25-26 มีนาคม 2023
การตระเตรียมตัวเราให้พร้อม
สำหรับการเสด็จกลับมา
ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
I. “ใครเป็นทาสที่สัตย์ซื่อและฉลาดที่นายได้ตั้งไว้ดูแลคนในครอบครัวสำหรับแจกอาหารแก่พวกเขาตามเวลา? เมื่อนายมาพบเขากระทำอยู่อย่างนั้น ทาสผู้นั้นก็จะเป็นสุข. เราบอกท่านตามจริงว่า นายจะตั้งเขาไว้ให้ดูแลบรรดาทรัพย์สินของท่าน” — มธ.24:45–47:
1. แผนการบริหารของพระเจ้าในหลักความเชื่อคือแผนการบริหารแห่ง “ครอบครัว” ของพระองค์ คือการบริหารปกครองในครอบครัวของพระองค์ ซึ่งก็คือการแจกจ่ายตัวของพระองค์เองในพระคริสต์เข้าสู่พลไพร่ที่พระองค์ทรงเลือกสรร เพื่อพระองค์จะได้มาซึ่งบ้านที่มาสำแดงพระองค์เอง บ้านนี้ก็คือคริสตจักร — พระกายของพระคริสต์ — 1ตธ.1:4; 3:15; อฟ.2:19.
2. ทาสที่สัตย์ซื่อและฉลาดคือคนต้นเรือนในบ้านของพระเจ้า ซึ่งก็คือผู้ที่บริหารปกครองครอบครัวที่ทำการแจกจ่ายพระคริสต์เป็น “อาหาร” แก่ผู้เชื่อทั้งหลายของพระองค์ — 1กธ.9:17; อฟ.3:2; 1กธ.4:1; 1ปต.4:10:
(1) ความสัตย์ซื่อนั้นถูกแสดงออกต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า (1กธ.4:2; 7:25) ในขณะที่ความฉลาดนั้นถูกปรับใช้ต่อผู้เชื่อทั้งหลาย (เทียบ กซ.1:28; 2คนก.1:10; ฟป.4:5).
(2) ในการปรากฏเป็นที่ประจักษ์ของอาณาจักรแห่งสวรรค์ทั้งหลายนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตั้งทาสที่สัตย์ซื่อไว้เหนือทรัพย์สมบัติทั้งหมดของพระองค์; นี่จะเป็นบำเหน็จแก่ทาสของพระองค์ — มธ.25:21, 23.
3. วลี “แจกจ่ายอาหารแก่พวกเขา” ชี้ถึงการแจกจ่ายพระคำของพระเจ้าและพระคริสต์เป็นการหล่อเลี้ยงแห่งชีวิตแก่ผู้เชื่อทั้งหลายในคริสตจักร; พระคริสต์ในฐานะพระวิญญาณผู้ประทานชีวิตทรงเป็นอาหารของเรา ซึ่งได้แปรสภาพเป็นรูปธรรมและแปรสภาพเป็นจริงอยู่ในพระคำแห่งชีวิต — 24:45; ยฮ.6:57, 63, 68:
(1) ถ้าจะรับสุของค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณของเรา เพื่อเราจะสามารถป้อนเลี้ยงผู้อื่นได้ เราก็ต้องต้อนรับพระคำของพระองค์โดยการอธิษฐานทุกอย่างและการคิดรำพึงพระคำของพระองค์ คือพูดพระคำของพระองค์ด้วยเสียงดังโดยการใคร่ครวญอย่างละเอียด — อฟ.6:17–18; บพส.119:15 (ดูคำอธิบาย), 48, 148; ยฮซ.1:8; ลวต.11:2–3; ยอค.3:1–4; กซ.3:16.
(2) เราต้องตั้งมั่นคงอยู่ในการอธิษฐานและการปฏิบัติแห่งพระคำ — กจ.6:4; เทียบ ฮร.7:25; 8:2.
(3) เราต้องเผยพระวจนะเพื่อก่อสร้างคริสตจักร — พูดสิ่งที่เราเห็นด้วยถ้อยคำที่มีชีวิตชีวาแห่งชีวิตนี้ภายใต้การดลใจ, การชโลม, และการฉายส่องของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในยามฉับพลันที่ใหม่สดผ่านการฝึกฝนวิญญาณของเรา — 1กธ.14:4ข; กจ.5:20; 4:20; 22:15.
(4) เราต้องนำตัวเองอธิษฐานเข้าสู่พระเจ้าเพื่อต้อนรับพระวิญญาณผู้ประทานชีวิตมาเป็นการหล่อเลี้ยงของเรา เป็นอาหารฝ่ายวิญญาณของเรา เพื่อจะป้อนเลี้ยงตัวเราเองและผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเรา — ลก.11:1–13.
