พระอัสสชิ
เป็นบุตรพราหมณ์แห่งกรุงกบิลพัสดุ เป็นหนึ่งในปัญจวัคคีย์ หลังจากฟังปฐมเทศนาจากพระพุทธเจ้าก็บรรลุธรรม และทำให้อุปติสสะเลื่อมใสจนขอให้แสดงธรรม จนได้ขอบวชเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า
คุณธรรมที่เป็นแบบอย่าง
1. มีความอ่อนน้อมถ่อมตน (จากกการออกตัวต่ออุปติสสะว่าท่านบวชได้ไม่นาน ไม่สามารถแสดงธรรมโดยพิสดารได้ และได้แนะนำให้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า)
2. มีความสำรวม เหมาะสมเป็นแบบอย่างแก่สมณะ
3. เป็นครูที่ดี ถ่ายทอดคำสอนอย่างกะทัดรัด
4. เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
พระอานนท์
พระอานนท์ เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าอมิโตทนะ พระอนุชาของพระเจ้าสุทโธทนะ หลังจากบวชแล้ว ท่านได้ฟังโอวาทของพระปุณณมันตานีบุตร ได้บรรลุโสดาปัตติผล และได้มารับหน้าที่ พุทธอุปัฏฐาก ปรนนิบัติพระพุทธเจ้า ซึ่งก่อนจะรับหน้าที่เป็นพุทธอุปฏฐากได้ทูลขอพร(เงื่อนไข) จากพระพุทธเเจ้า 8 ประการ จนกระทั่งหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 3 เดือน จึงได้บรรลุพระอรหันตผล และท่านบรรลุพระอรหันตผลโดยไม่อยู่ในอริยบถ 4 คือ ยืน เดิน นั่ง นอน นิพพานเมื่อท่านอายุได้ 120 พรรษา ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเอตทัคคะ 5 ประการ ได้แก่ เป็นพหูสูตร มีสติ มีธิติ มีคติ และเป็นพุทธอุปัฏฐาก
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
เป็นผู้ทรงจำธรรมไว้ได้มาก พระอานนท์ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นพหูสูต
เป็นผู้ช่วยระงับความแตกร้าวในพุทธจักร คราวที่พระชาวเมืองโกสัมพีเกิดทะเลาะวิวาทกันเป็นฝ่าย พระพุทธเจ้าทรงตักเตือนก็ไม่สามารถคลายทิฏฐิมานะพระเหล่านั้นลงได้ พระองค์จึงเสด็จไปจำพรรษาในป่าปาลิเลยยกะ ต่อมาพระเหล่านั้นเกิดสำนึกผิดรู้สึกละอายใจ จึงเข้าไปหาพระอานนท์ พร้อมขอร้องให้ท่านพาไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อทูลขอขมา พระอานน์ได้ทำตามจนสามารถระงับความแตกร้าวให้กลับคืนสภาวะปกติได้
เป็นผู้รับภาระในพระพุทธศาสนา ในคราวปฐมสังคายนา ท่านได้ทำหน้าที่วิสัชนาพระธรรม โดยรวบรวมพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้มาจัดเป็นหมวดหมู่ จนปรากฏเป็น พระสุตตันตปิฎก และ พระอภิธรรมปิฎก ให้เราได้ศึกษาจนกระทั่งทุกวันนี้
เป็นผู้สืบต่อพระศาสนา ท่านเป็นผู้มีศิษย์มาก ต่อมาศิษย์ของท่านได้มีบทบาทสำคัญในการทำสังคายนาครั้งที่ 2 คือ พระสัพพกามี พระยสกากัณฑบุตร และพระเรวตะ เป็นต้น แสดงถึงความเป็นผู้มีอัธยาศัยไมตรีที่เพียบพร้อมดีงาม ทำให้มีผู้เคารพเลื่อมใสและแสดงตนเป็นศิษย์จำนวนมาก
พระอนุรุทธะเถระ
พระราชโอรสพระเจ้าอมิโตทนะ ออกบวชเพราะหนีความลำบากจากการครองเรือน เป็นไม่่เคยได้ยินคำว่าไม่มี เอตทัคคะ ด้านทิพยจักขุ
คุณธรรมที่เป็นแบบอย่าง
1. มีความพากเพียรยิ่ง
2. มีความมักน้อย (แสวงหาผ้าบังสุกุลมาทำจีวร)
3. เป็นหลักแห่งพระธรรมวินัย
