1.1 การวางแผนพัฒนามาตรฐานการเรียนรู้ของผู้เรียน
1.2 การจัดทําและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
1.3 การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน เป็นสําคัญและปฏิบัติการสอน
1.4 การส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาหรือการนําสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษามาใช้ในการจัดการเรียนรู้
1.5 การนิเทศ กํากับ ติดตาม ประเมินผลการจัด การเรียนรู้ของครูในสถานศึกษา และมีการประกัน คุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
1.6 การศึกษา วิเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา การจัดการเรียนรู้ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ของสถานศึกษา
2.1 การบริหารจัดการสถานศึกษาให้เป็นไปตาม กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ นโยบาย และตามหลัก บริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
2.2 การบริหารกิจการผู้เรียนและการส่งเสริมพัฒนาผู้เรียน
2.3 การจัดระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
3.1 การกําหนดนโยบาย กลยุทธ์ การใช้เครื่องมือ หรือนวัตกรรมทางการบริหาร
3.2 การบริหารการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม ในสถานศึกษาเพื่อพัฒนาสถานศึกษา
4.1 การสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อพัฒนาการเรียนรู้
4.2 การจัดระบบการให้บริการในสถานศึกษา
5.1 การพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
5.2 การนําความรู้ ทักษะ ที่ได้จากการพัฒนาตนเอง และวิชาชีพมาใช้ในการ พัฒนาการบริหารจัดการสถานศึกษา ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ครู และสถานศึกษา
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อทุกมิติของชีวิตมนุษย์ การศึกษาในปัจจุบันก็ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน การเรียนการสอนแบบดั้งเดิมเริ่มไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ทำให้เกิดความจำเป็นในการปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ทันสมัยและเหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน
หนึ่งภารกิจสำคัญของโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม คือ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาข้าราชการครูให้มีศักยภาพสูงขึ้น และสามารถจัดทำผลงานทางวิชาการที่สอดคล้องกับเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะ การเลื่อนวิทยฐานะของครูไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการส่งเสริมกำลังใจให้ครูพัฒนาตนเอง แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในชั้นเรียน อย่างไรก็ตามกระบวนการดังกล่าวยังคงเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญ สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา ปัญหาสำคัญที่พบคือ การขาดความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถช่วยลดภาระงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดทำผลงานทางวิชาการ นอกจากนี้ภาระงานที่หลากหลายและเกณฑ์การประเมินที่ซับซ้อนยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาผลงานที่มีคุณภาพ ส่วนผู้เรียนก็ประสบปัญหาในเรื่องของความไม่สนใจในรูปแบบการเรียน
การสอนแบบเดิม และขาดทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ โรงเรียนยังเผชิญกับข้อจำกัดด้านทรัพยากรและการพัฒนาระบบสนับสนุน เช่น การขาดงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์และแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงการไม่มีระบบที่เหมาะสมในการช่วยเหลือครูและนักเรียน ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้การบูรณาการเทคโนโลยี AI และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลจึงเป็นแนวทางสำคัญที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
การนำ AI มาประยุกต์ใช้สามารถช่วยครูในหลายด้าน เช่น การออกแบบสื่อการสอนที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียน การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการสร้างผลงานวิชาการอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ครูเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ใหม่ๆ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับบุคลากรทางการศึกษาอื่น ๆ ได้
ดังนั้นการพัฒนาระบบสนับสนุนโดยเน้นการใช้ AI และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลจึงเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนเพ็ญพิทยาคมได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในระดับนักเรียน ครู และโรงเรียน รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้ครูพัฒนาตนเองเพื่อสร้างผลงานที่ตอบสนองเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาผลงานทางวิชาการของครูด้วยการใช้ AI และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการเลื่อนวิทยฐานะครูโรงเรียนเพ็ญพิทยาคม มีวิธีดำเนินการดังต่อไปนี้
1. การวางแผนและเตรียมความพร้อม
1.1 การวิเคราะห์ความต้องการ (Needs Assessment) ดำเนินการสำรวจและวิเคราะห์ปัญหาของครูในด้านการพัฒนาผลงานทางวิชาการ ความถนัดด้านเทคโนโลยี และข้อจำกัดที่เผชิญ เพื่อกำหนดแนวทางสนับสนุนที่เหมาะสม
