Office Syndrome
เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังพืด เกิดจากการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ ปวดเมื่อย โดยเฉพาะบริเวร คอ หลัง บ่า ไหล่ แขน หรือข้อมือ ซึ่งมักพบได้บ่อยในคนที่งานออฟฟิศ อีกทั้งยังส่งผลไปถึงการมีอาการตาพร่า ปวดตึงขา เอ็นข้อมืออักเสบ เพราะมีพฤติกรรมการนั่งอยู่หน้ามองหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
อาการของออฟฟิศซินโดรม
ปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง ปวดกว้าง ๆ ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ปวดได้อย่างชัดเจน เช่น คอ บ่า ไหล่ สะบัก
ปวดศรีษะเรื้อรัง หรือปวดไมเกรน
ปวดหลังเรื้อรัง เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยโรคนี้ การนั่งไม่ถูกท่า นั่งหลังค่อม อาจทำให้กล้ามเนื้อต้นคอเกร็งตลอดเวลา
ปวดตึงที่ขา เหน็บชา เกิดจากการนั่งท่าเดิมนาน ๆ เลือดไหลเวียนผิดปกติ
ปวดตา ตาพร้า เกิดจากการใช้สายตาจ้องมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
มือชา นิ้วล็อค ปวดข้อมือ การจับเมาส์ในท่าเดิมนาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทและเส้นเอ็นจนอักเสบ หรืออาจเกิดพังผืด ทำให้ปวดปลายประสาท
Smartphone Syndrome
เป็นโรคที่มีอาการคล้ายคลึงกับออฟฟิศซินโดรม แต่ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ จึงเป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในขณะที่ออฟฟิศซินโดรมจะเกิดขึ้นกับคนทำงาน
อาการของสมาร์ทโฟนซินโดรม
ปวดตา ตาแดงช้ำ เกิดจากการจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการใช้ในที่มืดหรือแสงสว่างไม่เพียงพอ อาจทำให้สายตาสั้น และส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อประสาทตาด้วย
ปวดหัว เวียนหัว ปวดกระบอกตา ปวดท้ายทอย อาจเกิดไมเกรนเฉียบพลัน ยิ่งในผู้สูงอายุอาจเกิดวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมได้
ปวดกระดูกคอและบ่า การก้มหน้าอยู่ในอิริยาบถเดิมนาน ๆ จะทำให้กระดูกคอเสื่อมก่อนวัย อาจถึงขั้นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้
ปวดข้อมือและนิ้วมือ หรือเกิดอาการนิ้วล็อค ขยับข้อนิ้วมือไม่ได้
อ่อนเพลีย อาจเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
เราควรป้องกันอาการโดยการใช้สมาร์ทโฟนอย่างถูกวิธี ใช้แต่ละครั้งไม่ควรเกิน 1-1.3 ชั่วโมง แทนที่จะต้องถือสมาร์ทโฟนตลอดเวลา อาจจะเปลี่ยนมาใช้ขาตั้งวางสมาร์ทโฟนแทน และเปลี่ยนจากการใช้นิ้วโป้งเลื่อน มาเป็นใช้นิ้วชี้หรือนิ้วอื่น ๆ บ้าง
การบริหารร่างกายเพิ่มเติม เพื่อลดอาการ Office syndrome และ Smartphone Syndrome
ยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างถูกต้อง เช่น กล้ามเนื้อรอบคอ คือการก้มคอไปข้างหน้า สูดลมหายใจ นับ 1-10 เอียงคอไปทางด้านซ้ายและขวา นับ 1-10 แหงนมองไปข้างหลังนับ 1-10 ทำให้ช้า ๆ ใก้กล้ามเนื้อยืดเหยียด หากมีอาการตึงแถวบ่ามาก ให้ใช้มือฝั่งตรข้ามมากดเพื่อยืดกล้ามเนื้อบ่าให้คลายตัว ในส่วนของแขนคือเหยียดแขนให้ตรงและใช้มืออีกข้างดันข้อมือ นับ 1-10 และบริหารมือด้วยการกางมือและพับเข้า งอเหยียดนิ้วมือเพื่อคลายกล้ามเนื้อ
การรักษาสองโรคนี้มีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยา ทำกายภาพบำบัด ออกกำลังกาย ฝังเข็ม นวดแผนไทย ผู้ที่มีอาการควรรีบปรึกษาแพทย์อย่างเร็วที่สุด เพื่อตรวจหาสาเหตุและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ หรือไม่ เพื่อให้แพทย์รักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับอาการของบุคคล แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง หากพบแพทย์แล้วอาการดีขึ้น ก็ไม่ควรกลับไปมีพฤติกรรมแบบเดิม ไม่เช่นนั้นอาการเดิมก็อาจจะกลับมาได้
สนใจเข้ารับการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมและสมาร์ทโฟนซินโดรม
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : chulalongkornhospital , itgenius , hd.co.th , sikarinhospital , siphhospital