(5) เราต้องเป็น “ผู้ทูลขอ” ที่ให้ชีวิต เป็นช่องทางของพระวิญญาณผู้ประทานชีวิตที่สามารถนำชีวิตไปให้แก่ผู้อื่นได้ — 1ยฮ.5:16.
(6) เราต้องเป็น “บุตรแห่งน้ำมันใหม่” คือคนเหล่านั้นที่ถูกเติมเต็มด้วยพระวิญญาณที่ใหม่สด, เป็นปัจจุบัน, และสำเร็จสุดยอดในฐานะที่เป็นน้ำมันแห่งความยินดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะไหลออกซึ่งพระวิญญาณนั้นเข้าสู่คันประทีปทองคำ เพื่อคันประทีปนั้นจะได้เป็นพยานที่ส่องสว่าง ซึ่งก็คือพยานของพระเยซู — ซคย.4:6, 12–14; ฟป.1:25; วว.3:18; มธ.25:9:
ก. เราต้องจ่ายราคาวันแล้ววันเล่าเพื่อจะได้รับพระเจ้าผู้เป็นน้ำมันทองคำในพระนิสัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์มากขึ้น เพื่อเราจะสามารถกลายเป็นคันประทีปทองคำที่บริสุทธิ์หมดจดสำหรับการก่อสร้างกรุงเยรูซาเล็มใหม่ทองคำ — 2ปต.1:4; วว.3:18; 1:20; 21:18; มธ.25:8–9.
ข. เมื่อเรานำเรื่องนี้มาปรับใช้กับประสบการณ์ของเราในวันนี้ เราก็จะเห็นว่าพระวิญญาณนั้นที่หลั่งไหลออกจากเราก็คือพระเจ้า และพระเจ้าทรงเป็นทองคำ; ดังนั้นเมื่อเรานำพระคริสต์ไปหล่อเลี้ยงให้แก่ผู้อื่น หล่อเลี้ยงพวกเขาด้วยน้ำมัน แท้จริงแล้วเราก็กำลังหล่อเลี้ยงพวกเขาด้วยพระเจ้า; พระเจ้าทรงหลั่งไหลออกจากเราเข้าสู่พวกเขา — ซคย.4:12–14; ยฮ.7:37–39; 2กธ.3:3, 6, 8; ลก.10:34.
II. “แต่ถ้าทาสนั้นชั่ว และพูดในใจว่า นายของข้ามาช้า. แล้วตั้งต้นโบยตีผู้ที่เป็นทาสด้วยกันและกินดื่มอยู่กับคนเมา ในวันที่เขาไม่ทันคิด ในโมงที่เขาไม่ทันรู้ นายของทาสผู้นั้นจะมา. และจะตัดขาดกับเขา ให้เขาได้รับโทษด้วยกันกับคนหน้าซื่อใจคด และจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ที่นั่น” — มธ.24:48–51:
1. การคิดในใจว่านายของเรามาช้าคือการรักยุคปัจจุบันอันชั่วและไม่รักในการมาปรากฏขององค์พระผู้เป็นเจ้า — 2ตธ.4:8, 10:
(1) คำว่า “มา” ในภาษากรีกคือ “พารุสเซีย” (parousia) ซึ่งหมายถึง “การสถิตอยู่”; ถ้าจะรักในการมาปรากฏขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งก็คือการเสด็จมาของพระองค์นั้น เราก็ต้องรักการมาปรากฏของพระองค์ ซึ่งก็คือการสถิตอยู่ของพระองค์ในวันนี้ — มธ.24:3, 37; กจ.26:16; 2กธ.2:10; บทเพลงที่ 290.
(2) ตราบใดที่เรามีวันนี้ เราก็ควรรักองค์พระผู้เป็นเจ้าและการมาปรากฏของพระองค์ เฝ้าคอยการเสด็จมาของพระองค์ และยึดเอาการเสด็จมาของพระองค์มาเป็นคำเตือน, คำหนุนใจ, และแรงกระตุ้น — 2ตธ.4:8; ฟป.3:20; วว.22:12.
(3) เราต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมสำหรับการเสด็จมาของพระองค์ — มธ.25:13; 24:44; วว.19:7.
(4) เราต้องระวังในเรื่องความโลภ ไม่ส่ำสมทรัพย์สมบัติเพื่อตัวเอง แต่มั่งคั่งต่อพระเจ้า — ลก.12:16–20; 2กธ.6:10; อฟ.3:8.
