มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้
ง 3.1 เข้าใจ เห็นคุณค่า และใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลการเรียนรู้
การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทำงาน และอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล มีคุณธรรม
ตัวชี้วัด
ม.2/3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
สาระสำคัญ
อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายมากมายหลากหลายเครือข่ายทั่วโลกเข้าด้วยกัน อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลในทุกๆด้าน นักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพื่อมาประกอบการเรียนรู้ หรือใช้งานอินเทอร์เน็ตด้านต่างๆได้ ดังนั้นนักเรียนจะต้องรู้จักความหมาย ประวัติความเป็นมาของอินเทอร์เน็ตว่ามีพัฒนาการการความเป็นมาอย่างไร และรู้จักความสำคัญของอินเทอร์เน็ตในด้านต่างๆ
จุดประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้
1) บอกความหมายอินเตอร์เน็ตได้
2) อธิบายความสำคัญของอินเทอร์เน็ตด้านต่างๆได้
3) อธิบายพัฒนาการของอินเทอร์เน็ตได้
สาระการเรียนรู้
1) ความหมายอินเทอร์เน็ต
2) ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
3) พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
บทที่ 1 ความหมายพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
ความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อประโยชน์ในด้านการเรียน การทำงาน การติดต่อสื่อสาร และความบันเทิง เพราะเป็นแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และมีซอฟต์แวร์ ต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ใช้งานมากมาย การศึกษาความหมายและพัฒนาการของอินเทอร์เน็ตจะช่วยให้รู้จักและเข้าใจอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
ภาพที่ 1 ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต
ที่มาภาพ: http://daily.bangkokbiznews.com/detail/192252
ความหมายของอินเทอร์เน็ต
จิราพร งามสมบัติ (2543). กล่าวว่า อินเทอร์เน็ต(Internet) เป็นระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยง เครือข่ายมากมายหลากหลายเครือข่ายทั่วโลกเข้าด้วยกัน อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งข้อมูล ขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลในทุกๆด้าน ให้ผู้ที่สนใจค้นคว้าหามาใช้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย
วิเชียร พุ่มพวง (2556). กล่าวว่า อินเทอร์เน็ต คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันเป็นจำนวนมาก ครอบคลุมไปทั่วโลกโดยอาศัยโครงสร้างระบบสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล มีการประยุกต์ใช้งานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายย่อยเป็นจำนวนมากต่อเชื่อมเข้าด้วยกัน ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เป็นเครือข่ายสาธารณะไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ
ปรัชนันท์ นิลสุข และคณะ (2557). กล่าวว่า อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่าย ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์จำนวนมากทั่วโลกเข้าด้วยกัน โดยอาศัยโครงสร้างของระบบสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนข้อมูล และใช้งานรูปแบบต่าง ๆ เป็นเครือข่ายสาธารณะจึงเข้าสู่ เครือข่ายได้อย่างเสรีภายใต้กฏเกณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายจากการเชื่อมต่อของเครือข่ายทั่วโลก
สรุป อินเทอร์เน็ต (internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์จำนวนมากทั่วโลกเข้าด้วยกัน โดยอาศัยโครงสร้างของระบบสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล และใช้งานรูปแบบต่าง ๆ อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะ จึงเข้าสู่เครือข่ายได้อย่างเสรีภายใต้กฎเกณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายจากการเชื่อมต่อของเครือข่ายทั่วโลก
ภาพที่ 2 เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มา :https://www.gotoknow.org/posts/627225
ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทและมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก เพราะทำให้วิถีชีวิตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอข้อมูลข่าวปัจจุบัน และสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศ ที่เสนอในอินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรูปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผู้ใช้ทุกกลุ่ม อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสำคัญสำหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสาร ทั่วโลกก็สามารถอ่านได้ในอินเทอร์เน็ตจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ของหนังสือพิมพ์
ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีความสำคัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจการศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตด้วยกันทั้งนั้น
1. ด้านการศึกษา
สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ เป็นต้น
ภาพที่ 3 อินเทอร์เน็ตด้านการศึกษา
ที่มา: http://std08018.blogspot.com/2016/01/blog-post_99.html
2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์
ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ สามารถซื้อขายสินค้าผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กร ต่าง ๆ สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า การแจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นต้น
ภาพที่ 4 อินเทอร์เน็ตด้านธุรกิจและพาณิชย์
ที่มา:https://onlineoneclick.com/ตัวอย่างรูปแบบธุรกิจ-e-commerce
3. ด้านการบันเทิง
การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป สามารถดูหนัง ฟังเพลงผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ และสามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และภาพยนตร์เก่ามาดูได้
ภาพที่ 5 อินเทอร์เน็ตด้านการบันเทิง
ที่มา: https://sites.google.com/site/powsarinya/dan-kar-bantheing
พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
1) ในต่างประเทศ
พ.ศ.2512 หน่วยงานการวิจัยขั้นสูง (Advanced Research Projects Agency : ARPA) ของกระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สนับสนุนงานวิจัยเทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยช่วงแรกรู้จักกันในนามของเครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูง หรืออาร์พาเน็ต(ARPANET)ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดอินเทอร์เน็ต
พ.ศ.2515 ARPA Net ได้ มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกับมหาวิทยาลัย ชั้นนำ ของอเมริกา คือ มหาวิทยาลัยยูทาห์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ซานตาบาบารา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ลอสแองเจลิส และสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีการใช้ อินเทอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น
พ.ศ.2518 โอนความรับผิดชอบให้กับหน่วยงานการสื่อสารของกองทัพ
พ.ศ.2526 ขยายเครือข่ายและเปิดการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่น โดยใช้เกณฑ์วิธีหรือโพรโทคอลชนิดทีซีพี/ไอพี (TCP/IP)
ภาพที่ 6 เครือข่าย ARPA Net
ที่มาภาพ: http://peeradach52010913375.blogspot.com/2011/04/internet.html
2) ในประเทศไทย
พ.ศ.2530 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย(AIT) ได้เชื่อมต่อเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ของมหาลัยไปยังมหาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งส่งข้อมูลได้ช้าเป็นการเชื่อมต่อแบบชั่วคราว
พ.ศ.2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC) ได้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์มหาลัย5แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย(AIT) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกิดเป็นเครือข่ายเรียกว่า เครือข่ายไทยสาร โดยสำนักวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 9,600 บิตต่อวินาที จากการสื่อสารแห่งประเทศไทย เพื่อเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตที่บริษัท ยูยูเน็ตเทคโนโลยี ประเทศสหรัฐอเมริกา
พ.ศ.2536 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC) เช่าวงจรสื่อสาร 64 บิตต่อวินาที จากการสื่อสารแห่งประเทศไทย ทำให้มีความสามารถส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น และมีหน่วยงานอื่นเชื่อมกับเครือข่ายไทยสารอีกหลายแห่ง เครือข่ายไทยสารจึงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
พ.ศ. 2537 การสื่อสารแห่งประเทศไทยร่วมมือกับบริษัทเอกชน เปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่บุคคล เรียกว่า ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต(Internet Service Provider : ISP)
ภาพที่ 7 ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต(Internet Service Provider : ISP)
ที่มาภาพ: https://sites.google.com/site/atitaya0077/home
ในปัจจุบันประเทศไทยมีเส้นทางการเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง เป็นจำนวนหลายเส้นทางและมีผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider: ISP) เป็นจำนวนมาก
การใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมแนวโน้มที่จำนวนประชากรสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว และมีการคาดการณ์กันว่าสื่อประสม (multimedia) และบริการเครือข่ายสังคม (social networking) ต่าง ๆ เช่น twitter หรือ Facebook จะเข้ามามีบทบาทในการสื่อสารระหว่างคนไทยมากขึ้น
ภาพที่ 8 บริการเครือข่ายสังคม (social networking)
ที่มา : https://sites.google.com/site/technoloinformation/sarsnthes