25-26 พฤศจิกายน 2023
การดำเนินชีวิตและการปรนนิบัติ
ตามแผนการบริหารของพระเจ้า
เกี่ยวกับคริสตจักร
I. “บ้านของพระเจ้า” เป็นวลีที่มาขยาย “คริสตจักร และ “เสาและฐานรากแห่งหลักความจริง” ก็เป็นวลีที่มาขยาย “คริสตจักร” เช่นกัน; บ้านของพระเจ้าและเสากับฐานรากแห่งหลักความจริงได้บรรยายถึงสิ่งที่คริสตจักรเป็น — 1ตธ.3:15:
II. คริสตจักรเป็นบ้านของพระเจ้า — 1กธ.1:2; 10:32; 11:16:
1. สำนวน “คริสตจักรของพระเจ้า” บ่งชี้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ที่ถือครองคริสตจักร และคริสตจักรมีเนื้อแท้ของพระเจ้า อีกทั้งถูกก่อรูปด้วยองค์ประกอบของพระเจ้า — กจ.20:28; ฆต.1:13.
2. คริสตจักรเป็น “ของ” พระเจ้า เพราะคริสตจักรก่อกำเนิดโดยมีพระเจ้าเป็นแหล่ง กำเนิดและมีพระเจ้าเป็นเนื้อแท้และธาตุแท้ ซึ่งศักดิ์สิทธิ์, อยู่ฝ่ายจักรวาล, และเป็น
นิรันดร์ — 1กธ.3:16–17.
3. เนื้อหาของคริสตจักรโดยหลักแล้วก็คือตัวของพระเจ้าเอง — 10:32.
III. คริสตจักรของพระเจ้าเป็นบ้านของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ — 1ตธ.3:15:
1. บ้านของพระเจ้าก็คือครอบครัวของพระเจ้า — อฟ.2:19:
(1) ที่อาศัยหรือบ้าน และ ครอบครัวหรือครัวเรือนต่างก็เป็นกายจริงกายเดียว — กลุ่มคนผู้ที่ได้รับการทรงเรียกและบังเกิดใหม่โดยมีตัวของพระเจ้าเองอาศัยอยู่ภายใน — 1ปต.1:3; 2:5; 1กธ.3:16.
(2) พระคริสต์ไม่ทรงแยกจากอวัยวะในพระกายของพระองค์ แต่อาศัยอยู่ใน
พวกเขาฉันใด พระบิดาก็ไม่ทรงแยกจากคนในครอบครัวของพระองค์ แต่อยู่ในบุตรทั้งหลายฉันนั้น — รม.8:16; 12:4–5; 1กธ.3:16.
(3) บ้านของพระเจ้าเป็นอินทรียภาพในชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์, เป็นอินทรียภาพใน
พระนิสัยอันศักดิ์สิทธิ์, และเป็นอินทรียภาพในพระเจ้าตรีเอกภาพ — อฟ.4:18;
2ปต.1:4; มธ.28:19.
(4) เนื่องจากคริสตจักรเป็นอินทรียภาพ ดังนั้นคริสตจักรจึงเติบโตได้ — อฟ.2:21.
2. เมื่อกล่าวถึงคริสตจักรในฐานะบ้านของพระเจ้า เปาโลก็กล่าวถึงพระเจ้าในฐานะที่เป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ — 1ตธ.3:15:
(1) พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ซึ่งอาศัยอยู่ในคริสตจักรนั้นต้องเป็นทัศนะภายในต่อคริสตจักร และไม่เพียงเป็นทัศนะภายนอกเท่านั้น — 1กธ.3:16.
(2) เนื่องจากพระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ คริสตจักรในฐานะบ้านของพระเจ้าจึงมีชีวิตอยู่ในพระองค์, โดยพระองค์, และร่วมกับพระองค์.
(3) พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์กับคริสตจักรที่มีชีวิตนั้นได้ร่วมดำเนินชีวิต, เคลื่อนไหว, และทำการงานด้วยกัน.
3. ในฐานะบ้านของพระเจ้า คริสตจักรเป็นที่ประทับของพระเจ้า — สถานที่ซึ่งพระเจ้าสามารถมีที่พักสงบและวางพระทัย — อฟ.2:22.
4. คริสตจักรในฐานะบ้านของพระเจ้า — บ้านของพระบิดา — เป็นการผสมรวมกันแห่งจักรวาลที่ขยายใหญ่ขึ้นของพระเจ้ากับมนุษย์ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของการที่พระคริสต์ได้รับสง่าราศีจากพระบิดาด้วยสง่าราศีอันศักดิ์สิทธิ์ — ยฮ.12:23; 13:31–32; 14:20.
IV. องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์ให้คริสตจักรของพระองค์รู้จักพระองค์ในฐานะที่เป็น
หลักความจริง อีกทั้งต้อนรับและรับสุขพระองค์ในฐานะที่เป็นชีวิต — 1ยฮ.1:1–2, 5–6; ยฮ.11:25; 14:6; 18:37ข:
1. “หลักความจริง” หมายถึง “ความเที่ยงแท้” โดยเล็งถึงสิ่งของที่แท้จริงทั้งหมด ซึ่งได้เปิดเผยอยู่ในพระคำของพระเจ้า ซึ่งโดยหลักแล้วก็คือพระคริสต์ผู้เป็นการแปรสภาพเป็นรูปธรรมของพระเจ้าและคริสตจักรซึ่งเป็นพระกายของพระคริสต์ — 1ตธ.2:4; กซ.2:9, 19.
2. คริสตจักรถูกก่อสร้างขึ้นด้วยชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในพระคริสต์ ซึ่งเป็นชีวิตที่ไม่อาจถูกทำลายและไม่อาจถูกพิชิตได้ อีกทั้งสามารถต้านทานต้นกำเนิดแห่งความเสื่อมถอยที่นำไปสู่ความตายทั้งหมด — 1ตธ.1:16; 6:12, 19; 2ตธ.1:1, 10; ตต.1:2, 3:7.
3. ทั้งหลักความจริงและชีวิตล้วนเป็นตัวของพระคริสต์เอง — ยฮ.14:6:
(1) ชีวิตเป็นองค์ประกอบทางภายใน ส่วนหลักความจริงเป็นคำจำกัดความและคำอธิบายทางภายนอก — 1:4; 18:37ข; 8:12, 32, 36; 17:17.
(2) ประสบการณ์ที่มีต่อพระคริสต์ในฐานะที่เป็นชีวิตนั้นถูกบรรจุอยู่ในองค์พระผู้เป็นเจ้าในฐานะที่เป็นหลักความจริง; หากจะมีประสบการณ์ต่อพระคริสต์ในฐานะที่เป็นชีวิต เราก็ต้องรู้จักหลักความจริง — 14:6; 11:25; 8:32, 36.
4. เนื้อหาของคริสตจักรควรจะเป็นการเติบโตของพระคริสต์ในเราในฐานะหลักความจริงและชีวิต — กซ.2:19; 3:4:
(1) หลักความจริงคือการส่องสว่าง, การสำแดงของความสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ — ยฮ.8:12, 32, 36; 1ยฮ.1:5–6.
(2) มาตรฐานของหลักความจริงควรจะถูกยกให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในท่ามกลางคริสตจักรทั้งหลายในการฟื้นฟูขององค์พระผู้เป็นเจ้า — 1ตธ.2:4; 3:15.
(3) เราต้องเติบโตในชีวิต, ได้รับความรอดในชีวิต, ถูกเติมเต็มด้วยชีวิต, และครอบครองในชีวิต — อฟ.4:13–16; รม.5:10, 17.
V. คริสตจักรเป็นเสาที่ค้ำจุนหลักความจริงและเป็นฐานรากที่พยุงหลักความจริง —
1ตธ.3:15:
1. หลักความจริงคือพระเจ้าตรีเอกภาพ โดยมีพระคริสต์เป็นการแปรสภาพเป็นรูปธรรม, ศูนย์กลาง, และการสำแดง เพื่อก่อกำเนิดคริสตจักรซึ่งเป็นพระกายของพระคริสต์, บ้านของพระเจ้า, และอาณาจักรของพระเจ้า — กซ.2:9; อฟ.1:22–23; 4:16; 1ตธ.3:15; ยฮ.3:3, 5.
2. “หลักความจริง” ใน 1ตธ.3:15 ชี้ถึงสิ่งแท้จริงทั้งหมดที่ได้เปิดเผยไว้ในพันธสัญญาใหม่เกี่ยวกับพระคริสต์และคริสตจักรตามแผนการบริหารแห่งพันธสัญญาใหม่ของพระเจ้า — มธ.16:16, 18; อฟ.5:32:
(1) คริสตจักรเป็นเสาที่ค้ำจุนและฐานรากที่พยุงความเที่ยงแท้ทั้งหมดนี้.
(2) คริสตจักรท้องถิ่นควรจะเป็นเหมือนสิ่งก่อสร้างเช่นนี้ที่พยุง, แบกรับ, และเป็นพยานถึงหลักความจริงหรือความเที่ยงแท้ของพระคริสต์และคริสตจักร — 2:22.
3. คริสตจักรแบกรับพระคริสต์ผู้เป็นความเที่ยงแท้; คริสตจักรเป็นพยานต่อทั้งจักรวาลว่าพระคริสต์ (มีเพียงพระคริสต์ผู้เดียวเท่านั้น) ทรงเป็นความเที่ยงแท้ — ยฮ.1:14, 17; 14:6.
4. ในฐานะเสาที่ค้ำชูหลักความจริงและฐานรากที่พยุงเสา คริสตจักรเป็นพยานถึงความเที่ยงแท้ (หลักความจริง) ที่ว่า พระคริสต์ทรงเป็นข้อลับลึกของพระเจ้าและคริสตจักรเป็นข้อลับลึกของพระคริสต์ — กซ.2:2; อฟ.3:4.
5. หากคริสตจักรจะมีการใช้งานในฐานะเสาและฐานรากของหลักความจริง เราทุกคนก็ต้องบรรลุถึงการรู้จักหลักความจริงอย่างครบถ้วน — 1ตธ.2:4; 4:3; 2ตธ.2:25; 3:7; ตต.1:1.
VI. เมื่อพี่น้องชายหญิงทุกคนล้วนเต็มไปด้วยชีวิตและหลักความจริง คริสตจักรก็จะเข้มแข็งเหมือนบ้านของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่และเสากับฐานรากของหลักความจริง; นี่คือสิ่งที่จำเป็นในการฟื้นฟูขององค์พระผู้เป็นเจ้าในวันนี้ — 1ตธ.3:15.