและเข้าใจเพียงผู้เดียว  หากผู้อื่นที่อยู่ใกล้ๆได้ยินก็จะเกิดคำถามขึ้นมาว่า  บ่นอะไร  หากเจอคำถามว่าบ่นอะไร  นั่นก็หมายความว่าน้องๆใช้เสียงบ่นได้อย่างดีแล้ว  หากผู้ใดจะฟังเสียงบ่นก็ควรตั้งใจฟังให้มากหน่อยถึงจะเข้าใจว่า  เขากำลังบ่นถึงเรื่องใด  การออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงบ่นพรึมพรำนี้จะใช้ในการสอดแทรกลงในบทเพลงเพียงแค่ 1 ท่อน  หรือ 1-2 ประโยค  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงบ่นพรึมพรำบ้างไหม

13 เสียงของการตะเบ็ง                                                                                                             

การออกเสียงขับร้องใช้เสียงตะเบ็ง  หรือการตะเบ็งเสียง  การใช้เสียงที่เกิดจากการตะเบ็งออกมาจากจุดกำเนิดเสียงที่ลำคอ  หรือการใช้กล่องเสียงที่คอตะเบ็งเสียงออกมา  ผู้ออกเสียงขับร้องจะใช้วิธีการตะเบ็งเสียงต่อเมื่อ เมโลดี้คำร้องนั้นเป็นเสียงสูงที่สุด  การออกเสียงขับร้องตะเบ็งเสียงก็เพื่อให้เสียงของผู้ขับร้องมีความสูงของเสียงให้ถึงระดับเมโลดี้คำร้องที่เป็นเสียงสูง  ลักษณะของเสียงจะมีความกว้างลอยออกทางด้านข้าง  และให้ความรู้สึกที่มีความหยาบแข็งกระด้างไม่เกิดความนุ่มนวลด้วยพลังที่งดงามให้เกิดความไพเราะได้เลย  ซึ่งไม่เป็นที่นิยมในการออกเสียงขับร้อง  หากน้องๆออกเสียงขับร้อง คำร้องที่เป็นเสียงสูงน้องๆควรใช้จุดกำเนิดพลังจากท้อง  หรือใช้ลมจากท้องขับพลังขึ้นมาแล้วเปิดคอออกเสียงขับร้องใช้กล่องเสียงที่ริมฝีปาก  และน้องๆก็จะได้เสียงที่มีความสูงถึงระดับเมโลดี้คำร้องที่เป็นเสียงสูงนั้นแล้ว  ลักษณะของเสียงจะเกิดมีพลังมีความแน่นของเสียง มีมิติ มีเสน่ห์ สวยงามมากกว่าการใช้เสียงที่ตะเบ็ง  วิธีนี้จะเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ขับร้องเมโลดี้คำร้องที่เป็นเสียงสูง  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องคำใดที่เป็นเมโลดี้เสียงสูงบ้างไหม

14 เสียงของการตะโกน                                                                                                                      

การออกเสียงขับร้องใช้เสียงตะโกน  วิธีการใช้เสียงตะโกนจะใช้พลังออกมาจากท้องแล้วเปิดคอใช้ลมจากแก้ม  หรือถังเก็บลมขนาดเล็กขับลมออกเสียงขับร้องด้วยการตะโกนเสียงออกมาให้หมด  ลักษณะของเสียงจะมีความกังวานลอยออกไปข้างหน้า  และให้ความรู้ของเสียงที่มีพลังหนักแน่นเข้มแข็ง  การใช้เสียงตะโกนเพื่อต้องการเรียกคนที่อยู่ไกลให้ได้ยิน  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงตะโกนจะใช้แค่ประโยคเล็กๆเพียง 1-3 คำ เท่านั้น  จะใช้ตะโกนปิดเพลงจากเนื้อคำร้องที่เป็นประโยคสุดท้าย  หรือเป็นคำสุดท้ายของเนื้อคำร้องทั้งหมด  หรือจะใช้เป็นคำแรกของเนื้อคำร้องออกเสียงตะโกนออกมาก็ได้  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงตะโกนบ้างไหม

