การอยู่ในสังคมที่คนร้อยพ่อพันแม่มาทำงานร่วมกัน ใช้ชีวิตกว่าครึ่งวันร่วมกันในห้องสี่เหลี่ยม แน่นอนว่าเกิดความน่าปวดหัวขึ้นอย่างแน่นอน มาดูเรื่องน่าปวดหัวที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องเคยพบเคยเจอกันมา
1. เพื่อนร่วมงานยอดแย่ ถึงแม้ว่าองค์กรที่เราอยู่นั้นจะกว้างขนาดไหน แต่ก็ไม่วายฟ้าประทานให้เราต้องมาทำงานร่วมกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันมาก่อน หรือเจอเพื่อนร่วมงานที่ไร้ความสามารถ คอยที่จะดึงรั้งทีมไม่ให้ก้าวหน้าออกไป รวมไปถึงเราอาจเจอเจ้านายที่เจ้ากี้เจ้าการ น่าเบื่อ หรือไร้ความสามารถเช่นเดียวกัน เราคงทำได้เพียงอดทนยอมแพ้ต่อโชคชะตาและมองไปที่เป้าหมายของการทำงานต่อไป
2. เจอเรื่องนินทา ห้ามคนนินทาก็เหมือนห้ามเพลิงไฟไม่ให้มีควัน ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ ปากคนนั้นมีเยอะเกินกว่าเราจะควบคุมไหว เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำได้แค่ทำใจยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ หันกลับมามองว่าตัวเราเป็นเหมือนกับที่พวกนั้นพูดหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็จงเชื่อมั่นใจตัวเองว่าเรามีดีกว่าแค่พูดเรื่องคนอื่นไปวัน ๆ แต่หากเราเป็นเหมือนกับที่พวกนั้นพูดแล้วก็ควรปรับปรุงตัวเองเพื่อให้อยู่ในสังคมได้
3. การเมืองในที่ทำงาน แบ่งพรรคแบ่งพวก เข้าข้างพวกของตัวเองไว้ก่อนไม่สนว่าใครจะถูกผิด เป็นเรื่องที่น่าโมโหสุด ๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ สิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้คือการอดทน สนใจแค่งานของตัวเองเท่านั้น ทำตามหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะทำให้การทำงานของเราช้าลง แต่เราก็ไม่เห็นต้องลดตัวลงไปคลุกคลีกับกลุ่มคนพวกนั้น แต่ถ้ามันสุดใจของเราแล้วจริง ๆ ก็ลาออกไปเจอสังคมที่ดีกว่านี้เถอะ
4. การลาจากของเพื่อนร่วมงาน คนเรามักมีความฝันที่แตกต่างกัน มีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน ไม่มีใครจะทำงานอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต หรืออาจเป็นเราเองที่ลาจากเพื่อนร่วมงาน เราต้องปล่อยให้แต่ละคนนั้นได้เดินตามเส้นทางที่ตัวเองเลือก
5. ต้องอยู่ให้เป็น การเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็คือการต้องเข้าสังคมในที่ทำงานให้ได้ ต้องรู้จักพูดจา สังเกตเพื่อนร่วมงานว่าแต่ละคนมีลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร เราจะต้องอยู่ร่วมกับคนได้ทุกประเภทถึงแม้ว่าลึก ๆ แล้วเราจะไม่ชอบแค่ไหนก็ตาม ถ้าเราไม่สามารถฝืนที่จะแสดงต่อหน้าคนอื่น เราก็อาจจะอยู่ในสถานะของมนุษย์เงินเดือนได้ยาก
6. เดินทางไกลเป็นชาติก็ไม่ถึงที่ทำงานสักที การเดินทางที่แสนยาวนาน รถก็ติด ถ้าเจอแบบนี้ตั้งแต่เช้านะ คงหัวเสียไปทั้งวันแน่ ๆ ไหนจะตอนเดินทางกลับอีก วิญญาณไปนอนรอที่เตียงแล้วแต่ร่างกายยังอยู่บนรถอยู่เลย มันทั้งเหนื่อยทั้งท้อ ถ้าองค์กรใจดีกับเราหน่อย คงมีสวัสดิการการเดินทางให้เราหรือจะเป็นการปรับเวลาเข้างานให้ยืดหยุ่นกว่านี้อีกหน่อยก็คงจะดีไม่น้อย
ดู ๆ แล้วน่าปวดหัวจริง ๆ การเข้าสังคมก็คือการต้องแสดงละครอย่างหนึ่ง ตัวตนที่เราแสดงออกให้กับเพื่อนร่วมงานเห็น อาจจะไม่ใช่ตัวตนที่เราแสดงให้กับครอบครัวได้เห็น แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเราตีสองหน้าหรือเสแสร้งต่อหน้าทุกคน สิ่งที่เราเป็นก็คือหนึ่งในบุคลิกจริง ๆ ของเรา คนเรามีหลายบุคลิกอยู่ในตัวอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะแสดงด้านไหนออกมาให้ใครเห็น การปรับตัวคือสิ่งสำคัญของการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นสังคมใหญ่ เชื่อว่าพวกเราทุกคนมีวุฒิภาวะมากพอที่จะรู้ว่าควรจะแสดงตัวตนในด้านไหนออกมาในที่ทำงาน
ข้อมูลอ้างอิง : workventure , smethailandclub