เที่ยวโดโลไมท์ : Tre Cime ความงาม ความท้าทาย ที่ต้องไปให้ถึง

เที่ยวโดโลไมท์ : Tre Cime ความงาม ความท้าทาย ที่ต้องไปให้ถึง

Tre Cime (ทรีซิเม่)  เราว่าเป็นชื่อที่เก๋ไก๋ไม่น้อยสำหรับเส้นทางเดินเทรลในอุทยานโดโลไมท์ สถานที่ที่ใครๆ ก็อยากไปเช็คอิน เพราะว่าทิวทัศน์ของทริซิเม่นั้นน่าประทับใจทุกย่างก้าวเลยก็ว่าได้ แต่ความประทับใจนี้ก็แลกมาด้วยหยาดเหงื่อไม่น้อยเหมือนกัน เพราะต้องใช้เวลาเดินนาน ประมาณช่วงละ 1.30 ชั่วโมง (แต่ฝรั่งคงเพียง 45 นาที) คนไทยเราจะเดินช้ากว่าฝรั่งหน่อยก็ตรงที่ขาสั้นกว่า ทำกิจกรรมเดินเทรลน้อยกว่าทำให้ไม่คุ้นชิน อีกทั้งเรายังชอบเดินไปถ่ายรูปไปตลอดทาง ก็เลยทำให้ฝรั่งน๊อครอบเราได้ทุกคราไป ที่บอกว่าน๊อครอบนั้นคือ ฝรั่งเดินผ่านเราไปจนถึงจุดหมาย จนกระทั่งเดินกลับมา ก็ยังเห็นเราเดินอยู่ระหว่างทางไม่ถึงเป้าหมายสักทีนั่นเอง 

ใครที่เป็นคนชอบเดิน ชอบนับก้าวขณะใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้วก็คงไม่เหนื่อยมากเมื่อไปเดินเทรคพิชิต ทริซิเม่ แต่ถ้าใครไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็คงต้องศึกษากันหน่อยว่าระยะเดินของที่นี่ไหวกันหรือเปล่า เพราะว่าเบ็ดเสร็จเดินจนพิชิตและพักผ่อนสักนิดจากนั้นก็เดินกลับมายังเส้นทางเดิมนั้นก็ใช้เวลาถึง 3-4 ชั่วโมง นี่ยังไม่นับรวมยืดระยะเวลาให้ได้นั่งเล่น ถ่ายรูป เอนกาย อีกเป็นชั่วโมง

เส้นทางเดินเทรลเพื่อไปยังแคมป์พักแรมจุดต่างๆ มีหลายเส้นทาง ดังนี้

เที่ยวโดโลไมท์ : เตรียมตัวเดินเทรลทริซีเม่

เที่ยวโดโลไมท์ : Rifugio Lavaredo จุดพักเข้าห้องน้ำ และ ทานอาหารในช่วงแรกของการเดินทางเทรล

เส้นทางเดินเทรลทริซิเม่ เมื่อ เที่ยวโดโลไมท์ อิตาลีเหนือ
เราจะขอเล่าถึงเส้นทางที่เดินทางจากเมือง Cortina D'Ampezzo เข้าสู่ Rifugio Auronzo -Rifugio Lavaredo และไปจบที่ Rifugio Locatelli

เมื่อไปถึงยังจุดจอดรถอันเป็นประตูสู่เส้นทางเดินเทรลไปทริซิเม่ จุดเริ่มต้นของการเดินจะมี Rifugio Auronzo ซึ่งริฟูจิโอนี้จะเป็นที่พักที่มีการขายอาหารให้กับนักท่องเที่ยว จะตั้งอยู่ในจุดสำคัญๆ ต่างๆ หรืออยู่ตามแยกของการเดินเทรลต่างๆ นั่นเอง 

เราเดินจาก Rifugio Auronzo บนเส้นทางถนนหินกรวดเป็นทางยาวราบเรียบประมาณ 1.30 ชั่วโมง จากนั้นจึงถึงทางแยกที่เป็นแนวสูงชันไปยังจุดถ่ายรูปของ Tre Cime di Lavaredo หรือเรียกว่าสามยอดเขาแห่ง Lavaredo นั่นเอง 

ก่อนที่เราจะต้องได้เปลี่ยนจากการเดินทางทางราบเรียบไปเป็นทางสูงชั้นนี้จะมี Rifugio Lavaredo ตั้งอยู่ เป็นที่พักเล็กๆ และร้านอาหารให้บริการ ที่เราสามารถแวะเข้าห้องน้ำ หรือ ทานอาหารกลางวันที่นี่ จากนั้นจึงเดินไปต่อเพื่อชมวิวสามยอดเขา

ก่อนที่จะเดินขึ้นเนินเขาไปยังจุดชมวิว Tre Cime di Lavaredo จะมีป้ายบอกทางให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินว่าจะไปเส้นไหนดี โดยจะมีเส้นทางเดินอ้อมไกลหน่อยแต่ไม่ชันมาก ไม่เหนื่อยมาก (อยู่เส้นทางขวามือ) และมีเส้นทางชันที่ค่อนข้างช๊อตคัท (อยู่เส้นทางซ้ายมือ) เส้นนี้เดินเหนือยเหมือนกันแต่ว่าไม่ต้องเสียเวลาเดินนาน อันนี้คงต้องขึ้นกับทักษะในการเดินเทรลของแต่ละคน คนที่พอได้ออกกำลังกายมาบ้างหากจะเลือกแบบเดินไม่นานถึงเร็วๆ ก็อาจเลือกเส้นทางนี้ได้