(5) เราต้องระลึกถึงภรรยาของโลต ไม่รักและให้ความล้ำค่าต่อโลกอันชั่วร้ายที่พระเจ้าจะทรงพิพากษาและทำลายจนหมดสิ้น — ลก.17:28–32.
(6) เราต้องเฝ้าระวังและทูลวิงวอน เพื่อวันแห่งการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่มาถึงเราอย่างกระทันหันดุจบ่วงแร้ว — 21:34–36; เทียบ มธ.2:3.
(7) “องค์พระเยซูเจ้า เชิญเสด็จมาเถิด!” — นี่ควรเป็นความปรารถนา, การป่าวร้อง, และการอธิษฐานอย่างต่อเนื่องของผู้ที่รักองค์พระผู้เป็นเจ้าและการมาปรากฏของพระองค์ — วว.22:20; ตต.2:12–13.
2. การโบยตีผู้ที่เป็นทาสด้วยกันคือการกดขี่ผู้เชื่อด้วยกัน — เทียบ กจ.9:4:
(1) เราต้องไม่พิพากษาและปรับโทษผู้เชื่อด้วยกัน แต่มีความเอ็นดูต่อพวกเขา, มีใจที่อ่อนโยน, ให้อภัยพวกเขา เหมือนกับที่พระเจ้าทรงให้อภัยเราในพระคริสต์ — ลก.6:37; อฟ.4:31–32.
(2) เราต้องไม่พูดว่าร้ายหรือวิพากษ์วิจารณ์พี่น้องของเรา แต่เห็นว่าพวกเขาดีกว่าตัวเราเอง — 1กธ.6:10–11; ฟป.2:3, 29.
(3) เราต้องไม่เป็นเจ้านายที่ใช้อำนาจบังคับบัญชาผู้เชื่อด้วยกัน (เช่น ตัดสินใจแทนพวกเขา) แต่เป็นทาสปรนนิบัติพวกเขา เพื่อจะป้อนเลี้ยงพวกเขาด้วยพระคริสต์ผู้เป็นขึ้นในฐานะพระวิญญาณผู้ประทานชีวิต — 1ปต.5:3; มธ.20:25–28; เทียบ อฤธ.17:8.
3. การกินดื่มอยู่กับคนเมาคือการเป็นเพื่อนกับบรรดาชาวโลกที่มัวเมากับสิ่งของฝ่ายโลก:
(1) เนื่องจากผู้เชื่อมีพระนิสัยอันศักดิ์สิทธิ์และจุดยืนอันบริสุทธิ์ พวกเขาจึงไม่ควรเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ; เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ต้องปรับใช้กับการสมรสและธุรกิจการค้าระหว่างผู้เชื่อกับผู้ที่ไม่เชื่อเท่านั้น แต่ยังต้องปรับใช้กับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมทุกอย่างด้วย — 2กธ.6:14; 1กธ.15:33; เทียบ สภษ.13:20.
(2) เราต้องหลีกหนีเสียจากราคะตัณหาแห่งคนหนุ่มๆ นั้นและมุ่งแสวงหาพระคริสต์ผู้ครอบคลุมสรรพสิ่งด้วยกันกับคนทั้งหลายที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจบริสุทธิ์หมดจด — 2ตธ.2:22.
4. ทาสที่สัตย์ซื่อและฉลาดจะได้รับบำเหน็จเป็นอำนาจมาปกครองในการปรากฏเป็นที่ประจักษ์ของอาณาจักร ในขณะที่ทาสชั่วจะถูกตัดขาดจากพระคริสต์ผู้สง่าราศี, จากสง่าราศีแห่งอาณาจักรของพระองค์, และจากการสถิตอยู่อันสง่าราศีในอาณาจักรของพระองค์ — มธ.24:47, 51:
(1) การถูกตัดออกจากการปรากฏเป็นที่ประจักษ์ของอาณาจักรคือการถูกทิ้งเข้าไปในที่มืดภายนอก ที่ซึ่งมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน:
ก. ที่มืดภายนอกคือที่มืดภายนอกสง่าราศีที่สว่างไสวในการปรากฏเป็นที่ประจักษ์ของอาณาจักร — 16:28; 25:30.
ข. การร้องไห้บ่งชี้ถึงความเสียใจ และการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันบ่งชี้ถึงการปรับโทษตัวเอง.
(2) การครอบครองร่วมกับพระคริสต์เหนือบรรดาประชาชาติในอาณาจักรพันปีจะเป็นรางวัลแก่ทาสที่สัตย์ซื่อและฉลาดของพระองค์ — วว.2:26; ลก.19:17–19.