ในประเทศไทย มีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยสามารถแบ่งกลุ่มกฎหมายหลัก ๆ ได้ดังนี้
พระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551:
เป็นกฎหมายที่กำหนดมาตรการเชิงบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหน่วยงานภาครัฐ
กำหนดอำนาจหน้าที่ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในเรื่องการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐในส่วนของฝ่ายบริหาร
พระราชบัญญัติการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (กฎหมายว่าด้วยการฮั้วประมูล):
มุ่งป้องกันและปราบปรามการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
กำหนดให้การกระทำสมยอมราคาในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐเป็นความผิดทางอาญาและมีบทลงโทษ
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542:
เป็นกฎหมายที่มาควบคู่กับ พ.ร.บ. การเสนอราคาฯ โดยมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิด
พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560:
เป็นกฎหมายที่ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้โปร่งใสมากขึ้น
มีบทบัญญัติที่กำหนดให้ต้องมีการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อลดโอกาสในการทุจริต
พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562:
เป็นกฎหมายที่กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกระดับ
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่รัฐยึดมั่นในหลักคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อป้องกันการกระทำที่อาจนำไปสู่การทุจริต
ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน (และประมวลจริยธรรมอื่น ๆ):
เป็นกฎหมายรองที่กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการปฏิบัติของข้าราชการให้เป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรม
อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต (UNCAC):
แม้ไม่ใช่กฎหมายภายในโดยตรง แต่ประเทศไทยเป็นภาคี
เป็นพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตาม โดยมีผลบังคับให้รัฐต้องออกกฎหมายหรือปรับปรุงกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับอนุสัญญาฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อต้านการทุจริตในระดับโลก
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม):
เป็นกฎหมายหลักที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐโดยเฉพาะ
กำหนดอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองที่ทุจริต
ครอบคลุมเรื่องสำคัญ เช่น การแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง, การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม, และการกำหนดความผิดฐาน "ทุจริตต่อหน้าที่"
มาตราสำคัญที่มักถูกอ้างถึง ได้แก่ มาตรา 172 ซึ่งกล่าวถึงการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ และ มาตรา 128 เกี่ยวกับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยไม่ชอบ
ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับแก้ไขล่าสุด):
เป็นกฎหมายพื้นฐานที่กำหนดความผิดและบทลงโทษทางอาญา
มาตราสำคัญในหมวดความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ได้แก่:
มาตรา 147: เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ที่อยู่ในหน้าที่
มาตรา 149: เจ้าพนักงานเรียกรับสินบน
มาตรา 151: เจ้าพนักงานใช้อำนาจโดยทุจริตทำให้เกิดความเสียหาย
มาตรา 157: เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย หรือปฏิบัติโดยทุจริต
[ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต ]
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริตในประเทศไทยมีทั้งหน่วยงานภาครัฐที่เป็นองค์กรอิสระ องค์กรในฝ่ายบริหาร และองค์กรภาคประชาสังคม ดังนี้
เป็นองค์กรอิสระ มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดินของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย
เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษที่มีความซับซ้อน หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ หรือเป็นคดีเกี่ยวกับการทุจริตที่มีมูลค่าสูง
มีบทบาทในการดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวกับการทุจริตที่ ป.ป.ช. หรือ ป.ป.ท. ส่งเรื่องมา
เป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่เกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบโดยเฉพาะ
( องค์กรภาคประชาสังคม )
เว็บไซต์: http://www.anticorruption.in.th/
[ ช่องทางการแจ้งเบาะแสการทุจริต ]
แจ้งด้วยตนเอง: ติดต่อที่สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด
ทางไปรษณีย์: ส่งจดหมายถึง "สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000"
โทรศัพท์สายด่วน: โทร. 1205
เว็บไซต์: แจ้งเบาะแสผ่านระบบแจ้งเบาะแสการทุจริตบนเว็บไซต์ของ ป.ป.ช. ซึ่งมักจะมีแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูลและแนบเอกสาร (ตรวจสอบที่ www.nacc.go.th หรือเมนู "แจ้งเบาะแส")
แจ้งด้วยตนเอง: ที่สำนักงาน ป.ป.ท.
ทางไปรษณีย์: ส่งถึง "สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ" (ดูที่อยู่ล่าสุดบนเว็บไซต์)
โทรศัพท์สายด่วน: โทร. 1206
เว็บไซต์: แจ้งเบาะแสผ่านระบบบนเว็บไซต์ของ ป.ป.ท. (www.pacc.go.th)
แจ้งด้วยตนเอง: ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดทุกจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ
โทรศัพท์สายด่วน: โทร. 1567
ทางไปรษณีย์: ส่งถึง "ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย" หรือ "ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด..."
แจ้งด้วยตนเอง: ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ทางไปรษณีย์: ส่งถึง "กรมสอบสวนคดีพิเศษ"
โทรศัพท์สายด่วน: โทร. 1202
เว็บไซต์: แจ้งเบาะแสผ่านเว็บไซต์ของ DSI (www.dsi.go.th)
เว็บไซต์: ผ่านระบบแจ้งเบาะแสบนเว็บไซต์ของ ACT (http://www.anticorruption.in.th/)
Facebook Page: องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
หากทราบว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนใดกระทำทุจริต และต้องการให้มีการตรวจสอบทางวินัย อาจแจ้งเรื่องโดยตรงต่อผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ผู้นั้นได้ เช่น กระทรวง, กรม, หรือหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น