 เมื่อเดินทางชันขึ้นไปแล้วจะสามารถมองเห็นเขาสามยอดได้อย่างชัดเจน ณ จุดนี้เราก็พักหอบกันอยู่พักใหญ่ ได้รูปมาหลายมุมเลยทีเดียว จากนั้นจึงถามตัวเองก่อนว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ได้เห็น Lavaredo แล้วนะ....
คำตอบที่ได้หลังจากหอบแฮกใหญ่ ถอนหายใจออกมาว่า "ไปต่อ... พอได้ไง"

เราจึงเลือกเส้นทางกันอีกครั้งว่าจะไปเส้นทางไหนเพื่อมุ่งหน้าสู่ Rifugio Locatelli จุดแรมทางที่จะต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 1.30 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น หากเราแวะพักบ่อย หรือถ่ายรูปเยอะ 

เส้นทางไปสู่ Rifugio Locatelli มีให้เลือก 2 เส้นทาง คือ เส้นทางเก่าเป็นการเดินจากจุดที่ต่ำกว่าเดินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ประมาณ 15-25 องศา แทบไม่มีลดระดับลงเลยบนเส้นทางกรวดความกว้างประมาณ 2-3 เมตร จนกระทั่งไปถึงยังจุดหมายที่เป็นขั้นบันไดอีกนิดหน่อย 

หรือเลือกเส้นทางใหม่ที่แคบกว่า สูงกว่า แต่ไม่ชัน จะเป็นการเดินชันช่วงแรกเพื่อไต่ขึ้นแนวสันเขา แล้วจากนั้นจะเดินราบยาวๆ ในทางแคบๆ เสียวเล็กน้อยไปจนกระทั่งถึงที่หมาย

ด้วยความแคบและมีลักษณะเลาะสันเขา เรารู้สึกเสียวๆ จึงเลือกเดินทางด้านล่างที่กว้างกว่า เดินสบายกว่า แต่ว่าชันไต่ระดับไปเรื่อยๆ แทน ซึ่งข้อดีของการเลือกเส้นทางนี้ก็คือ ยังมีจุดให้แวะถ่ายรูประหว่างทางได้อีกด้วย นับว่าได้กำไรเพิ่มที่แลกมาด้วยความเหนื่อยหอบ

ปิดท้ายด้วยการปีนป่ายเล็กน้อยเราก็ได้เห็น Rifugio Locatelli อยู่เบื้องหน้าของเรา เรามาถึงกันประมาณ 12.30 น. ผู้คนล้นหลามมาก นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศที่มา เที่ยวโดโลไมท์ มารวมตัวกันที่นี่เพื่อดื่มด่ำความงามของขุนเขาอันยิ่งใหญ่ และได้ถ่ายรูปสุดอลังการอย่างเต็มตาของสามยอดเขา Lavaredo ณ จุดนี้ ที่สามารถมองเห็นได้แบบ 360 องศา หลายคนนั่งทานอาหารท่ามกลางแสงแดด บางคนเดินไปถ่ายรูปตามมุมต่างๆ โต๊ะเก้าอี้ของกระท่อมถูกจับจองจนไม่มีที่เหลือให้กับเรา ห้องอาหารก็เต็มไปด้วยผู้คนคิวยาวเหยียด โชคดีที่เราเตรียมแซนวิชมาตั้งแต่แรกเพื่อเป็นสเบียงอาหารกลางวัน ทำให้ไม่ต้องไปต่อคิวที่ยาวเป็นหางว่าว และเบียดเสียดผู้คนให้ยากลำบาก

เราเลือกนั่งใต้ร่มเงาของตัวอาคาร ที่ขณะนี้พระอาทิตย์เริ่มเบนแสงไปยังทิศทางตะวันตกบ้างแล้ว ทำให้เราพอหาที่นั่งกับพื้นพิงกำแพงกระท่อม กินแซนวิชที่เตรียมาได้อย่างสบายอารมณ์ ดื่มด่ำวิวของที่นี่อย่างมีความสูข

เที่ยวโดโลไมท์ : มุมถ่ายรูปยอดฮิต ที่ต้องปีนป่ายขึ้นไปยังถ้ำด้านบน ที่อยู่ด้านหลัง Rifugio Locatelli ภาพที่ได้มาคุ้มค่ากับความหวาดเสียวจริงๆ

เที่ยวโดโลไมท์ : เดินไปค่ะอย่าท้อ มาขนาดนี้แล้วท้อได้ไง หนักกว่าเธอก็เจอมาแล้ว

เที่ยวโดโลไมท์ : ทริซีเม่ ความงาม ความท้าทาย ที่ต้องไปให้ถึง

ขอบอกเลยว่า เที่ยวโดโลไมท์ เดินเทรลจาก Rifugio Auronzo สู่ Rifugio Lavaredo Hutte จนไปจบที่ Rifugio Locatelli นั้นให้ความสุขสุดประทับใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ต้องเดินเหนื่อย ตากแดดทั้งวัน แต่ความงามของธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งนี้ทำให้เราได้คำตอบให้กับตัวเองอย่างมากมาย

อ่านโปรแกรม เที่ยวโดโลไมท์ ของบีเจอร์นีไลฟ์ ได้ที่ลิงค์นี้ 

ท่านที่สนใจทำทริปส่วนตัว กรุ๊ปเล็กๆ เที่ยวอย่างเต็มที่กับเพื่อนๆ ที่รู้ใจ ต้องการเดินทางในเส้นทางใหม่ๆ จัดทริป เที่ยวโดโลไมท์ เหมือนทริปนี้ก็สามารถติดต่อ บีเจอร์นีไลฟ์ ได้เลยค่ะ LINE : beejourney