ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษาของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงขึ้นของวิทยฐานะชำนาญการ คือ ริเริ่ม พัฒนา การบริหารจัดการสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่องการพัฒนารูปแบบการส่งเสริมความสำเร็จของการพัฒนาผลงานทางวิชาการของครูด้วยการสนับสนุนขับเคลื่อนการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการจัดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างนักเรียนโรงเรียนเพ็ญพิทยาคมให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล
1. สภาพปัญหาของผู้เรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษา
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อทุกมิติของชีวิตมนุษย์ การศึกษาในปัจจุบันก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน การเรียนการสอนแบบดั้งเดิมเริ่มไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ทำให้เกิดความจำเป็นในการปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ทันสมัยและเหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน
หนึ่งภารกิจสำคัญของโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม คือ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาข้าราชการครูให้มีศักยภาพสูงขึ้น และสามารถจัดทำผลงานทางวิชาการที่สอดคล้องกับเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะ การเลื่อนวิทยฐานะของครูไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการส่งเสริมกำลังใจให้ครูพัฒนาตนเอง แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในชั้นเรียน อย่างไรก็ตามกระบวนการดังกล่าวยังคงเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญ สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา ปัญหาสำคัญที่พบคือ การขาดความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถช่วยลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดทำผลงานทางวิชาการ นอกจากนี้ภาระงานที่หลากหลายและเกณฑ์การประเมินที่ซับซ้อนยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาผลงานที่มีคุณภาพ ส่วนผู้เรียนก็ประสบปัญหาในเรื่องของความไม่สนใจในรูปแบบการเรียน
การสอนแบบเดิม และขาดทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ โรงเรียนยังเผชิญกับข้อจำกัดด้านทรัพยากรและการพัฒนาระบบสนับสนุน เช่น การขาดงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์และแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงการไม่มีระบบที่เหมาะสมในการช่วยเหลือครูและนักเรียน ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้การบูรณาการเทคโนโลยี AI และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลจึงเป็นแนวทางสำคัญที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
การนำ AI มาประยุกต์ใช้สามารถช่วยครูในหลายด้าน เช่น การออกแบบสื่อการสอนที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียน การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการสร้างผลงานวิชาการอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ครูเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ใหม่ๆ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับบุคลากรทางการศึกษาอื่น ๆ ได้
ดังนั้นการพัฒนาระบบสนับสนุนโดยเน้นการใช้ AI และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลจึงเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนเพ็ญพิทยาคมได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในระดับนักเรียน ครู และโรงเรียน รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้ครูพัฒนาตนเองเพื่อสร้างผลงานที่ตอบสนองเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาผลงานทางวิชาการของครูด้วยการใช้ AI และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการเลื่อนวิทยฐานะครูโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม มีวิธีดำเนินการดังต่อไปนี้
1. การวางแผนและเตรียมความพร้อม
1.1 การวิเคราะห์ความต้องการ (Needs Assessment) ดำเนินการสำรวจและวิเคราะห์ปัญหาของครูในด้านการพัฒนาผลงานทางวิชาการ ความถนัดด้านเทคโนโลยี และข้อจำกัดที่เผชิญ เพื่อกำหนดแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสม
1.2 การจัดหาเครื่องมือและทรัพยากร จัดหาอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโปรแกรม AI ที่สามารถช่วยงานครู รวมถึงเลือกแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการของครู เช่น Learning Management System (LMS) หรือแหล่งเรียนรู้ออนไลน์
2. การพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากร
2.1 การจัดอบรมและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี จัดหลักสูตรอบรมให้ครูเรียนรู้การใช้ AI เช่น การสร้างสื่อการสอน การวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียน และการจัดทำผลงานทางวิชาการ ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น การอับโหลดเนื้อหา การออกแบบบทเรียนออนไลน์ และการประเมินผลผ่านระบบ
2.2 การสร้างชุมชนการเรียนรู้ระดับครู (Professional Learning Community) ส่งเสริมให้ครูแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการใช้ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลในงานวิชาการ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างครูในโรงเรียนและเครือข่ายภายนอก
2.3 การให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล (Mentoring) จัดผู้เชี่ยวชาญหรือครูที่มีประสบการณ์มาช่วยให้คำแนะนำในการใช้ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลในกระบวนการพัฒนาผลงาน
3. การบูรณาการ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลกับงานวิชาการ
3.1 การใช้ AI ในการพัฒนาผลงานวิชาการ นำ AI มาใช้ในการช่วยวิเคราะห์และสรุปข้อมูลที่ซับซ้อน หรือใช้ AI ในการออกแบบสื่อการสอนที่สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของผู้เรียน
3.2 การสร้างบทเรียนผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ส่งเสริมให้ครูออกแบบบทเรียนเชิงโต้ตอบที่ใช้งานได้จริงบนแพลตฟอร์ม สนับสนุนการใช้ระบบ LMS ในการติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนและประเมินผลการเรียน
3.3 การสร้างฐานข้อมูลดิจิทัล จัดทำคลังผลงานทางวิชาการแบบดิจิทัล เพื่อให้ครูสามารถใช้เป็นตัวอย่างหรือแหล่งอ้างอิงสำหรับการพัฒนาผลงานในอนาคต
4. การติดตามและประเมินผล
4.1 การประเมินความก้าวหน้า ติดตามและประเมินผลการพัฒนาศักยภาพของครูในด้านการใช้เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการสำรวจความคิดเห็น บันทึกผลการอบรม และการวิเคราะห์ตัวอย่างผลงาน
4.2 การปรับปรุงและพัฒนา ใช้ข้อมูลจากการประเมินเพื่อปรับปรุงแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และแก้ไขข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการ
4.3 การสร้างรางวัลและแรงจูงใจ กำหนดรางวัลหรือเกียรติบัตรสำหรับครูที่มีความก้าวหน้าหรือสร้างผลงานโดดเด่น เพื่อสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
5. การสร้างความยั่งยืน
5.1 การพัฒนาระบบสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จัดตั้งทีมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในโรงเรียน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและสนับสนุนการใช้งานในระยะยาว
5.2 การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เช่น มหาวิทยาลัย บริษัทเทคโนโลยี หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมศักยภาพของโรงเรียนในด้านเทคโนโลยีและการศึกษา
ด้วยวิธีการดำเนินการเหล่านี้ โรงเรียนเพ็ญพิทยาคมจะสามารถยกระดับการพัฒนาผลงานทางวิชาการของครูให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองต่อเป้าหมายการศึกษาในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
1. จำนวนครูที่ผ่านการอบรมด้านการใช้ AI และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลเพิ่มขึ้น
ไม่น้อยกว่า 90% ของครูทั้งหมดในโรงเรียน
2. ครูที่สามารถจัดทำผลงานทางวิชาการตามเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะสำเร็จเพิ่มขึ้น
ไม่น้อยกว่า 20% ภายในปีงบประมาณ 2568
3. จำนวนสื่อการเรียนการสอนเชิงดิจิทัลที่ผลิตโดยครูเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 ชิ้นต่อปี
4. อัตราการมีส่วนร่วมของนักเรียนในกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลสูงขึ้นอย่างน้อย 50% จากปีที่ผ่านมา
5. การจัดเก็บผลงานทางวิชาการในระบบคลังข้อมูลดิจิทัลสำเร็จ 100% เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงและพัฒนาในอนาคต
3.2 เชิงคุณภาพ
1. ครูมีความมั่นใจและความเชี่ยวชาญในการใช้ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลในการพัฒนาผลงานทางวิชาการและการเรียนการสอน
2. คุณภาพของผลงานทางวิชาการที่ครูจัดทำมีความสมบูรณ์ ตรงตามเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ และมีนวัตกรรมที่สร้างคุณค่าให้กับการเรียนการสอน
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น โดยสะท้อนผ่านคะแนนเฉลี่ยรายวิชาและการประเมินทักษะด้านเทคโนโลยี
4. สถานศึกษามีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา พร้อมทั้งเป็นต้นแบบในการบูรณาการ AI กับการพัฒนาครู
5. เกิดวัฒนธรรมการเรียนรู้แบบดิจิทัลในโรงเรียน โดยครูและนักเรียนสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง