ยาที่ใช้รักษาอาการของโรคลัมปีสกิน
ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนใช้ยาทุกครั้ง ยาทุกตัวมีผลข้างเคียง
#ทำความเข้าใจเรื่องโรคและแนวทางการรักษา
โรคลัมปี-สกิน ในโคกระบือ
—-
-การรักษาลัมปีที่ดี คือการรักษาลัมปีที่เจอไวและตามอาการบ่อยๆ-
…เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาตามกลุ่มต่างๆค่อนข้างมีหลากหลายประเด็นเกี่ยวกับโรคลัมปีสกิน…วัวยิ้มแย้มเลยอยากจะทบทวนอีกสักครั้ง…เพื่อความสดใสของมิตรรักแฟนเพจทุกท่าน
1.โรคลัมปิสกินเกิดจากเชื้อไวรัส… #ไม่มียารักษาเฉพาะเหมือนในโควิด(ยาฟาวิพิราเวียร์) หรือโรคHIV ที่จะมียาต้านไวรัสโดยตรง
.
2.ยาที่ใช้ๆกันตอนนี้จะเป็นยาที่ใช้เพื่อ “บรรเทาหรือรักษา” #อาการ ที่เกิดขึ้นจากการที่ไวรัสกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อสู้กัน หรืออาการจำเพาะของไวรัสตัวนี้
.
3.อาการที่พบชัดๆคือ #ตุ่มนูนตามตัว ขนาดตั้งแต่เหรียญ50สตางค์ยันเหรียญสิบบาท ขึ้นจำนวนน้อยหรือมาก ขึ้นอยู่กับเจอเร็วหรือช้า รุนแรงแค่ไหน
.
4.สงสัยตัวไหนลองวัดไข้ดู #ไข้มักสูงมากกว่า40องศาเซลเซียส (มากกว่า 104 องศาฟาเรนไฮต์)
.
5.เชื้อตัวนี้หลักๆจะติดผ่าน #แมลงดูดเลือด ดูดเลือดตัวป่วยแล้วไปดูดตัวไม่ป่วย หรือไปดูดฟาร์มอื่นๆต่อ
.
6.เชื้อจะเข้าไปในร่างกายไปกับ #เม็ดเลือดขาว ไม่ได้ไปกับพยาธินะจ๊ะ แล้วไปที่ที่มันชอบเช่นเนื้อเยื่อผิวหนัง บลาๆ ดังนั้นหากถ่ายพยาธิจะช่วยให้วัวแข็งแรงขึ้น แต่อาจไม่เกี่ยวกับเชื้อนะ
.
7.เรื่อง #การเคลื่อนย้าย วัวที่ได้รับเชื้อ กว่าจะแสดงอาการ สามารถใช้เวลาเร็วได้ตั้งแต่ 4 วัน ยัน 5 สัปดาห์ ดังนั้นเรามิอาจใช้ #จรรยาบรรณพ่อค้า เพื่อ…ดูความผิดปกติของวัวก่อนเคลื่อนย้ายสัตว์ได้ นอกเสียจากจะเอาไปไว้บ้านและนอนในมุ้งสักเดือนก่อน ถ้าไม่ป่วยค่อยส่ง(อาจติดใหม่บนรถด้วยก็ได้นะ) หรือแมลงมันไปกะคนหรือรถได้ด้วย
.
8.เรื่อง #การรักษา หากเจอไว ตุ่มเล็กน้อย(ยังไม่แข็ง) และมีไข้ แนะนำให้ใช้ยา “ลดอักเสบ” (ซึ่งเรามักจะเข้าใจผิดว่าคือ “ยาปฏิชีวนะ”) ใช้เพื่อช่วยร่างกายในการลดไข้ และลดการอักเสบของตุ่มที่ขึ้นมา ไม่ให้มันมากเกินไป โดยต้องตามดูอาการ วัวส่วนใหญ่จะเหมือนปกติเลย วัดไข้บ่อยๆ ตามยาให้ครบ
.
9.หากวัวแสดงอาการที่ยังกินได้ ร่าเริง สดใส (แต่มีตุ่ม) ก็ #อาจไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ หรือยาอื่นๆ (แล้วแต่การพิจารณาของสัตวแพทย์ที่ดูแลแต่ละเคสนะจ๊ะ)
.
10.จะให้ยาปฏิชีวนะก็ต่อเมื่อโคดูป่วยซึม หายใจเสียงดัง หรือ ตุ่มเริ่มแตก ยาปฏิชีวนะจะไปช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจฉวยโอกาสเข้ามา และต้องให้ปริมาณยาตามน้ำหนัก ซึ่ง #ยาชุด ที่เห็นขายน่าจะโดสไม่ถึง ฉีดไปจะดื้อเปล่าๆ
.
11.ยา #แก้แพ้ ส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็น ถ้าไม่มีหรือหาไม่ได้ก็ไม่ต้องพยายามก็ได้ แต่หากอยากฉีดก็ตามสะดวก
.
12.หากตุ่มเต็มตัว แตกออก ให้ #ทำใจว่านานแน่ๆ (อย่างน้อย 1 เดือน)รักษาแบบประคับประคองไปไม่ให้แผลมีหนอน หรือติดเชื้อ แต่ถ้าวัวยังกินได้ปกติ หายใจปกติ ก็ยังพอสบายใจ เดี๋ยวก็ดีขึ้น
.
13.ถ้ามีวัวในฟาร์มเป็นบางตัว แนะนำ #พ่นยากำจัดแมลงดูดเลือดอย่างต่อเนื่องเลย เพราะความสำคัญคือลดพาหะให้ได้มากที่สุด
.
14.การป้องกันที่ดีที่สุดคือ #วัคซีน..เพราะถ้าวัวมีภูมิแมลงมายังไงก็ต้านไหว…และสำหรับใครที่อยากใช้โดยไว…ไปหามาในทางลับ…ต้องระวังเรื่องคุณภาพในการขนส่งมาด้วยอุณหภูมิ แสงแดด บลาๆ ไม่งั้นพอฉีดเสร็จอาจได้แค่ความสบายใจแต่ไม่ได้ภูมิคุ้มกัน
15.อย่าท้อ โรคเกิดในฟาร์มได้ แต่ก็ #รักษาหายได้ ลดความรุนแรงได้ ขึ้นกับว่าเราใส่ใจแค่ไหน “พบเร็วตอนที่ยังไม่หนัก รักษาได้ไว ไม่ทรุด ไม่เสียหายมากแน่นอน”
——-
ปล.ในภาพเขียนเป็นชื่อการค้าหรือชื่อตัวยาปนๆกันไปเพื่อให้ง่ายที่จะเรียนรู้นะจ๊ะ
ขอบคุณเพจ "วัวยิ้มแย้ม".......
.......................การรักษาไม่มีสูตรสำเร็จ ให้ดูอาการสัตว์แต่ละตัว ทางที่ดีที่สุด ต้องปรึกษาสัตวแพทย์ ............