คมกฤช จันทราสา เทคนิคการออกเสียงขับร้อง
เรียบเรียงหลักสูตรโดย คมกฤช จันทราสา อาจารย์โอ๊ะ
1 เสียงของการพูด
การออกเสียงพูด ให้สังเกตบทเพลงแนวใดที่ใช้เสียงพูดในการขับร้องออกเสียงพูดเพลง การขับร้องออกเสียงพูดเพลงส่วนใหญ่จะเป็นที่นิยมมากในกลุ่มของคนผิวดำแถบตะวันตกซึ่งเป็นแนวเพลงแร็พ หรือฮิพฮอพ ต่อมาคนผิวขาวก็ได้นำมาขับร้องรวมทั้งคนแถบเอเชียตะวันออกด้วย ส่วนการขับร้องออกเสียงพูดเพลงในเมืองไทยของเรานี้ จะสังเกตได้ว่ามีหลากหลายแนวเพลงด้วยกัน เช่นแนวเพลงลูกทุ่งก็ใช้เสียงพูดในการขับร้องออกเสียงพูดเพลง ลักษณะของการออกเสียงพูดเพลงก็จะคล้ายกับลักษณะของการออกเสียงพูดบทกวี ส่วนแนวเพลงแร็พจะใช้เวลาในการออกเสียงขับร้องพูดเพลงให้เร็วกว่าในแนวเพลงอื่นๆมากกว่าปกติ ควรควบคุมเรื่องสัญญาณเสียงให้มากๆ เพราะลักษณะของการพูดเพลงในแนวเพลงแร็พจะมีลักษณะของเนื้อคำร้องให้ออกเสียงพูดเยอะมาก และใช้เวลาพูดที่รวดเร็ว เพราะฉะนั้นการพูดที่รวดเร็วก็ย่อมให้ระดับสัญญาณเสียงที่เท่ากัน ระดับสัญญาณเสียงที่เท่ากันก็จะเปลี่ยนเป็นลักษณะของการท่องเพลง หรือการออกเสียงขับร้องท่องเพลง ลักษณะของการออกเสียงขับร้องพูดเพลงควรจัดระดับสัญญาณเสียงให้มีความแตกต่างกัน เช่นคำใดที่เป็นตัวเชื่อมประโยค ไม่ควรใช้ระดับสัญญาณเสียงเด่นดังมากเกินไป และคำใดที่เป็นตัวเอกก็ควรใช้ระดับสัญญาณเสียงให้เด่นกว่าคำที่เป็นตัวเชื่อมประโยค และคงคุ้นเคยกับการใช้ระดับสัญญาณเสียงเหล่านี้ได้ดีเช่นกัน ให้น้องๆลองฝึกพูดเพลง ลองฝึกดูนะไม่ยากหรอกครับ
3 เสียงของการกระซิบ
เสียงกระซิบ หรือเสียงที่มีแต่ลม การออกเสียงขับร้องเสียงกระซิบ หรือเสียงที่มีแต่ลม น้องๆเคยพูดกระซิบที่ข้างๆหูเพื่อนบ้างไหม การพูดกระซิบที่ข้างๆหูเพื่อนนี้เป็นการพูดให้ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น หรือเป็นการพูดให้เพื่อนรู้ให้ได้ยินเพียงคนเดียว หรือพูดเรื่องความลับไม่ให้ผู้อื่นได้ยิน การพูดลักษณะนี้จะเป็นการพูดใช้เสียงที่มีแต่ลม หากน้องๆออกเสียงขับร้องที่เป็นเสียงกระซิบ น้องๆควรออกเสียงขับร้องใช้เสียงที่มีแต่ลม ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่เป็นเสียงกระซิบบ้างไหม
4 เสียงที่มีลมมากกว่าเนื้อเสียง
การออกเสียงขับร้องที่มีลมมากกว่าเนื้อเสียง หรือเสียงที่มีลมมาก จะให้ความรู้สึกของเสียง แหบ แห้ง กร้าว ไม่ชุ่มชื่น การออกเสียงขับร้องในลักษณะนี้ ให้น้องๆออกเสียงขับร้องให้มีลม 75% หรือ ให้มีเนื้อเสียงผสมใส่เข้าไป 25% น้องๆก็จะได้การออกเสียงขับร้องที่มีลมมากกว่าเนื้อเสียง การออกเสียงขับร้องด้วยวิธีนี้จะเป็นการขับร้องที่มีความแปลก และโดดเด่นออกไปจะมีเอกลักษณ์ให้ผู้ฟังจดจำภาพ หรือวิธีการออกเสียงขับร้องได้ง่ายขึ้น ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่มีลมมากว่าเนื้อเสียงบ้างไหม