1.2 การจัดหาเครื่องมือและทรัพยากร จัดหาอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโปรแกรม AI ที่สามารถช่วยงานครู รวมถึงเลือกแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลที่ตอบสนองความต้องการของครู เช่น Learning Management System (LMS) หรือแหล่งเรียนรู้ออนไลน์
2. การพัฒนาศักยภาพของครูและบุคลากร
2.1 การจัดอบรมและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี จัดหลักสูตรอบรมให้ครูเรียนรู้การใช้ AI เช่น การสร้างสื่อการสอน การวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียน และการจัดทำผลงานทางวิชาการ ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น การอับโหลดเนื้อหา การออกแบบบทเรียนออนไลน์ และการประเมินผลผ่านระบบ
2.2 การสร้างชุมชนการเรียนรู้ระดับครู (Professional Learning Community) ส่งเสริมให้ครูแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการใช้ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลในงานวิชาการ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างครูในโรงเรียนและเครือข่ายภายนอก
2.3 การให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล (Mentoring) จัดผู้เชี่ยวชาญหรือครูที่มีประสบการณ์มาช่วยให้คำแนะนำในการใช้ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลในกระบวนการพัฒนาผลงาน
3. การบูรณาการ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลกับงานวิชาการ
3.1 การใช้ AI ในการพัฒนาผลงานวิชาการ นำ AI มาใช้ในการช่วยวิเคราะห์และสรุปข้อมูลที่ซับซ้อน หรือใช้ AI ในการออกแบบสื่อการสอนที่สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของผู้เรียน
3.2 การสร้างบทเรียนผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ส่งเสริมให้ครูออกแบบบทเรียนเชิงโต้ตอบที่ใช้งานได้จริงบนแพลตฟอร์ม สนับสนุนการใช้ระบบ LMS ในการติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนและประเมินผลการเรียน
3.3 การสร้างฐานข้อมูลดิจิทัล จัดทำคลังผลงานทางวิชาการแบบดิจิทัล เพื่อให้ครูสามารถใช้เป็นตัวอย่างหรือแหล่งอ้างอิงสำหรับการพัฒนาผลงานในอนาคต
4. การติดตามและประเมินผล
4.1 การประเมินความก้าวหน้า ติดตามและประเมินผลการพัฒนาศักยภาพของครูในด้านการใช้เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการสำรวจความคิดเห็น บันทึกผลการอบรม และการวิเคราะห์ตัวอย่างผลงาน
4.2 การปรับปรุงและพัฒนา ใช้ข้อมูลจากการประเมินเพื่อปรับปรุงแผนการดำเนินงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และแก้ไขข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการ
4.3 การสร้างรางวัลและแรงจูงใจ กำหนดรางวัลหรือเกียรติบัตรสำหรับครูที่มีความก้าวหน้าหรือสร้างผลงานโดดเด่น เพื่อสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
5. การสร้างความยั่งยืน
5.1 การพัฒนาระบบสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จัดตั้งทีมสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในโรงเรียน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและสนับสนุนการใช้งานในระยะยาว
5.2 การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เช่น มหาวิทยาลัย บริษัทเทคโนโลยี หรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมศักยภาพของโรงเรียนในด้านเทคโนโลยีและการศึกษา
ด้วยวิธีการดำเนินการเหล่านี้ โรงเรียนเพ็ญพิทยาคมจะสามารถยกระดับการพัฒนาผลงานทางวิชาการของครูให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองต่อเป้าหมายการศึกษาในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
3.1 เชิงปริมาณ
1. จำนวนครูที่ผ่านการอบรมด้านการใช้ AI และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลเพิ่มขึ้น
ไม่น้อยกว่า 90% ของครูทั้งหมดในโรงเรียน
2. ครูที่สามารถจัดทำผลงานทางวิชาการตามเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะสำเร็จเพิ่มขึ้น
ไม่น้อยกว่า 20% ภายในปีงบประมาณ 2568
3. จำนวนสื่อการเรียนการสอนเชิงดิจิทัลที่ผลิตโดยครูเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 ชิ้นต่อปี
4. อัตราการมีส่วนร่วมของนักเรียนในกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลสูงขึ้นอย่างน้อย 50% จากปีที่ผ่านมา
5. การจัดเก็บผลงานทางวิชาการในระบบคลังข้อมูลดิจิทัลสำเร็จ 100% เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงและพัฒนาในอนาคต
3.2 เชิงคุณภาพ
1. ครูมีความมั่นใจและความเชี่ยวชาญในการใช้ AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลในการพัฒนาผลงานทางวิชาการและการเรียนการสอน
2. คุณภาพของผลงานทางวิชาการที่ครูจัดทำมีความสมบูรณ์ ตรงตามเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ และมีนวัตกรรมที่สร้างคุณค่าให้กับการเรียนการสอน
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น โดยสะท้อนผ่านคะแนนเฉลี่ยรายวิชาและการประเมินทักษะด้านเทคโนโลยี
4. สถานศึกษามีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นในด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา พร้อมทั้งเป็นต้นแบบในการบูรณาการ AI กับการพัฒนาครู
5. เกิดวัฒนธรรมการเรียนรู้แบบดิจิทัลในโรงเรียน โดยครูและนักเรียนสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง