แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)
ตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
![](https://www.google.com/images/icons/product/drive-32.png)
แบบรายงานข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) ตำแหน่งครู
(ยังไม่มีวิทยฐานะ)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
ผู้จัดทำข้อตกลง
ชื่อ นางสาววีณา นามสกุล เรี่ยวแรง ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ สถานศึกษา โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี
รับเงินเดือนใน อันดับ คศ. อัตราเงินเดือน 22,610 บาท
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ : ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน
ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 15 ชั่วโมงสัปดาห์ดังนี้
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 15 ชั่วโมงสัปดาห์ดังนี้
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ลักษณะงานที่ปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู
องค์ประกอบที่ 1
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย
ในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นท้าทาย
เรื่อง
พัฒนาทักษะทางนาฏศิลป์ โดยการเสริมแรงทางบวก
ผสานกับแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อการแก้ปัญหาพฤติกรรมต่อความสนใจในการเรียนนาฏศิลป์ไทย รายวิชาศิลปะ 3
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
จากประสบการณ์การสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และได้ทำการสำรวจถึงสภาพปัญหาของนักเรียนที่มีพฤติกรรมต่อความสนใจ ในรายวิชาศิลปะ (นาฏศิลป์) สภาพปัจจุบันของนักเรียน มีนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่ตั้งใจเรียนในรายวิชาและขาดความรับผิดชอบในการเรียน ไม่ทำงานที่ได้รับมอบหมาย ทำให้บรรยากาศการเรียนรู้ไม่เอื้อต่อการเรียนการสอน ทำให้เกิดปัญหาในการจัดการเรียนรู้ วิธีหนึ่งที่อาจจะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ คือการเสริมแรงทางบวก เพราะการเสริมแรกทางบวกจะช่วยให้ผู้เรียนมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อการเรียนรู้ และอีกวิธีหนึ่งที่ผู้สอนจะนำมาใช้คือแนวคิดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อให้เป็นการพัฒนาพฤติกรรมและส่งเสริมศักยภาพของผู้เรียน ให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะที่มากขึ้นจกาการเรียนรู้แบบร่วมมือ
2. วิธีการดำเนินการ
2.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2561) หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี และเอกสารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
2.2 ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับหลักการ แนวคิด การเสริมแรงทางบวก และวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ จากเอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.3 สร้างแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเสริมแรงทางบวกผสานกับแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
2.4 ให้หัวหน้ากลุ่มสาระศิลปะ ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา และกิจกรรม พร้อมทั้งขอคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุง แก้ไขให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
2.5 นำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเสริมแรงทางบวกผสานกับแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ ที่ได้ปรับปรุงและแก้ไขแล้วไปจัดพิมพ์ เพื่อนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายต่อไป
2.6 นำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเสริมแรงทางบวกผสานกับแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ ไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย
2.7 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เกิดขึ้นจาก โดยใช้การเสริมแรงทางบวกผสานกับแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ
2.8 ให้นักเรียนตอบแบบสอบถามวัดความพึงพอใจต่อการเรียนโดยแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเสริมแรงทางบวกผสานกับแนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
3. ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 ห้อง รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 350 คน ได้รับการพัฒนาความสนใจในการเรียนนาฏศิลป์ไทย รายวิชาศิลปะ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมีคะแนนเก็บผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม) คิดร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
ตอนที่ 1 ความพึงพอใจต่อครูผู้สอน นางสาววีณา เรี่ยวแรง นักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อครูผู้สอน ในการเรียนนาฏศิลป์ไทย รายวิชาศิลปะ 3 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.93 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ในระดับ มาก เท่ากับ 0.97
ตอนที่ 2 ความพึงพอใจต่อการพัฒนาการแสดงรำวงจากการปฏิบัติรำวงโรงเรียน รายวิชาศิลปะ 3 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.88 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ในระดับ มาก เท่ากับ 0.98
3.1 เชิงคุณภาพ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 ห้อง รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 350 คน ได้รับการพัฒนาทักษะความสามารถในกาแสดงออกทางนาฏศิลป์ไทย และให้ความสำคัญกับวิชานาฏศิลป์ไทยมากขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน และบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ได้ (ตัวอย่างผลงานนักเรียน)
ผลงานท่ารำของห้องเรียน ม. 2 ที่ได้จากประสบการณ์ การเรียนรู้ในคาบเรียนนาฏศิลป์
และระดมความคิดสร้างสรรค์ท่ารำ รวมทั้งการแปรแถว โดยครูเป็นผู้ชี้แนะ
ผลงานการสรุปบทเรียน รำวงคืนสู่เหย้า
จากท่ารำ สู่การบันทึกความรู้ และวิเคราะห์