2 สำเนียงเสียงท้องถิ่น
เสียงท้องถิ่น หรือภาษาท้องถิ่น เสียงสำเนียงพื้นบ้านในแต่ละภาคย่อมมีสำเนียงในความเหน่อเหมือนกันหมดทุกภาคอย่างแตกต่างกัน เช่นเสียงสำเนียงของคนทางภาคเหนือก็จะมีความเหน่อมีเอกลักษณ์ของภาษาประจำท้องถิ่นของคนภาคเหนือ หรือเสียงสำเนียงของคนทางภาคอิสานก็จะมีความเหน่อมีเอกลักษณ์ของภาษาประจำท้องถิ่นของคนทางภาคอิสาน หรือเสียงสำเนียงของคนทางภาคใต้ก็จะมีความเหน่อมีเอกลักษณ์ของภาษาประจำท้องถิ่นของคนทางภาคใต้ หรือเสียงสำเนียงของคนภาคกลางก็จะมีความเหน่อมีเอกลักษณ์ของภาษาประจำท้องถิ่นของคนทางภาคกลาง คนทุกภาคย่อมมีเสียงสำเนียงเหน่อเหมือนกันหมดบางคนมีมาก และบางคนมีน้อย ยกเว้นคนที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในกรุงเทพฯ โดยทั่วไปจะพูดภาษาไทยที่เป็นภาษากลางประจำชาติ คนกลุ่มเหล่านี้จะไม่มีเสียงสำเนียงเหน่อ เมื่อเวลาออกเสียงขับร้องจะสะกดตัวพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ได้อย่างชัดเจน บางครั้งการออกเสียงของคนกลุ่มนี้จะเจตนาประยุกต์ดัดแปลงการออกเสียงขับร้องให้เก๋ไก๋ขึ้นด้วยการออกเสียงโดยไม่ขยับลิ้น และไม่ขยับริมฝีปากก็จะเกิดสำเนียงที่มีความแปลกซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นเพียงบางคน บุคคลทุกภาคหากได้ฝึกฝนการออกเสียงพูดภาษากลางใช้ภาษาไทยบ่อยๆก็จะออกเสียงสะกดตัวพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ได้ดีและชัดเจน ตัวอย่างเช่น น้องคนหนึ่งอยู่ทางภาคเหนือ และเลือกบทเพลงในแนวเพลง ป็อบนำมาขับร้อง ควรระวังเรื่องการใช้ภาษาการออกเสียง และสำเนียงให้มากๆ เพราะเสียงของน้องจะมีความเหน่อ ซึ่งน้องๆนั้นคุ้นเคยกับการใช้ภาษาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ประจำภาค เมื่อน้องๆได้เลือกบทเพลงที่ออกเสียงขับร้องเป็นภาษากลาง เช่นเพลงป็อบ น้องๆก็ควรออกเสียงขับร้องสะกดตัวพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ให้ถูกต้องชัดเจน น้องๆควรระวังอย่าให้สำเนียงเสียงเหน่อของท้องถิ่นเล็ดรอดออกมาจนกลายเป็นบทเพลงท้องถิ่นของทางภาคเหนือโดยที่น้องๆเองไม่ได้ตั้งใจ ส่วนน้องที่อยู่ทางภาคอิสานหรือภาคใต้ หรือภาคกลาง หากน้องๆได้เลือกบทเพลงที่ออกเสียงขับร้องเป็นภาษากลาง เช่นเพลงป็อบ น้องๆก็ควรออกเสียงขับร้องสะกดตัวพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ให้ถูกต้องชัดเจนด้วย