ช่องทางหลักของการติดเชื้อคือการมีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะนำโรค ได้แก่ เห็บ แมลงวันดูดเลือด(แมลงวันคอก) ยุง เป็นต้น ซึ่งแมลงพาหะเหล่านี้มีบทบาทเป็นลักษณะพาหะเชิงกล (Mechanical Vector) โดยการถ่ายทอด เชื้อที่ติดอยู่ที่ส่วนปากให้กับโคกระบือในบริเวณเดียวกัน โดยจากการศึกษาเพิ่มเติมพบว่าเชื้อไวรัส สามารถมีความคงทนในแมลงบางชนิดได้นานโดยไม่มีการแบ่งตัวเพิ่ม
นอกจากงดการเคลื่อนย้ายโคแล้ว การควบคุมและกำจัดแมลงดูดเลือด เป็นวิธีการที่เกษตรกรสามารถเริ่มทำเพื่อ ป้องกัน ก่อนที่โรคจะมาถึงฟาร์มของตนเอง
การควบคุมและกำจัดแมลงที่ตัวสัตว์
ให้ยาถ่ายพยาธิภายนอก กำจัดเห็บ แบบฉีด เช่น Ivermectin , Moxidectin , Selamectin , เป็นต้น
หรือ ยาราดหลัง ที่กำจัดเห็บ ยุง เหา หมัด เช่น Flumethrin (Bayticol® ) *** ราด/พ่น บนตัวสัตว์ อย่างสม่ำเสมอ ทุก 14 วัน หรือ ทุกสัปดาห์ ความถี่ขึ้นกับความชุกชุมของแมลงดูดเลือด (ตัวยาออกฤทธิ์นาน 14 วัน)
แมลงดูดเลือด มักมีพฤติกรรมออกหากิน ช่วงพลบค่ำและช่วงเช้ามืด หากเป็นยุงจะออกหากินช่วงเวลากลางคืน
การควบคุมและกำจัดแมลงที่คอกสัตว์
การลงมุ้งรอบโรงเรือนป้องกันแมลงดูดเลือด ต้องระวังการระบายความร้อนในคอก ต้องเปิดระบายอากาศ ช่วงที่แมลงไม่ออกหากิน หรือช่วงที่มีแดด
มุ้งที่สามารถใช้ได้ทั่วไป มุ้งสีน้ำเงิน ขนาด 20 ตาต่อตารางนิ้ว สามารถกัน ยุง แมลงวันคอก เหลือบ ได้ แต่ไม่สามารถกันแมลงดูดเลือดพวก ริ้น ที่มาขนาดเล็กมาก หากพื้นที่ไหน พบแมลงดูดเลือด จำพวกริ้น แนะนำใช้มุ้งขนาด 32 ตาต่อตารางนิ้วแทน
พ่นยากำจัดแมลง Cypermethrin ที่มุ้งทุกเย็น และเก็บกวาดขี้ออกจากคอกทุกวันเพื่อลดจำนวนแมลง
คุมแมลงอย่างดีแล้ว ต้องงดการเคลื่อนย้าย นำสัตว์ใหม่เข้าฟาร์ม
"ราคาของการป้องกันถูกกว่าราคาของการรักษาและสูญเสีย"