ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การปรับประยุกต์การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)

ในการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ที่ผ่านมา พบว่า ปัญหาของการจัดการเรียนรู้เกิดจากผู้เรียนขาดทักษะการเชื่อมโยงความรู้เดิมและความรู้ใหม่ จึงทำให้ไม่สามารถสร้างองค์ความรู้ในตนเองได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้อย่างถ่องแท้ และสามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง เนื่องจากการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์ และทักษะคณิตศาสตร์หลายอย่าง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้และสามารถแก้โจทย์คณิตศาสตร์ได้อย่างเป็นขั้นตอน รวมถึงผู้เรียนไม่ได้ค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง เมื่อผู้เรียนเผชิญกับสถานการณ์ที่ต่างจากเดิม จึงไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลต่อการเรียนในรายวิชาคณิตศาสตร์

ด้วยเหตุนี้ผู้สอนจำเป็นต้องปรับวิธีการจัดการเรียนรู้ใหม่โดยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะการเชื่อมโยงความรู้เดิมและความรู้ใหม่ และค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเองด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 ตั้งคําถาม (Learn to Question) ขั้นที่ 2 สืบค้นความรู้/ แสวงหาสารสนเทศ (Learn to search) ขั้นที่ 3 สร้างความรู้ (Learn to Construct) ขั้นที่ 4 สื่อสารและนําเสนอ (Learn to Communicate) ขั้นที่ 5 ตอบแทนสังคม (นําไปใช้สถานการณ์จริงหรือใกล้เคียง) (Learn to Service) อีกทั้งเน้นที่กระบวนการคิดและกระบวนการแก้ปัญหามากกว่าผลลัพธ์หรือคำตอบเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ผู้เรียนได้เผชิญกับปัญหาและคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยการนำเสนอปัญหาปลายเปิดกับผู้เรียนด้วยการตั้งโจทย์สร้างสถานการณ์ขึ้นมาให้ผู้เรียนแก้ปัญหาให้เวลาผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์เอง ซึ่งเป็นวิธีการจัดการเรียนรู้ที่ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง รวมถึงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน

ดังนั้น ครูผู้สอนจึงจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน เรื่อง การแก้ปัญหาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) รายวิชาคณิตศาสตร์ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567

2.1 ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์มัธยมศึกษาของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนหนองกรดพิทยาคม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

2.2 วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด เพื่อนำไปจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษา โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน

2.3 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยประยุกต์แนวคิดการสร้างแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) โดยมีแผนการจัดการเรียนรู้ 38 แผน จำนวน 38 ชั่วโมง

2.4 ให้คณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องในแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) เนื้อหา การเฉลยของตัวอย่าง กิจกรรม และแบบฝึกหัด พร้อมทั้งเสนอแนะ เพื่อปรับปรุง แก้ไข

2.5 นำแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) มาปรับปรุง แก้ไขตามคำแนะนำของคณะครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

2.6 นำแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) ไปใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โดยปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน

2.7 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการนำแผนการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) ไปใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 ในระบบ SGS (ปพ.5) และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในเรื่องใดให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริม สำหรับใช้แก้ไขปัญหาการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ศึกษา และทำการทดสอบใหม่ จนนักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด

2.8 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้ทราบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) และทำแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) 

3.1 เชิงปริมาณ

                  3.1.1 ผู้เรียนร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) ตั้งแต่ระดับผลการเรียน 2.5 ขึ้นไป

3.2 เชิงคุณภาพ

                  3.2.1 ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active learning (5STEPs) อยู่ในระดับมาก