น้องๆควรระวังอย่าให้สำเนียงเสียงเหน่อของท้องถิ่นเล็ดรอดออกมาจนกลายเป็นบทเพลงที่มีสำเนียงท้องถิ่นทางภาคของน้องๆเอง น้องๆที่อยู่ทางภาคต่างๆที่มีสำเนียงเหน่อซึ่งจะเหมาะกับการออกเสียงขับร้องประเภทแนวเพลงลูกทุ่งหรือแนวเพลงเพื่อชีวิต ซึ่งแนวเพลงเหล่านี้ย่อมต้องการสำเนียงเสียงที่มีความเหน่อของท้องถิ่นมาก เพราะจะได้กลิ่นอายที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ประจำภาคได้ดี ลักษณะการขับร้องไม่ต้องจีบปากขับร้องกั้นเสียงแต่อย่างใด ปล่อยให้เสียงที่ขับร้องออกมาให้เป็นอิสระออกทางด้านข้างได้มากยิ่งดี ส่วนน้องๆที่อยู่ในกรุงเทพฯเสียงของน้องๆจะไม่มีความเหน่อ และเวลาออกเสียงขับร้องก็จะสะกดตัวพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ได้อย่างถูกต้องชัดเจนมาก เสียงข้องน้องๆเหล่านี้จะเหมาะกับการออกเสียงขับร้องในแนวเพลง ป็อบ ร็อค หรือแนวเพลงต่างๆที่ใช้เนื้อคำร้องที่เป็นภาษาไทย ถ้าหากน้องๆจะออกเสียงขับร้องแนวเพลงลูกทุ่ง หรือแนวเพลงเพื่อชีวิต น้องๆควรออกเสียงขับร้องให้มีสำเนียงเหน่อออกมาด้วยถึงจะมีกลิ่นอายในความเป็นท้องถิ่นแถบชนบท ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่าได้ตรงกับสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นบ้างไหม
5 เสียงของการหายใจ
การออกเสียงขับร้องทุกหนึ่งประโยคแล้วหายใจ การสูดลมหายใจ น้องๆควรสูดลมหายใจเข้าทางปากจึงจะได้ออกซิเจนจำนวนมากๆไว้ใช้ในการออกเสียงขับร้อง หากน้องๆหายใจเข้าทางจมูกทางเดียว น้องๆก็จะได้ออกซิเจนที่ไม่เพียงพอสำหรับใช้ในการออกเสียงขับร้อง การสูดลมหายใจเข้าทางปากโดยปกติแล้วจะได้ยินเสียง ฮืบ คือเสียงของการหายใจ หรือเสียงที่มีแต่ลม บางคนสูดลมหายใจดังมาก และบางคนสูดลมหายแทบจะไม่ได้ยินเสียงเลย ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการสูดลมหายใจใน ต่ำแหน่งใดบ้าง
6 เสียงของการสะอื้น
เสียงของการสะอื้น หรือการสะอึกสะอื้นเสียง การออกเสียงขับร้องใช้เสียงสะอึกสะอื้น จะใช้วิธีการออกเสียงขับร้องเหมือนกับการร้องไห้ให้เกิดเสียงสำเนียงสะอึกสะอื้นอยู่ข้างใน การออกเสียงขับร้องด้วยวิธีนี้จะออกเสียงขับร้องเฉพาะประโยคที่ให้ความรู้สึก เจ็บปวด เจ็บใจ โศกเศร้า ผิดหวัง จากไป หรือคำที่เกี่ยวกับใจได้เกิดขึ้นในทางลบ หากเจอคำเหล่านี้ในประโยคคำร้องให้น้องๆออกเสียงขับร้องใช้เสียงสะอึกสะอื้น หรือการสะอื้นเสียงให้ดูเหมือนจะร้องไห้ หากได้รับฟังแล้วจะรู้สึกน่าสงสารชวนให้เกิดความเห็นใจขึ้นมาได้ ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงร้องที่เป็นเสียงสะอึกสะอื้นบ้าง
