กระบอกสูบทำงานทางเดียว จะป้อนลมอัดเข้าทางด้านลูกสูบและดันให้ก้านสูบเคลื่อนที่ออก เมื่อปล่อยลมทิ้งด้านลูกสูบ จะทำให้ลูกสูบเคลื่อนที่กลับเองด้วยแรงสปริงที่อยู่ภายในกระบอกสูบ หรือถ้าไม่มีสปริง จะต้องใช้แรงภายนอกมากระทำที่ก้านสูบ ลูกสูบจึงเคลื่อนที่กลับ โดยทั่วไประยะชักของกระบอกสูบประเภทนี้จะยาวสุดระหว่าง 80-100mm ลักษณะการใช้งานคือจะนำไปใช้ดันหรือดึงเพียงทิศทางเดียวเท่านั้น
กระบอกสูบ (Cylinder Barrel)
ลูกสูบ (Piston)
ก้านสูบ (Piston Rod)
สปริงดันกลับ (Return Spring)
ซีล (Seal)
บูซก้านสูบ (Bush Bearing)
รูจ่ายลม (Working Port)
รูระบายลม (Exhaust Port)
Symbol
จังหวะการเคลื่อนที่ออก
ก้านสูบเคลื่อนที่ออกได้โดยแรงดันของลมที่เข้าไปดันหัวลูกสูบ โดยจะต้องเอาชนะแรงต้านของสปริงและความฝืดภายในกระบอกสูบ
จังหวะการเคลื่อนที่เข้า
ก้านสูบเคลื่อนที่กลับด้วยแรงสปริง
ใช้กับงานที่ออกแรงทำงานในทิศทางเดียว และในจังหวะกลับไม่ควรจะรับแรงใดๆ รวมถึงงานที่มีระยะชักสั้นๆ ตัวอย่างเช่น งานจับยึดชิ้นงาน งานยกของ งานป้อนทิศทางเดียว
จะสังเกตเห็นรูป้อนลมเพียง 1 รู
เมื่อดึงก้านสูบออก หรือดันเข้าแล้วปล่อยมือ ลูกสูบจะเคลื่อนที่กลับด้วยสปริง
มีระยะชักสั้นๆไม่เกิน 100 mm.