Stingray envenomations
ปลากระเบน (Stingrays)
เป็นปลากระดูกอ่อนที่อาศัยอยู่ตามพื้นน้ำ มีรูปร่างแบน ไม่มีครีบหลัง หางอาจมีสันเดียวหรือมากกว่าหนึ่งสัน ช่องเหงือก (gill slit) อยู่ที่ผิวด้านท้องของช่วงหัว ฟันเป็นแผ่นบดบนล่าง (crushing plates)
ปลากระเบนน้ำเค็ม
อยู่ในสกุล Dasyatidae มีถิ่นอาศัยในทะเลทางซีกโลกเหนือ แต่ก็พบได้บริเวณน้ำกร่อยหรืออ่าว ส่วนปลากระเบนน้ำจืด ซึ่งเป็นพวกที่มีพิษ จัดอยู่ในอีกสกุล คือ Potamotrygonidae มีถิ่นอาศัยในทะเลสาบและแม่น้ำทางซีกโลกใต้ เช่น แถบทวีปอเมริกาใต้ ในไทยปัจจุบันได้รับความนิยม นำมาเลี้ยงสวยงามกันมากขึ้น
ปลากระเบนมักซ่อนครึ่งตัวตามพื้นทรายหรือโคลนในเขตชายฝั่งที่มีอุณหภูมิอบอุ่น โดยธรรมชาติจะไม่มาทำร้ายคน คนส่วนใหญ่ที่สัมผัสกับพิษปลากระเบนมักเกิดจากเผลอเหยียบปลากระเบนในพื้นทราย ทำให้ปลาโจมตีโดยใช้หางตามกลไกป้องกันตัว
ตำแหน่งอาวุธพิษ
ที่หางของปลากระเบนมีหนามรูปตะขอ (barbed stingers) อันเดียวหรือมากกว่าหนึ่งอัน และมีร่องใต้หนังซึ่งมีพิษบรรจุอยู่ 2 ร่องที่ซ้ายและขวาของหางด้านท้อง ผู้ที่สัมผัสกับพิษของปลากระเบนมักมีบาดแผลถูกแทงเป็นจุด หรือบาดแผลฉีกขาดลึกที่เท้าหรือขาใต้เข่าเนื่องจากถูกหางปลากระเบนซึ่งเป็นซี่เลื่อย
อาการและบาดแผล
ผู้ที่เป็นแผลฉีกขาดจากหางปลากระเบนมักมีเลือดไหลไม่หยุด และ อาจมีอาการทางระบบ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง เหงื่อออกมาก กล้ามเนื้อเป็นตะคริว ปวดท้อง ชัก ความดันเลือดตก หมดสติชั่วคราว (เป็นลม)
การดูแลรักษา
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
*** รีบแช่ส่วนของร่างกายที่เกิดบาดแผลในน้ำร้อน
ระดับความร้อน
ลองเอาส่วนที่ปกติแช่น้ำร้อนก่อนเพื่อประเมิน ต้องไม่ร้อนจนทำให้ผิวหนังไหม้ (ประมาณ 45-50 องศาเซลเซียส) หรือ ปะคบด้วยกระเป๋าน้ำร้อน เนื่องจากความร้อนจะช่วยลดความเจ็บปวดได้อย่างรวดเร็ว
สันนิษฐานว่าความร้อนทำให้พิษของปลากระเบนซึ่งเป็นโปรตีนเสียสภาพ และ/หรือ ความร้อนลดการนำกระแสประสาท
การดูแลเมื่อถึงห้องฉุกเฉิน
1.ไม่มียาต้านพิษปลากระเบนโดยตรง
2.การดูแลจะเป็นแบบรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้ปวด ยาแก้อาเจียน ยาแก้ปวดเกร็งท้อง เป็นต้น นอกจากนี้แพทย์บางท่านอาจฉีดยาชา (เช่น Lidocaine, Bupivacaine) รอบๆ แผล
3.การรักษาที่สำคัญและง่าย คือ แช่ส่วนของร่างกายที่เกิดบาดแผลในน้ำร้อน (ประมาณ 45-50 องศาเซลเซียส) ต่อไปอีก 30-90 นาที โดยควรเปลี่ยนน้ำร้อนบ่อยๆ เมื่ออุณหภูมิของน้ำลดลง
4.หลังจากแช่น้ำร้อนจนอาการปวดดีขึ้นมากแล้ว จึงเริ่มดูแลแผลฉีกขาด โดยควรตรวจบริเวณแผล เพื่อหาหนามรูปตะขอของหางปลาที่อาจหักคาอยู่ หากพบสิ่งแปลกปลอมในแผล เช่น หนามหางปลา ทราย โคลน ให้นำออกให้หมด โดยทั่วไปไม่ต้องเย็บแผลเนื่องจากมักเป็นแผลขนาดเล็ก ยกเว้นแผลขนาดใหญ่หรือเป็นรอยแยกให้เย็บแผลไว้หลวมๆ
5. พิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก
6. พิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากในแหล่งน้ำจืดมักมีเชื้อแบคทีเรียจำพวก Staphylococcus, Streptococcus, Aeromonas และในน้ำทะเลมักมีเชื้อแบคทีเรียจำพวก Vibrio จึงควรเลือกใช้ยาปฏิชีวนะที่ครบคลุมเชื้อเหล่านี้ ได้แก่ Quinolones (เช่น Ciprofloxacin, Levofloxacin), Doxycycline, Trimethoprim/Sulfamethoxazole (Bactrim), Cephalexin, Cefuroxime, Cefixime เป็นต้น โดยนิยมให้ทางการกินในระยะสั้นๆ เช่น 5 วัน
การแนะนำผู้ป่วยก่อนให้กลับบ้าน
1.โดยทั่วไปแผลมักหายปวดภายใน 24-48 ชั่วโมง ควรจ่ายอุปกรณ์ล้างแผลให้แก่ผู้ป่วยสำหรับดูแลแผลเองที่บ้าน แนะนำให้รับประทานยาปฏิชีวนะที่รับไปอย่างต่อเนื่องจนหมด
2.แนะนำให้ระวังแผลติดเชื้อ เช่น แผลมีหนองหรือมีกลิ่นเหม็น, ปวดแผลหรือแผลบวมมากขึ้น, มีไข้สูง, แผลไม่หายภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยหากมีอาการเหล่านี้ให้กลับมาโรงพยาบาล
สูตรการดูแลรักษาของ ชาวเล-ชาวเรือ
ชาวเรือ บอกว่า เมื่อถูกพิษปลากระเบนตำ ให้เอาน้ำสมสายชูผสมกับน้ำอุ่นแช่จะช่วยลดความเจ็บปวดและหาย
ชาวเรือ บอกว่า ให้เอาน้ำร้อนประคบ เอาแผลไปอั้งไฟ ไดร์เป่าผม น้ำอุ่น ฝักบัวเครื่องทำน้ำร้อนลาดเลย
REF.