15 เสียงของการตะวาด                                                                                                                                                                              เสียงของการตะวาด  หรือการตะวาดเสียง  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงตะวาด หรือการตะวาดเสียง  วิธีการใช้เสียงตะวาดจะใช้พลังขับออกมาจากท้องแล้วเปิดคอ หรือปิดคอน้อยจึงออกเสียงขับร้องใช้จุดกำเนิดเสียงที่ลำคอ  ลักษณะของเสียง เส้นเสียงที่ลำคอทั้งสองเส้นจะเกิดอาการสั่นสะเทือนจนแตกเล็กน้อยถึงมาก เสียงจะมีความกว้าง  ยาวด้วยน้ำหนัก  ส่วนปลายเสียงก็จะมีน้ำหนักของพลังโดยมีลมมากกว่าเนื้อเสียง  จึงจะให้ความรู้สึกของเสียงที่หนักแน่นด้วยพลังที่มีอำนาจดุดันด้วยความโกรธ  หรือใช้อารมณ์ที่ให้ความรู้สึกอย่างรุนแรงและน่ากลัว  การออกเสียงขับร้องในลักษณะนี้อาจทำให้น้องๆผู้หญิงบางคนได้รับฟังแล้วทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที  เพราะเสียงตะวาดนี้จะเข้าไปกดดันความรู้สึกของน้องๆให้เกิดการบีบอัดจนเกิดความตึงเครียด  และทำให้น้องๆต้องหยุดฟังอีกต่อไป การออกเสียงขับร้องใช้เสียงตะวาดจะใช้เสียงขับร้องของเนื้อคำร้องทั้งหมด  หรือการขับร้องเฉพาะท่อนที่ 3 หรือเรียกกันว่าท่อนฮุก คือท่อนที่เป็นหัวใจของเพลง โดยส่วนมากจะเป็นที่นิยมใช้กันอยู่ในกลุ่มของผู้ชาย   ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงตะวาดบ้างไหม

16 เสียงของการคำราม                                                                                                                   

เสียงของการคำราม  หรือการคำรามเสียง  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงคำราม  วิธีการใช้เสียงคำราม หรือการคำรามเสียง หรือการใช้เสียงแตก จะใช้พลังขับออกมาจากท้องแล้วเปิดคอออกเสียงขับร้องใช้จุดกำเนิดกล่องเสียงที่ลำคอ  ลักษณะของสันเสียงที่ลำคอทั้งสองเส้นจะเกิดการสั่นสะเทือนจนถึงแตกจากการใช้พลังขับออกมาเป็นจำนวนมาก  เสียงจะมีความกว้าง และมีน้ำหนักมาก เนื้อเสียงจะมีความแห้งจนถึงแหบ และแตกมากให้ความรู้สึกมีพลังอำนาจ  น้องๆสังเกตสัตว์ประเภท เสือ สิงโต  ส่วนมากจะได้ยินเสียงของสัตว์ประเภทนี้ใช้เสียงร้องคำรามให้เกิดความน่าเกรงขามอย่างยิ่ง  หรือสุนัขก็ยังใช้เสียง

