เคยสังเกตไหม? เวลาเราออมเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร ดอกเบี้ยและเงินของเราไม่เติบโตขึ้นสักเท่าไหร่เลย

แล้วเราจะทำอย่างไรให้เงินของเราเติบโตไปมากกว่านี้?

"กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" คือกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งจึ้น เพื่อเป็นแหล่งออมเงินให้ลูกจ้าง เพื่อไว้สำรองเลี้ยงชีพเมื่อไม่มีงานทำ ลาออกจากงาน บริษัทปิดกองทุน หรือแม้กระทั่งเกษียณอายุงาน ซึ่งถ้าลูกจ้างเป็นสมาชิกกองทุน ก็สามารถนำเงินออกไปเลี้ยงชีพตัวเองได้ เงินของกองทุนนี้จะแบ่งเป็นเงินที่ลูกจ้างเลือกแบ่งออมจากเงินเดือน เรียกว่า "เงินสะสม" และเงินที่นายจ้างช่วยจ่ายเพิ่มเข้ากองทุนอีกแรง เรียกว่า "เงินสมทบ" เงินสมทบนี่แหละ ที่เป็นหัวใจของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะเปรียบเสมือนเราได้เงินเพิ่มพิเศษจากที่ทำงานในทุก ๆ เดือน

4 เหตุผลที่ควรออมเงินกับ"กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ"

ได้อ่านแบบนี้แล้ว เริ่มที่จะเห็นความคุ้มค่าของการออมเงินกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือยัง ถ้าอยากรู้เหตุผลมากกว่านี้ ไปดู 4 เหตุผลที่ควรออมเงินกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกัน

1. เป็นรูปแบบการออมแบบที่มีนายจ้างมาช่วยออมด้วย เมื่อเราออมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นายจ้างจจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนให้เพิ่ม ซึ่งจะเปรียบเสมือนเราได้เงินเพิ่มพิเศษ นอกเหนือจากเงินเดือน โบนัส และโอที ถ้าไม่อยากพลาดโอกาสการได้รับเงินฟรี ๆ จากนายจ้าง ก็ต้องไปสมัครเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วล่ะ

2. เราเลือกนโยบายการลงทุนเพื่อสร้างโอกาสทำกำไรของเราได้ นโยบายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ดีของบริษัทจะมีตัวเลือกหลากหลายให้กับสมาชิก ให้สมาชิกได้เลือกอย่างสอดคล้องตามอายุ ความต้องการ จัดสรรการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งในตรงนี้จะมีมืออาชีพมาบริหารเงินตามนโยบายที่เลือกไว้

3. มีเงินก้อนไว้ใช้ยามเกษียณอายุ การออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการออมระยะยาว โดยมีจุดมุ่งหมายคือการมีเงินเกษียณ มีการลงทุนในทุก ๆ เงินของเราก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้

4. ใช้ลดหย่อนภาษีได้ นอกจากสิทธิประโยชน์มากมายที่ได้รับแล้ว ยังมีอีกสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจมาก ๆ คือ การลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยเงินสะสมที่เราออมเข้ากองทุนสามารถนำไปลดภาษีเงินได้สูงสุด 500,000 บาท หรือไม่เกิน 15% ของรายได้

แล้วเราควรเลือกออมเงินกี่ % ดี?

เราสามารถเลือกออมเงินได้ 2% - 15% ของรายได้ และนายจ้างจะสมทบให้ในอัตรา 2% - 15% ของรายได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับนโยบายและเงื่อนไขของบริษัท ส่วนใหญ่มักจะเลือกออมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแค่ 2% - 5% ของรายได้เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำในการสะสมเงินของบริษัทหลายแห่ง แนะนำให้ออมเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในอัตราที่สูงสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะบางบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินสมทบเท่ากับเงินที่ลูกจ้างจ่าย เช่น หากลูกจ้างสะสมอัตรา 10% ของเงินเดือน นายจ้างจะสมทบให้ 10% แต่หากนายจ้างสมทบให้ในอัตราที่ต่ำกว่า ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ที่สำคัญคือการออมเงินผ่านกองทุนนี้ถือเป็นการเก็บเงินที่สม่ำเสมอในระยะยาว

สรุปได้ว่า "กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" นับว่าเป็นกองทุนที่คุ้มค่าสำหรับมนุษย์เงินเดือนในทุกเพศทุกวัย เพราะนอกจากจะช่วยออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณแล้ว ยังได่เงินสมทบจากนายจ้างมาช่วยออมด้วยอีก อีกทั้งยังใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้อีก คุ้มค่ากว่านี้ ปฏิเสธที่จะไม่สมัครสมาชิกของกองทุนได้อย่างไร

(•ө•)♡ บริษัทของเราก็มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนะ คลิ้กเลย

ข้อมูลอ้างอิง : thaipvd , setinvestnow