ช่องทางหลักของการติดเชื้อคือการมีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะนำโรค ได้แก่ เห็บ แมลงวันดูดเลือด ยุง เป็นต้น ซึ่งแมลงพาหะเหล่านี้มีบทบาทเป็นลักษณะพาหะเชิงกล (Mechanical Vector) โดยการถ่ายทอด เชื้อที่ติดอยู่ที่ส่วนปากให้กับโคกระบือในบริเวณเดียวกัน โดยจากการศึกษาเพิ่มเติมพบว่าเชื้อไวรัส สามารถมีความคงทนในแมลงบางชนิดได้นานโดยไม่มีการแบ่งตัวเพิ่ม ดังนี้
o ยุง เช่น Aedes Aegypti เป็นต้น ประมาณอย่างน้อย 6 - 8 วัน (Chihota et al., 2001, SanzBernardo et al., 2020 และ Carn & Kitching, 1995)
o Culex quinquefasciatus (ยุงรำคาญ), Culicoides nubeculosus (ริ้น) ประมาณ 8 วัน (Sanz-Bernardo et al., 2020)
o Stomoxys calcitrans (แมลงวันคอก) ประมาณ 6 ชั่วโมง (Issimov et al., 2020) นอกจากนี้ ยังสามารถพบเชื้อไวรัสในกรณีที่แมลงสำรอกหรืออุจจาระออกมาได้ประมาณ 3 วันภายหลัง แมลงได้รับเชื้อ (Paslaru et al., 2021)
o เห็บแข็ง (Ixodid ticks) Rhipicephalus appendiculatus และ Amblyomma hebraeum สามารถพบ DNA ของไวรัสประมาณ 9 – 14 หลังจากได้รับเชื้อ แต่ยังไม่พบหลักฐานว่าสามารถ แยกเชื้อเป็นได้จากเห็บแข็งเหล่านี้(Tuppurainen et al., 2011)
สามารถพบไวรัสในน้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ได้แต่การติดต่อผ่านทางน้ำเชื้อก็ยังไม่มีรายงานของการเกิดโรค
ยังไม่สามารถบอกได้ว่าการติดโรคผ่านทางอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ หรืออาหารและน้ำดื่มที่ปนเปื้อน น้ำลายของสัตว์ป่วยเกิดขึ้นได้หรือไม่
สัตว์สามารถติดเชื้อจากการทดลองโดยใช้สิ่งคัดหลั่งจากตุ่มที่เกิดขึ้นที่ผิวหนัง หรือจากเลือดได้
การติดต่อผ่านการสัมผัสสัตว์ป่วยโดยตรงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้แต่ไม่ใช่ช่องทางการติดต่อหลัก
ที่มา: FAO&EuFMD
ตุ่มที่บริเวณผิวหนังที่เกิดขึ้นจากสัตว์เป็นโรค สะเก็ดแผล สะเก็ดผิวหนัง ซึ่งจะมีปริมาณเชื้อไวรัส LSDV ในปริมาณที่ค่อนข้างมาก สามารถพบเชื้อไวรัสจากส่วนนี้ได้ถึง 38 วันหลังการติดเชื้อและอาจจะพบได้ ยาวนานกว่านี้
สามารถพบเชื้อไวรัสได้ในเลือด น้ำลาย สิ่งคัดหลั่งจากตาและจมูก และน้ำเชื้อ •สำหรับเชื้อไวรัสในน้ำมูกและน้ำลายนั้น พบว่ามีปริมาณค่อนข้างน้อย โดยสามารถพบเชื้อได้ในระยะเวลา ระหว่าง 12 – 18 วันภายหลังการติดเชื้อ ซึ่งจากการทดลองพบว่าการติดเชื้อจากน้ำมูกและน้ำลาย สามารถก่อโรคได้แบบไม่รุนแรง (Babiuk et al., 2008)6
พบเชื้อไวรัสในเลือดสัตว์ที่ติดเชื้อได้ในบางช่วง โดยเฉลี่ยจะพบได้ประมาณ 7-21 วันหลังติดเชื้อ แต่ อย่างไรก็ตามจะพบเชื้อไวรัสได้ในปริมาณที่น้อยกว่าจากตุ่มที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง
พ่อพันธุ์สามารถขับเชื้อไวรัสผ่านทางน้ำเชื้อได้เป็นระยะเวลานาน สัตว์สามารถขับไวรัสในน้ำเชื้อประมาณ 42 วันหลังจากติดเชื้อ โดยมีการศึกษาพบว่าวัคซีนชนิด Homologous vaccine สามารถช่วยป้องกันการ ขับเชื้อผ่านทางน้ำเชื้อได้(Annandale et al., 2013)
มีรายงานการเกิดโรคพบการติดต่อผ่านทางรก โดยหากพบการติดเชื้อในแม่ช่วงปลายของการตั้งท้อง (ประมาณ 7 เดือน) จะทำให้เกิดภาวะ Viremia ในแม่สัตว์จนมีโอกาสทำให้ลูกสัตว์ที่เกิดมามีรอยโรคลัมปี สกินตามวัยวะต่างๆ และมีความอ่อนแอ จนอาจตายในที่สุด (Rouby et al., 2016)
สัตว์ที่หายจากโรคแล้วไม่พบว่าเป็น Carrier ได้ แต่สัตว์ที่ไม่แสดงอาการ (ประมาณ 50% ของสัตว์ที่ติด เชื้อ) ยังสามารถแพร่เชื้อได้เช่นเดียวกับสัตว์ที่แสดงอาการป่วย