ขู่คำรามให้เกิดความน่าเกรงกลัว  เสียงคำรามเหล่านี้จะจัดอยู่ในกลุ่มเมโลดี้เสียงต่ำจนถึงปานกลางจึงจะเหมาะสมและเกิดความกลมกลืนได้ดี  หรือจะใช้เสียงคำรามอยู่ในกลุ่มเมโลดี้ของเสียงสูงก็ได้  เช่นเสียงร้องคำรามของไก่ขัน ให้น้องๆสังเกตไก่ขณะที่ไก่กำลังขันอยู่นี้ เสียงจะค่อนข้างสูง ลำคอจะชูเปิดตั้งออกเพื่อให้ลมจากข้างในที่ขับออกมาด้วยพลังอันเป็นจำนวนมากได้เกิดการไหลลื่นของลมที่ไม่ทำให้เกิดการติดขัด  และให้ความรู้สึกการไหลลื่นของลมเป็นไปอย่างธรรมชาติมาก  เสียงจะมีพลังมีน้ำหนักแห้งแหบ และแตกมาก หากน้องๆใช้เสียงคำรามออกเสียงขับร้องควรเปิดคอทุกครั้ง  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงคำราม หรือการคำรามเสียง หรือการใช้เสียงแตก ส่วนมากจะใช้ในกลุ่มของผู้ชายจะใช้เสียงขับร้องของเนื้อคำร้องทั้งหมด หรือใช้เฉพาะท่อนที่ 3 หรือเรียกกันว่าท่อนฮุก คือท่อนที่เป็นหัวใจของเพลง  ส่วนผู้หญิงก็จะนำมาใช้ออกเสียงขับร้องได้เหมือนกัน ส่วนมากจะนำมาใช้แค่หนึ่งประโยคเท่านั้น  หรือเจาะจงเฉพาะประโยคที่สำคัญที่ควรใช้เสียงคำรามเพิ่มน้ำหนักให้มีสีสันมีเสน่ห์แปลกใหม่ขึ้น   ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงคำรามบ้างไหม  

17 เสียงของการสวดมนต์                                                                                                                                                                                  การอกเสียงขับร้องใช้เสียงสวดมนต์  วิธีการใช้เสียงที่มีลักษณะเหมือนการสวดมนต์  หรือเสียงสวดท่องตำรา  สวดท่องอาขยาน  สวดท่องพระคัมภีร์  จะใช้จุดกำเนิดออกเสียงที่ลำคอ  ลักษณะของสำเนียงจะมีความเหน่อกังวานมาก  ระดับของสัญญาณเสียงที่ออกเสียงขับร้องจะมีความเท่ากันหมดทุกตัว  โดยส่วนมากจะใช้เมโลดี้เสียงต่ำออกเสียงขับร้อง  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงสวดมนต์นี้จะใช้เพียง 1 ท่อน  หรือท่อนที่เป็นท่อนเท่านั้น  โดยส่วนมากจะเป็นการออกเสียงขับร้องของกลุ่มคนผู้ชาย  หากน้องๆผุ้หญิงจะนำมาใช้ในการออกเสียงขับร้องแบบสวดมนต์ก็ได้  ซึ่งถือว่าเป็นเสียงที่มีความแปลกใหม่เป็นสิ่งที่น่าสนใจต่อผู้ที่ได้รับฟัง  และจะมีเสียงสะท้อนตอบรับกลับมาในแง่มุมมองต่างๆ  ขอยกตัวอย่าง  เช่นหากมีผู้หญิงคนหนึ่งใช้ผ้าคล้ายกับจีวรของพระสงฆ์มาทำเป็นชุดเครื่องแต่งกาย  ก็จะถูกเป็นเป้าหมายให้ถูกมองว่าลบหลู่ศาสนาด้วยเครื่องแต่งกาย  และถ้าน้องผู้หญิงออกเสียงขับร้องใช้เสียงสวดมนต์  ก็ย่อมถูกเป็นเป้าให้ถูกมองอีกเช่นกัน  และจะมีเสียงสะท้อนกลับมาว่าได้ลบหลู่ศาสนาด้วยการใช้เสียงได้เหมือนกัน แปลกดี    ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงของการสวดมนต์บ้างไหม   

18 เสียงของการหอน                                                                                                                        

การออกเสียงขับร้องใช้เสียงหอน  วิธีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงหอนให้มีความโหยหวน  หรือการร้องโอเปร่า  จะใช้พลังที่ขับมาจากท้องแล้วเปิดคอใช้จุดกำเนิดเสียงที่แก้มหรือถังเก็บลมขนาดเล็ก  ออกเสียงขับร้องด้วยการบังคับใช้ขากรรไกร  และแก้มให้เสียงออกมาทางจมูกและทางปาก  ควรใช้เสียงให้ออกมาทางจมูกให้เกิดความกังวานมากกว่าทางปาก  ลักษณะของเสียงจะถูกบีบอัดให้เป็นเส้น  ขณะที่เสียงออกมาทางจมูกอย่างจำนวนมากก็จะเกิดอาการบี้ของเสียง  หรือเสียงที่มีสำเนียงฟุ้งลอยกังวาน  การออกเสียงขับร้องใช้เสียงหอนให้โหยหวน  ส่วนมากจะใช้เมโลดี้เสียงสูงออกเสียงขับร้องทุกเนื้อคำร้องทั้งหมด    ขอยกตัวอย่างลักษณะของเสียงหอนที่มีความโหยหวนของสัตว์ประเภทหนึ่ง  เช่นสุนัข  ขณะที่สุนัขกำลังหอนเราจะได้ยินเสียง ฮู ให้น้องๆสังเกตว่า  สุนัขได้ชูคอขึ้นก็จะเหมือนกับการเปิดคอ  เสียงที่ขับร้องออกมาจะมีพลัง  และถูกบีบอัดเป็นเส้นเดียวลอยกังวานฟุ้งกระจายไปทั่ว  และเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกโหยหวนจนเกิดความน่ากลัว   ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงของ  การหอนบ้างไหม   

19 เสียงของการไม่กระดกลิ้น                                                                                                    

เสียงของการไม่กระดกลิ้น  หรือขยับริมฝีปากน้อยเกินไป  การออกเสียงขับร้องโดยไม่ใช้ลิ้นบังคับเสียง  หรือการออกเสียงขับร้องโดยไม่กระดกลิ้น  และขยับริมฝีปากน้อยเกินไป  วิธีออกเสียงขับร้องโดยไม่กระดกลิ้นจะใช้จุดกำเนิดออกเสียงที่ริมฝีปาก  และจะขยับริมฝีปากเพียงเล็กน้อย  ลักษณะของเสียงจะบี้แบนจนเกิดความไม่เป็นธรรมชาติของเสียง  แต่เป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกที่เก๋ไก๋  และน่ารักของกลุ่มวัยรุ่นซึ่งหลายๆคนก็นิยมใช้กันมากทั้งหญิงและชาย  การออกเสียงขับร้องด้วยวิธีนี้จะออกเสียงเฉพาะประโยคคำร้องที่เป็นตัว ฮา  หรือตัว นา   หรือตัว ดา   หรือตัว โฮ   หรือตัว ฮู    กลัว   ให้ตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงของการไม่กระดกลิ้นบ้างไหม 

20 เสียงของการระรัว                                                                                                                    

การออกเสียงขับร้องด้วยการกระดกลิ้น  หรือการใช้เสียงระรัว  วิธีการออกเสียงขับร้องจะใช้ลิ้นบังคับด้วยการออกเสียงให้เป็นเสียงระรัว  การออกเสียงขับร้องคำที่มีพยัญชนะตัว รอ เรือ ผสมอยู่  เช่นคำว่า  รัก   คำว่า  ใคร  คำว่า  รื่นเริง  น้องๆควรออกเสียงขับร้องด้วยการกระดกลิ้นให้เกิดเป็นเสียงระรัว  จะใช้จุดกำเนิดที่แก้มคือถังเก็บออกซิเจนขนาดเล็กหากน้องๆออกเสียงขับร้องคำว่า  ใคร  จะใช้จุดกำเนิดเสียงที่ริมฝีปาก  การออกเสียงขับร้องด้วยการกระดกลิ้นให้เกิดเป็นเสียงระรัว  ซึ่งเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกกระปี้กระเปร่า กระฉับกระเฉงคล่องแคล่วสนุกสนาน  และยังเป็นศิลปะในการใช้เสียงได้อย่างสวยงามทีเดียว  ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง  ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงระรัวบ้างไหม