ในบทนี้ผมจะแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อ
กล้ามเนื้อทุกคนมีมาตั้งแต่เกิดแล้วละครับ แต่มันจะเล็กจะใหญ่ขึ้นอยู่กับว่า เราใช้งานมันมากแค่ไหน ใช้ในรูปแบบใด และชีวิตประจำวันของเราเอื้อให้มันได้ทำงานยังไง ยกตัวอย่างเช่น คนปั่นสามล้อ กล้ามน่องใหญ่โตมาก หรือคนรับจ้างตัดไม้ กล้ามปีกหลังจะโตมาก หรือคนไม่ทำอะไรเยอะ ไม่มีกล้าม รูปร่างอ้วน แต่แท้จริงเขามีกล้ามนะ แต่มันเล็กและอ่อนแอมาก จนไขมันไปบดบังทำให้มองไม่เห็นกล้ามเลย
หลักการสร้างกล้ามเนื้อจึงค่อนข้างตายตัว ง่ายๆ ก็คือ ใช้งานมันบ่อยๆ จนมันขึ้น หรือแข็งแรงขึ้นนั่นละ หากเราใช้งานกล้ามเนื้อส่วนที่ถูกใช้ย่อมแข็งแรงขึ้นและมีกล้ามมากขึ้น และแน่นอนครับสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงจุดนี้มากที่สุด คือเวทเทรนนิ่งนั่นเองที่สามารถทำให้กล้ามเนื้อถูกฝึกฝน ทั้งตัวได้อย่างเจาะจง ย้ำ!! เจาะจงได้มากกว่ากีฬาชนิดอื่น
แน่นอนครับการที่เรามีกล้ามเนื้อ อันดับแรกก็เพื่อความแข็งแรงทางกายภาพ การออกกำลังกายส่งผลทางตรงด้านความแข็งแรงต่อการ ยก ดัน ยื้อ และทำกิจกรรมเกี่ยวกับพละกำลัง ที่มีสูงกว่าคนปกติ นอกจากนี้กล้ามเนื้อยังคงช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละวันได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นคนที่มีกล้ามย่อมอ้วนยากกว่าคนที่ไม่มี ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะคนที่มีกล้ามเนื้อ ต้องผ่านการออกกำลังกายทุกวันด้วยนั่นเอง ข้อดีอย่างการมีกล้ามยังช่วยชลอความแก่ชราลงได้มากครับ
ลุงด้านซ้ายมือในภาพ ท่านอายุ 64 แล้วนะครับ เป็นคนคุมยิมที่สวนลุมช่วงเช้า ใครอยากให้ท่านเทรนให้มาพบได้เลยครับ ลองนึกภาพคนไม่มีกล้ามไม่ออกกำลังกายที่อายุ 64 เทียบดูสิครับ เห็นความแตกต่างใช่มั้ยล่ะ และท้ายที่สุดกล้ามยังช่วงประคองมวลกระดูกให้เสื่อมช้าลงด้วย เห็นมั้ยครับนอกจากความสวยงามแล้ว กล้ามยังส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ดูดี และได้ประโยชน์ในหลายรูปแบบได้ดีกว่าการไม่มีกล้าม
ปัจจัยการสร้างกล้ามเนื้อ มีหลักการอธิบายง่ายๆ คือ การออกกำลังกายถูกต้อง กินอาหารถูกต้อง และพักผ่อนอย่างเพียงพอ คำเหล่านี้อาจจะดูกว้างเกินไป ผมขออธิบายชัดๆ เมื่อเราออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งจบ เราควรได้รับอาหารที่กล้ามชอบอันดับแรกคือ แป้งดูดซึมไว นั่นคือ ข้าวขาวบ้านเรานั่นเอง เพราะร่างกายเราต้องการพลังงานชดเชยหลังออกกำลังกายไปแล้ว อย่างที่สองคือ โปรตีนจากเนื้อสัตว์
ผมยกตัวอย่างพอให้เข้าใจคร่าวๆ หากคุณมีน้ำหนักตัว 90 กิโลกรัม คุณควรกินโปรตีน 200 กรัมต่อวัน คราวนี้คุณก็มาหักลบกับน้ำหนักตัวคุณได้เลย ส่วนคนอ้วนน้ำหนักตัวเยอะๆ ผมให้กินโปรตีนแค่ 100 กรัมต่อวันพอนะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าผมอ้วน 140 กิโลกรัม ผมต้องกินโปรตีนถึง 300 กรัมเลยเหรอ
ต่อมาเป็นเรื่องของผักผลไม้ กล้ามต้องการทั้งแป้งจากข้าว และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ และยังต้องการผักผลไม้อีกด้วย ถ้าเป็นผัก ผมเชียร์ผักบุ้งครับ กินเยอะๆ เลยยิ่งดี ผลไม้ผมแนะนำสับปะรดกับมะละกอสุก แต่คนอ้วนมากๆ ไม่ควรกินสับปะรดมากนะครับไปเน้นมะละกอสุกดีกว่า เพราะสับปะรดค่อนข้างมีน้ำตาลสูง แต่ก็พอกินได้สัก 2 ชิ้นใหญ่ๆ ต่อวันนะ ส่วนฝรั่ง มะม่วงดิบ กล้วยน้ำว้าสุก จัดได้เต็มที่เลยครับ กล้ามชอบอาหารหลากหลายและอร่อยครับ
สุดท้ายที่กล้ามชอบคือการนอนหลับครับ ไม่ว่าเราจะฝึกมาหนักแค่ไหน กินอาหารดีเพียงใด ถ้านอนต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ก็ไม่ดีนะครับ บางคนหลับลึกไว อาจต้องการแค่ 4 ชั่วโมง ส่วนพวกใช้สเตรอยที่ชอบซุยว่านอนนิดเดียวก็มีกล้าม อันนี้ไปเล่นตรงกองทรายก่อนนะครับ ผมกำลังพูดถึงสายประชาชนคนออกกำลังกายทั่วไป
บทความในโอกาสหน้า ผมจะมาแจกแจงและแนะนำรูปแบบอาหารเป็นแนวทางนะครับ ความรู้ตรงจุดนี้ ผมขออธิบายแค่นี้ก่อนครับ
รอข้อมูลอัพเดท
กลับหน้า "ออกกำลังกายฉบับเข้าใจง่าย"