การไม่เก่งภาษาอะไรเลยนอกจากภาษาบ้านเกิดนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด คนไม่เก่งภาษาไม่ใช่คนไม่เก่ง แต่เราจะปฏิเสธได้อย่างไรว่าการได้ภาษานั้นส่งผลให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ได้มากกว่า
เราขอยกตัวอย่าง ภาษาอังกฤษ ที่เป็นภาษาหลักของประชากรกว่า 360 ล้านคน เป็นภาษาที่สองของประชากรกว่า 750 ล้านคนทั่วโลก และยังเป็นภาษาทางราชการของ 61 ประเทศ และเป็นภาษาหลักในหลายรัฐทั่วโลก จึงถือเป็นภาษากลางที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างประชากรในประเทศต่าง ๆ ถึงแม้ว่าเราอยู่ในประเทศไทย แต่ภาษาอังกฤษนั้นยังสำคัญอยู่ นั้นก็เพราะเราต้องใช้ภาษาอังกฤษอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น
ในการท่องเที่ยว ถ้าเราอยากจะไปเที่ยวต่างประเทศแต่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษหรือภาษาประเทศนั้น ๆ ได้ล่ะ อีกทั้งหากเราต้องการความช่วยเหลือเมื่อมีเหตุจำเป็น คงจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งกายและใจเลย
ความรู้ ด้วยความที่ภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาหลักของโลก แหล่งความรู้ของโลกในยุคSocial ส่วนมากก็จะเป็นภาษาอังกฤษไปซะหมด ถ้าเราอ่านไม่ออก แปลไม่ได้ อาจส่งผลกระทบเมื่อเราต้องการศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ
และที่อยากจะให้ Focus เลย คือ ในการทำงาน ในโลกเศรษฐกิจสามัญแบบนี้ ต่อให้เรามี Hard skill ในสายงานของเราแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้ภาษาก็เหมือนโดนตัดโอกาสในการเติบโตไปเลยล่ะ ส่งผลไปจนถึงรายได้ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในบริษัทหรือธุรกิจส่วนตัวที่ต้องติดต่อกับคนต่างชาติ ถ้าเราพูดภาษาที่เขาต้องการไม่ได้ แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมร่วมงานกับเราแน่นอน อย่างน้อยการมีทักษะด้านภาษาก็ทำให้คุณอยู่เหนือกว่าคนอื่นในแง่ของการค้นหาความรู้ การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ หรือการนำเอาความรู้ เทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาปรับใช้ในองค์กร จะทำให้องค์กรสามารถเติบโต ส่งผลไปถึงผลประกอบการหรือผลกำไรที่สูงขึ้น
แล้วเราควรจะรู้แค่ไหน?
อาจจะไม่จำเป็นต้องพูดเก่งเหมือนเจ้าของภาษา เพียงแค่สามารถสื่อสารได้ อ่านได้ ฟังได้ หากมีข้อมูลภาษาอังกฤษให้อ่านหรือฟัง ก็สามารถอ่าน ฟังและเข้าใจได้
เคล็ดลับการเรียนรู้
"หากอยากจะเป็นคนแบบไหน จงพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมแบบนั้น" ภาษาก็เช่นกัน ถ้าเราต้องการจะเก่งภาษาไหน ก็พยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เราใช้ภาษานั้น เชื่อมโยงภาษากับชีวิตประจำวันของเรา แล้วสุดท้ายภาษานั้น ๆ ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรา
1. Chat กับเพื่อนด้วยภาษาอื่น เรามักจะใช้ Application ในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ลองเปลี่ยนจากคุยภาษาไทยเป็นคุยภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่คุณต้องการเรียนรู้ดูสิ เป็นเหมือนการชวนเพื่อนมาฝึกภาษาไปด้วยกันเลย
2. อ่านบล็อกหรือหนังสือที่สนใจ วิธีนี้นอกจากเราจะได้อ่านเนื้อหาที่เราสนใจแล้วเรายังสามารถฝึกภาษาไปด้วยกันได้ เมื่อต้องอ่านเราจะสามารถกำหนดความเร็วในการอ่านได้ อ่านเข้าใจก็อ่านไปเร็ว ๆ ไม่เข้าใจก็สามารถเปิด Dictionary ควบคู่ไปด้วยได้ ไม่เหมือนกับการดูหนังหรือฟัง ที่สามารถกำหนดความเร็วได้ยากกว่า
3. ดูหนัง ฟัง Podcast ลองเลือกหนังจาก Netflix หรือ Application อื่น ๆ มาสักเรื่องแล้วเปิด Subtitle เอาไว้ หรือถ้าไม่มีเวลาอาจจะลองฟัง Podcast เพราะเราสามารถฟังและทำกิจกรรมอย่างอื่นไปพร้อมกันได้ นี่เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้เราได้คำศัพท์ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ๆ และยังได้สนุกสนานไปกับเรื่องราวของหนังและ Podcast อีกด้วย
4. ลองสอบภาษาอังกฤษ เมื่อมีเป้าหมาย เราจะมีแรงจูงใจให้ไปถึงเป้าหมาย การตัดสินใจลงสอบภาษาอื่น ๆ ดู ไม่ว่าจะเป็น TOEIC TOPIK TOEFL JLPT หรืออื่น ๆ จะทำให้คุณรู้ความสามารถของตัวเองและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองมากขึ้น ลองตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขที่เห็นได้ชัดเจน เช่น จะต้องสอบ TOEIC ได้เกิน 900 คะแนน จะต้องผ่าน TOPIK ระดับ 2 ให้ได้ จะทำให้เรามีแรงฮึดมากขึ้น
5. หาเพื่อนต่างชาติ การได้ Hangout กับเพื่อนต่างชาติ จะทำให้เราได้พูดคุยและใช้ภาษาอย่างตรงไปตรงมา เราจะเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และอาจได้ลองใช้คำศัพท์ที่เคยท่องไว้อีกด้วย
และนอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ภาษาจีนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจีนนั้นเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ในการติดต่อเจรจาธุรกิจจึงนิยมใช้ภาษาจีน หากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง แน่นอนว่าภาษาจีนคือภาษาที่สาม เพราะภาษาจีนนั้นมีผู้ใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 รองจากภาษาอังกฤษ ถ้าเราพูดภาษาจีนได้ก็เหมือนมีข้อได้เปรียบในสายอาชีพ เติบโตและมั่นคงในหน้าที่การงานไม่แพ้การพูดภาษาอังกฤษได้เลยล่ะ
สรุป
ภาษานั้นสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ 2 แบบ ถ้าเรามองว่าภาษานั้นไม่มีความสำคัญ ภาษามันจะกลายเป็นกำแพงที่ขังเราไว้ไม่ให้เจอกับโลกภายนอก แต่ถ้าเราคิดว่าภาษานั้นสำคัญ ภาษาจะกลาเยป็นสะพานที่ทำให้เราได้พบเจอกับสิ่งใหม่ ๆ ไม่รู้จบ อย่างไรก็ตาม อย่าพยายามมากเกินไปจนฝืนตัวเอง เราสามารถพัฒนาทักษะของเราไปได้เรื่อย ๆ ทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน จะทำให้การพัฒนาของเรานั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ข้อมูลอ้างอิง : medium , festallor-edu , sitthinunt , lingoace