7 เสียงของการออดอ้อน
เสียงออดอ้อน หรือการออดอ้อนเสียง การออกเสียงขับร้องใช้เสียงออดอ้อน จะใช้วิธีการออกเสียงขับร้องด้วยการเอื้อนผันเสียงให้เกิดสำเนียงของความออดอ้อนให้ฟังดูน่ารักงดงามพอดี การออกเสียงขับร้องด้วยวิธีนี้จะเหมือนกับการพูดจาออดอ้อนให้ได้มาซึ่งตนเองปรารถนาต้องการที่จะได้ หากน้องๆออกเสียงขับร้องโดยใช้เสียงออดอ้อนก็จะเกิดความน่ารัก อ่อนโยน นุ่มนวล อ่อนหวาน หากได้รับฟังก็จะรู้สึกถูกชักชวนให้ใจอ่อน การออกเสียงขับร้องในลักษณะนี้ ให้น้องๆใช้เสียงออดอ้อนขับร้องที่มีเนื้อหาคำร้องทุกประโยคทั้งหมดทั้งเพลง ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่น้องๆนำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงออดอ้อนบ้างไหม
8 เสียงของการจริต
เสียงของการจริต หรือการจริตเสียง การออกเสียงขับร้องใช้เสียงจริต หรือการจริตเสียง ให้น้องๆออกเสียงขับร้องด้วยการเอื้อนผันเสียงให้มากๆ พอถึงปลายเสียงให้ปิดด้วยการออกเสียงประชดประชัน ให้น้องๆสังเกตวิธีการออดอ้อนจะเอื้อนผันเสียงให้เกิดสำเนียงของความออดอ้อนพอฟังแล้วจะมีความน่ารักงดงามพอดี แต่การออกเสียงขับร้องใช้เสียงจริต น้องๆควรเอื้อนผันเสียงให้มากๆ เพื่อให้เกิดมีสำเนียงของความจริตแปร๋นออกมาให้มากๆ การใช้เสียงในลักษณะนี้ให้น้องๆสังเกตอีกครั้งกับบทละครที่ผู้หญิงแสดงเป็นตัวร้าย หรือเรียกว่านางมารร้าย การพูดจาก็จะใช้เสียงจริตให้เกิดสำเนียงมีความแป๋น หากมีมากก็ยิ่งเป็นผลดีจะได้มีกลิ่นอายของการจริตเสียงที่ให้สำเนียงมีความชัดเจนกับการออกเสียงขับร้องด้วยวิธีนี้ การออกเสียงขับร้องใช้เสียงจริตนี้ส่วนมากจะนิยมใช้ในกลุ่มของ ผู้หญิงให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงจริต หรือการจริตเสียงบ้างไหม
9 เสียงที่มีความดัดให้หล่อ
เสียงดัด หรือการดัดเสียง โดยปกติแล้วผู้ออกเสียงขับร้องทั้งชายและหญิงจะมีสำเนียงเนื้อเสียงเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ผู้ออกเสียงขับร้องบางคนได้ขับร้องเพลงของศิลปินคนหนึ่ง ผู้ออกเสียงขับร้องคนนี้จะใช้วิธีดัดเนื้อเสียงของตนเองให้เกิดมีสำเนียงเนื้อเสียงที่คล้ายกับศิลปินผู้นั้น ซึ่งการออกเสียงขับร้องใช้เสียงดัด เป็นการดัดสำเนียงเนื้อเสียงของตนเองให้คล้ายกับเสียงของศิลปินคนใดคนหนึ่ง ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษอีกทางหนึ่งของผู้ขับร้อง หากถ้ามองอีกมุมหนึ่ง ผู้ออกเสียงขับร้องเองจะติดวิธีการแบบดัดเสียงไปโดยตลอด และจะขาดสำเนียงเนื้อเสียงในความเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก หากจะแก้ไขก็ย่อมใช้เวลานานที่จะทำให้ผู้ขับร้องยอมรับเนื้อแท้ในสำเนียงของตนเองให้ได้ การออกเสียงขับร้องเพลงที่น้องๆได้เลือกนำบทเพลงของศิลปินนำมาขับร้องก็คือ การออกเสียงขับร้องที่ลอกเลียนแบบ หรือการออกเสียงขับร้องแบบก๊อบปี้นั่นเอง ขอบอกกับน้องๆว่า การขับร้องที่ลอกเลียนแบบ น้องๆจะลอกเลียนแบบวิธีใดให้ถูกต้องได้ดี มาดูวิธี แรกกัน
วิธีที่ 1 การขับร้องที่ลอกเลียนแบระดับอารมณ์
น้องๆควรจัดระดับของอารมณ์ให้มีความใกล้เคียง หรือขับร้องให้มีระดับอารมณ์เดียวกันกับศิลปินผู้เป็นเจ้าของเพลงที่น้องๆเลือกนำมาขับร้องให้ได้ดี
วิธีที่ 2 การขับร้องที่ลอกเลียนแบบระดับน้ำหนักเสียง
น้องๆควรจัดระดับน้ำหนักเสียงให้มีความใกล้เคียง หรือขับร้องให้มีระดับน้ำหนักเสียงเดียวกันกับศิลปินผู้เป็นเจ้าของเพลงที่น้องๆเลือกนำมาขับร้องให้ได้ดี
วิธีที่ 3 การขับร้องที่ลอกเลียนแบบเทคนิคการออกเสียง
เช่น การแบ่งลมหายใจ การตัดเสียง การสะบัดเสียง การกดเสียง การใช้เสียงที่เป็นตัวเอก การใช้เสียงที่เป็นตัวเชื่อมประโยค การใช้เสียงที่ค่อยๆดังขึ้น การใช้เสียงที่ค่อยๆจางแผ่วเบาหายไป หรือการเปลี่ยนเสียงสั้นให้เป็นเสียงยาว เป็นต้น ฯลฯ หากน้องๆขับร้องออกเสียงลอกเลียนแบบได้ครบ 3 วิธีนี้ ก็จะเกิดเป็นผลดีกับน้องๆเอง น้องๆก็จะได้การออกเสียงขับร้องที่เป็นตัวของตัวเองแล้ว เพราะน้องๆไม่ได้ดัดสำเนียงเนื้อเสียงให้เหมือนกับศิลปิน สำเนียงเนื้อเสียงของน้องๆจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าให้สิ่งนี้หายไปจากตัวของน้องๆนะ ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงดัดให้หล่อ หรือดัดให้สวยบ้างไหม
10 เสียงหล่อ
เสียงหล่อ หรือการใช้เสียงต่ำที่มีความนุ่มนวล วิธีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงหล่อ จะใช้จุกำเนิดเสียงที่ลำคอ หรือการใช้เสียงขับร้องที่ลำคอให้เกิดมีความนุ่มนวลอบอุ่น เสียงที่ขับร้องออกมาจะถูกปรุงแต่ง หรือถูกกลั่นกรองเสียงให้มีลักษณะน่าฟังขึ้น วิธีการออกเสียงขับร้องใช้เสียงหล่อนี้จะเหมาะกับเพลงที่ไม่ใช้น้ำหนักเสียงมาก หรือไม่ใช้พลังในการออกเสียงขับร้องมากเกินไป ให้เป็นการออกเสียงขับร้องแบบสบายๆที่เรียบง่ายจะเหมาะสมและดูกลมกลืนกว่า การออกเสียงขับร้องด้วยวิธีนี้จะใช้ได้กับทั้งผู้หญิง และผู้ชาย และไม่จำกัดอายุวัยด้วย ให้น้องๆตรวจสอบดูบทเพลงที่นำมาขับร้อง ว่ามีการออกเสียงขับร้องที่ใช้เสียงหล่อที่มีความนุ่มนวลบ้างไหม
เรียบเรียงหลักสูตรโดย คมกฤช จันทราสา อาจารย์โอ๊ะ