ผลกระทบของเหตุการณ์รุนแรงที่มีต่อเด็ก

ตามข่าวที่ได้ทราบกันในระยะนี้ (และอีกหลายๆครั้งที่คาดว่าจะเกิดในอนาคต) มีเหตุการณ์รุนแรงที่ผลต่อการเสียชีวิตหมู่ หลายครั้้งและแทบทุกครั้งนั้นจะมีเด็กที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเสียชีวิต หรือรอดชีวิตก็ตามผลกระทบที่มีต่อจิตใจของเด็ก เรื่องการตายจะแตกต่างกันในเด็กแต่ละวัย

เด็กจะมีกลไกทางจิตใจตอบสนองต่อเหตุรุนแรงต่อชีวิตต่างกันไป

-ในเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จะยังไม่สามารถบรรยายความรู้สึกต่างๆได้ขัดเจน แต่จะมีการแสดงอาการทางกายมากกว่า เช่น ปวดท้อง ปวดหัว

-บางรายจะมีการคิดจินตนาการแบบเกินความจริง (magical thinking)เกี่ยวกับการกระทำอะไรก็ตามที่เชื่อว่าจะสามารถมีฤทธิ์ป้องกันไม่ให้เกิดภัยร้ายๆกับตัวเองได้

-และเด็กหลายๆคนอาจได้รับบทบาทของการต้องรู้สึกเป็น "ผู้รับผิดชอบ" ต่อเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งเราต่างก็รู้ว่า ไม่ใช่ความผิดหรือความที่ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวของเด็กแม้แต่น้อยนิด

-สื่อมวลชนที่มีมวลข่าวสารของเรื่องราวรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้วหลายๆครั้งบ่อยๆ ทำให้เด็กอาจซึมซาบความรู้สึกดังกล่าวโดยไม่รู้ตัว ผู้ปกครอง ควรลดปริมาณสื่อ และ สาร ที่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงนั้นให้น้อยลง

-พบเด็กไม่น้อยที่เป็นญาติ พี่น้อง เพื่อนของ เด็กที่เสียชีวิตในเหตุการณ์รุนแรง แต่ตัวเด็กเองรอดชีวิต จะมีความรู้สึกผิดต่อเด็กที่เสียชีวิตไป พอๆกับที่ผุ้ใหญ่ในครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตนั้นรู้สึกและอาจสร้างบรรยากาศแห่งความ "รับผิดชอบ" ในครอบครัวให้แก่เด็กโดยไม่รู้ตัว

เด็ก เป็นวัยที่ยังคงต้องเรียนรู้ หลังเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น เราควรสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในบรรยากาศการไปโรงเรียน และให้เด็กไปโรงเรียน ดำเนินวิถีชีวิตอย่างปกติให้เร็วที่สุด ไม่ควรเลี่ยงกิจกรรมตามปกติในวัยของเค้าควรจะทำเพราะ กลัว กังวลต่อเหตุการณ์ร้ายแรงดังกล่าว ซึ่งถ้าเด็กเลี่ยงไปแล้ว จะเป็นการชะงักงันทางพัฒนาการ และไม่สามารถก้าวผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นไปได้