ประเภทของขลุ่ย

หากพูดถึงขลุ่ย คนทั่วไปมักคิดว่ามันก็แค่ขลุ่ยนี่นา แต่จริงๆ แล้ว ขลุ่ยแบ่งเป็น 2 หมวดใหญ่ๆ ได้แก่ ขลุ่ยหมวดไทยเดิม และ ขลุ่ยหมวดเสียงสากล

ขลุ่ยหมวดไทยเดิม

ขลุ่ยในหมวดไทยเดิม มีด้วยกัน 7 ชนิด ดังนี้

1. ขลุ่ยหลิบ บางภาคเรียกขลุ่ยหลีก เสียงจะออกสูงกว่าขลุ่ยเพียงออ 4 เสียง ประมาณเสียง โด ของขลุ่ยหลิบ เท่ากับเสียง ฟา ของขลุ่ยเพียงออ ขลุ่ยหลิบนิยมเป่ากับวงมโหรี ชนิดเครื่องคู่ อธิบายเพิ่มเติม เครื่องคู่ คือการบรรเลงเครื่องดนตรีคู่แค่ 2 ชนิด เช่น ขลุ่ย คู่กับ ตะโพน เป็นต้น และนิยมนำขลุ่ยหลิบมาใช้ในวงเครื่องใหญ่ หรือเครื่องสาย ขลุ่ยหลิบเลาจะเล็กๆ น่ารักเชียวละครับ

2. ขลุ่ยเพียงออ นิยมใช้เป่ากันอย่างแพร่หลาย เรียกว่าเป็นเสียงคีย์สากลในดนตรีไทยเลยก็ว่าได้ ลักษณะลำขลุ่ยยาวประมาณสัก 40 - 47 เซนติเมตร มีเสียงกลางๆ นิยมเป่าในวงทั่วไป ส่วนตัวผู้เขียนเองเอาไปเป่าในวงเครื่องสาย

3. ขลุ่ยรองออ มีเสียงต่ำกว่าขลุ่ยเพียงออ 1 เสียง มีลักษณะใหญ่กว่าขลุ่ยเพียงออ ไม่ค่อยเป็นที่นิยม เว้นแต่ว่าวงนั้นๆ ได้นิยมเสียงที่ต่ำกว่าเพียงออ จึงต้องนำขลุ่ยนี้มาใช้ สำหรับผู้หัดใหม่ไม่แนะนำ ให้ฝึกด้วยขลุ่ยรองออ เพราะรูห่างมาก จับยาก

4. ขลุ่ยเคียงออ บางภาคเรียกขลุ่ยกรวด ซึ่งแปลว่าขลุ่ยรับท่อนเพลงนั่นเอง มีเสียงสูงกว่าขลุ่ยเพียงออ 1 เสียง ลักษณะจะเล็กกว่าขลุ่ยเพียงออ ผู้เขียนเองเคยเห็นมันมีความยาวประมาณ 37 - 42 เซนติเมตร ทุกวันนี้หายาก คนไม่นิยม แต่ผมชอบเสียงเคียงออนะ มันไม่ต่ำไม่สูงดีจริงๆ

5. ขลุ่ยอู เป็นขลุ่ยที่มีลักษณะใหญ่โต ผู้เขียนเองเคยเห็นมันมีความยาว 60 - 65 เซนติเมตรเลยทีเดียว ใช้เป็นอาวุธได้เลย เสียงขลุ่ยอูจะต่ำกว่าขลุ่ยเพียงออ 3 เสียง ไว้เป่ารับเพลงบรรเลง ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยม เพราะหาคนเล่นยากมาก ลมต้องดี นิ้วต้องยาวจริงๆ

6. ขลุ่ยออแกน หรือเรียกว่าขลุ่ยคีย์สากลก็ได้ เอาไว้เล่นกับดนตรีสากล

7. ขลุ่ยนก มีเสียงไม่ครบ ใช้เป่าเป็นเพลงไม่ได้ แต่ใช้ทำเสียงนกได้หลายชนิด ไว้ทำเสียงประกอบดนตรี ตามวงลิเกซะส่วนมาก ในภาพแบ่งออกเป็น ขลุ่ยนกกาเหว่า ขลุ่ยนกพอระดก และขลุ่ยนกกางเขน

ขลุ่ยหมวดเสียงสากล

ขลุ่ยเสียงสากลจะมีขลุ่ยคีย์ A B BD C ที่นิยมใช้กัน ขลุ่ยคีย์สากลไว้เล่นกับ ดนตรีสากลได้แทบทุกชนิด ถูกสร้างมาเพื่อให้เล่นร่วมสมัยกับดนตรีชนิดอื่นได้ดีนั่นเอง