พระองคุลิมาล
เป็นบุตรของพราหมณ์ปุโรหิตแห่งสำนักพระเจ้าปเสนทิโกศล เกิดใต้ฤกษ์ดาวโจร จึงได้ชื่อว่า อหิสกะ แปลว่าผู้ไม่เบียดเบียน เล่าเรียนที่สำนักทิศาปาโมกข์ จนเป็นที่รักของครูจนเพื่อน ๆ อิจฉาจึงใส่ร้ายจนอาจารย์หลงเชื่อ จึงหลอกให้ไปฆ่าคนให้ได้ 1000 คน จนได้ชื่อว่า องคุลิมาล แปลว่า ผู้มีนิ้วเป็นพวงมาลัย พระพุทธเจ้าเสด็จไปห้ามก่อนจะฆ่ามารดา จนได้บวชในพระพุทธศาสนา
คุณธรรมที่เป็นแบบอย่าง
1. มีขันติธรรมยิ่ง
2. ต้นคดปลายตรง
3. มีเมตตากรุณามา
พระกีสาโคตรมี
เป็นธิดาของตระกูลที่เก่าแก่ตระกูลหนึ่งในกรุงสาวัตถี วันหนึ่งเดินไปที่ตลาดได้พ่อค้าคนหนึ่งนำเอาทองมากองไว้ จึงเข้าไปถามว่าทำไมนำทองมาขาย เศรษฐีจึงให้นางหยิบถ่านก็กลายเป็นทองทั้งหมด เศรษฐีจึงไปสู่นางแต่งงานกับบุตรชายของตน และมีบุตรชายแต่อยู่ได้ไม่นาน บุตรน้อยของนางก็เสียชีวิตกระทันหัน นางร่ำไห้เสียใจ จนสติฟั่นเฟือนครึ่งบ้า ไม่ยอมให้ใครเผาศพลูกชาย จนมีคนแนะนำให้ไปพบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสให้นางไปเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดมาสักกำมือหนึ่ง และต้องเอามาจากบ้านเรือนที่ไม่มีใครตาย เมื่อได้มาแล้วพระองค์จะทำยาให้ นางกีสาโคตมีอุ้มลูกไปเที่ยวขอเมล็ดพันธุ์ผักกาดจากชาวบ้านทั่วทุกครัวเรือน ไม่ได้แม้แต่เมล็ดเดียว เนื่องจากแต่ละครัวเรือนก็มีคนตายมาแล้วทั้งสิ้น จนในที่สุดนางก็ได้สติกลับคืนมาและคิดได้ว่าความตายนั้นไม่ใช่ตายเฉพาะลูกเราคนเดียว คนอื่นก็ตายด้วย เมื่อคิดได้ปัญญาจึงเกิด พระพุทธเจ้าจึงแสดงธรรมให้ฟังสั้น ๆ ก็บรรลุโสดาปัน และขอบวชเป็นพระภิกษุณี ต่อมาก็บรรลุพระอรหันต์ ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่า เอตทัคคะ (ความเป็นเลิศกว่าผู้อื่น) ในทางทรงจีวรเศร้าหมอง
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
1. มีความเคารพน้อบน้อม
2. มีความคิดฉับไว
3. เป็นครูที่ดีของสตรี
4. มีชีวิตที่เรียบง่าย
พระธัมมทินนาเถรี
เป็นชาวเมืองราชคฤห์ แต่งงานกับวิสาขเศรษฐี สหายพระเจ้าพิมพิสาร สามีเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าครั้งแรกก็บรรลุธรรมขั้นโสดาบัน ต่อมาเมื่อบรรลุธรรมขั้นอนาคามี สามีก็ไม่แตะต้องตัวนางทำให้ข้องใจจนทราบความจริง จึงเกิดความเลื่อมใสขอฟังธรรมและบวชจากพระพุทธเจ้า ต่อมาก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์
เอตทัคคะ ภิกษุณีที่มีความเป็นเลิศด้านธรรมกถึก
คุณธรรมที่เป็นแบบอย่าง
1. มีปัญญาและใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาชีวิต
2. มีจิตใจใฝ่หาความดี
3. มีความมุ่งมั่น
4. ทำให้คนเกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น
พระปฏาจาราเถรี
