พบสัตว์ป่วยสงสัยต้องทำอย่างไร....

สำคัญ ! แจ้งหน่วยงานกรมปศุสัตว์ในพื้นที่...

• คัดแยกตัวป่วย

• งดการซื้อ-ขาย เข้า-ออก โค ทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่

• กำจัดพาหะ แมลงดูดเลือด

• มั่นทำความสะอาดคอก เก็บขี้ เพื่อจำนวนลดแมลงพาหะ

• เน้นการป้องกันโรค ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity)

รอยโรคและอาการ

• ความรุนแรงของอาการ ขนาด และจำนวนของก้อน nodule แตกต่างกันออกไปตั้งแต่แสดงอาการเล็กน้อย (inapparent) แบบรุนแรงน้อย (mild) และแบบรุนแรงมาก (severe) ร่วมถึงพวกที่ไม่แสดงอาการ (subclinical) (OIE, 2017)

• อาการที่พบได้คือ

  • • • น้ำตาไหลมากกว่าปกติ (lachrymation)

      • มีน้ำมูก (nasal discharge)

      • ต่อมน้ำเหลืองบวมโต (lymph node enlargement) มักเป็นต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ตื้น (superficial lymphnode) เช่น บริเวณหัวไหล่(Prescapular lymphnode) บริเวณหัวเข่าขาหลัง(Prefemoral lymphnode) เป็นต้น

      • มีไข้สูง (fever) 39 – 40.6 °C ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรกของการติดเชื้อ บางตัวหากมีตุ่มจำนวนมาก อาจมีไข้สูงนานถึง สัปดาห์ที่ 3 ได้

      • น้ำนมลดอย่างทันที (shape drop in milk yield)

      • อาการที่เด่นชัดที่สุดคือพบก้อนที่ผิวหนัง (nodular skin) ขนาดตั้งแต่ 10-50 มิลลิเมตร จำนวนของ nodule ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค

• ตำแหน่งที่พบได้บ่อยได้แก่ ผิวหนังบริเวณคอ หัว ฝีเย็บ อวัยวะเพศ เต้านมและขา

• ลักษณะของก้อนที่ผิวหนังประกอบด้วยเนื้อเยื่อจากชั้นผิวหนัง ชั้นใต้ผิวหนัง และบางกรณีลึกลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ ตรงกลางก้อนมักพบเนื้อตาย เกิดแผลหลุม และสะเก็ดแผล

• กรณีติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนอาจพบภาวะปอดอักเสบ (pneumonia) และภาวะเจ็บขา (lameness) ตามมาได้ (Tuppurainen et al, 2017) จากการศึกษาของ Ahmed et al. (2020)

แนวทางการรักษาโรค [ปรึกษานายสัตวแพทย์]