เป็นธิดาของมหาเศรษฐีในเมืองสาวัตถี แอบคบหาเป็นภรรยาและชวนกันหนีไปกับชายซึ่งเป็นคนรับใช้ในบ้าน เมื่อตั้งครรภ์บุตรคนที่ 1 ก็แอบหนีสามีไปยังบ้านของบิดามารดาเพื่อคลอดบุตร แต่ก็คลอดลูกระหว่างทางสามีตามไปเจอก็พากันกลับ ไม่นานนักนางก็ตั้งครรภ์อีก จึงอ้อนวอนสามีเหมือนครั้งก่อน แต่สามีก็ยังคงไม่ยินยอมเช่นเดิม นางจึงอุ้มลูกคนแรกหนีออกจากบ้านไป จนสามีจะตามมาทัน สุดท้ายสามีถูกงูกัดตาย ลูกคนเล็กเพิ่งคลอดก็ถูกเหยี่ยวโฉบไป ลูกคนโตก็ถูกน้ำพัดหายไป และเมื่อเดินทางมุ่งหน้าสู่บ้านเรือนของบิดามารดาก็ทราบว่าพ่อแม่และพี่ถูกปราสาทพังล้มทับตายพร้อมกันหมด นางก็เลยขาดสิตสัมปชัญญะไม่รู้สึกตัวว่าผ้านุ่งผ้าห่มที่นางสวมใส่อยู่หลุดลุ่ยลงไป เดินเปลือยกายเป็นคนวิกลจริตร้องไห้บ่นเพื่อรำพันเซซวนคร่ำครวญเหมือนคนบ้า จนได้พบพระพุทธองค์ซึ่งทรงแสดงธรรมอยู่ท่ามกลางพุทธบริษัท จึงตรัสเตือนให้สติ หลังจากได้ฟังธรรม ก็บรรลุโสดาบัน แล้วบวชเป็นภิกษุณี ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัตผล เอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลายในฝ่าย ผู้ทรงพระวินัย
คุณธรรมที่เป็นแบบอย่าง
1.ไม่มีฐิติมานะในทางดื้อรั้น
2. มีวิริยะอุตสาหะ
3. แนะนำการแก้ปัญหาชีวิตให้แก่ผู้ที่เดือดร้อน
หมอชีวกโกมารภัจจ์
เป็นบุตรของนางสาลวดี หญิงนครโสเภณี ในเมืองราชคฤห์ ถูกนำมาทิ้งที่กองขยะ เจ้าชายอภัยราชกุมาร ผู้เป็นโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร ได้เจอจึงเก็บมาเลี้ยงไว้ และตั้งชื่อว่า ชีวก (ผู้มีชีวิตอยู่) และมีนามต่อท้ายว่า โกมารภัจจ์ (ผู้ที่พระราชกุมารนำไปเลี้ยงไว้)
ชีวกโกมารภัจจ์ได้ศึกษาวิชาแพทย์ที่สำนักทิศาปาโมกข์ เมืองตักกศิลาใช้เวลาศึกษา 7 ปี จึงสำเร็จและกลับมายังเมืองราชคฤห์ ระหว่างทางที่จะกลับ ได้ทำการรักษาเศรษฐี คหบดี และคนทั่วไป จนได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเมืองราชคฤห์ ก็ได้นำรางวัลค่าตอบแทนที่ได้ถวายเจ้าชายอภัย ซึ่งเจ้าชายก็มอบคืนให้ พร้อมกับสร้างบ้านพักแก่ชีวกโกมารภัจจ์ในพระราชวังนั้น และได้ถวายการรักษาพระเจ้าพิมพิสาร พระพุทธเจ้าและได้ทูลถามปัญหาข้อข้องใจในธรรมะจากพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ จนบรรลุโสดาบัน
เอตทัคคะ เป็นอุบาสกผู้เลิศในด้านมีความเลื่อมใส
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
1. ใฝ่รู้และมีความพากเพียร
2. เป็นผู้มีความเสียสละ
3. เป็นอุบาสกที่ดี
4. ความกตัญญู
จิตตคหบดี
จิตตคฤหบดี เป็นบุตรเศรษฐี ที่เมืองมัจฉิกาสัณฑะ แคว้นมคธ ตอนเกิดมีดอกไม้หลากสีตกลงทั่วเมือง จึงได้ขนานนาม จิตตกุมาร แปลว่ากุมารผู้น่าพิศวง เห็นอิริยาบถสงบเสงี่ยมเรียบร้อยของพระมหานามะจึงเกิดศรัทธาเลื่อมใสรับบาตรของพระเถระแล้วนิมนต์มายังเรือนของตน ถวายภัตตาหาร แล้วสร้างกุฏีถวายและนิมนต์ให้อยู่จำพรรษาชื่อว่า “อัมพาตการาม” และได้ฟังธรรมเนือง ๆหลังจากฟังธรรมเรื่องอายตนะ 6ก็ได้บรรลุธรรมขั้นพระอนาคามี และชักนำชาวเมืองมัจฉิกาสัณฑะประมาณ 2000 คน ร่วมเดินทางไปบริจาคทานและเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
เอตทัคคะ เลิศกว่าอุบาสกอื่น ด้านธรรมกถึก
คุณธรรมที่เป็นแบบอย่าง
1. เคารพพระสงฆ์มาก
2. เป็นคฤหัสถ์ในอุดมคติ คือศึกษาธรรมจนแตกฉาน ชอบสนทนาธรรม ใจบุญสุนทาน
3. รู้จักการให้อภัยและขออภัยผู้อื่น
นายสุมนมาลาการ
เป็นชาวเมืองราชคฤห์ มีหน้าที่นำดอกมะลิ ไปถวายพระเจ้าพิมพิสารทุกวัน เช้าวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังถือดอกไม้จะเข้าประตูเมือง เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จออกบิณฑบาตพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เกิดความเลื่อมใส จึงนำดอกไม้ที่จะถวายพระราชาบูชาพระพุทธเจ้า เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทราบจึงตรัสยกย่องสรรเสริญเขาว่าเป็นมหาบุรุษ แล้วพระราชทานสิ่งของ 8 ชนิด ได้แก่ ช้าง ม้า ทาส ทาสี เครื่องประดับ นารี อย่างละแปด และทรัพย์อีก 8 พันกหาปณะ และบ้านส่วยอีก 8 ตำบล
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
1. แบบอย่างเรื่องความสียสละ
2. ซื่อสัตย์จริงใจ
3. รู้จักตัดสินใจอย่างฉับไวบนพื้นฐานความถูกต้อง
พระนางมัลลิกา
เป็นภรรยาของพันธุละ เสนาบดีแห่งแคว้นโกศล ตอนแรกไม่มีบุตรสามีให้กลับไปบ้านเกิดที่กุสินารา เลยไปกราบลาพระพุทธเจ้าซึ่งพระพุทธองค์ทรงยับยั้งไม่ให้กลับ หลังจากนั้นจึงมีลูกชายฝาแฝด 16 คู่ 32 คน ต่อมาสามีและลูกได้ถูกพระเจ้าปเสนทิโกศลออกอุบายให้ไปปราบโจรที่ชายแดน แล้วลอบสังหาร เพราะพระองค์หลงเชื่ออำมาตย์ที่คอยยุแยง ขณะที่วันเกิดเหตุนางมัลลิกาได้นิมนต์พระสงฆ์ มาฉันอาหารที่บ้าน โดยมีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะมาเป็นประธาน หลังจากทราบข่าวร้ายนางได้ระงับความเศร้าโศรกและยังคงถวายอาหารตามปกติ พระสารีบุตรจึงเทศนาสั่งสอนว่า”ชีวิตในโลกนี้ไม่มีเครื่องหมาย ระยะเวลาที่ดำรงอยู่ก็แสนสั้น การดำรงชีวิตอยู่ให้ราบรื่นก็แสนลำบาก มีความทุกข์มาก ฉะนั้นจึงอย่าประมาทในการใช้ชีวิต” และนางยังสอนสะใภ้ทั้ง 32 คนว่าสามีทั้งหลายไม่มีความผิดแต่เป็นเพราะกรรมในปางก่อนให้ผล ให้คลายความเศร้าโศรกและไม่อาฆาตพยาบาท
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
1. เป็นภรรยาที่ดีและมารดาที่ดี
2. เป็นชาวพุทธที่ดี
3. เป็นผู้มีสัมปชัญญะและความอดทนสูง
4. เป็นผู้ไม่คิดอาฆาตพยาบาท
5. เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง
นางจูฬสุภัททา
เป็นธิดาของเศรษฐีชื่อว่า อนาถบิณฑิก ชาวเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ได้แต่งงานกับบุตรอุคคเศรษฐีและได้ย้ายไปอยู่บ้านสามีซึ่งนับถือชีเปลือย เมื่ออุคคเศรษฐีได้กระทำการมงคลจึงได้เชื้อเชิญพวกชีเปลือยมาทานอาหารที่บ้าน ซึ่งนางไม่ยอมไหว้พวกชีเปลือย อุคคเศรษฐีจึงโกรธและให้ภรรยาถามถึงสมณะที่นางนับถือ นางจึงได้พรรณนาคุณของพระพุทธเจ้าและเหล่าพระสาวก จนเมื่อภรรยาของเศรษฐีได้ฟัง ก็เกิดความเลื่อมใส
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
1. มีความกตัญญูกตเวที
2. เป็นผู้มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง
3. เป็นผู้มีเหตุผล
4. รู้จักวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา