กฎการอ่านโน้ต
โน้ต 1 ตัว แทนเสียง 1 เสียง ความยาวของเสียงดูได้จากลักษณะของตัวโน้ตว่าเป็นโน้ตแบบไหน
เช่น โน้ตตัวดำ โน้ตตัวขาว โน้ตตัวกลม เป็นต้น ส่วนการดูระดับเสียงของตัวโน้ต ดูได้จากตำแหน่งของตัวโน้ตบนบรรทัดห้าเส้น โดยในการอ่านโน้ตมีกฎอยู่ 4 ข้อดังนี้ครับ
กฎข้อที่ 1 อ่านโน้ตจากซ้ายไปขวา
เหมือนการอ่านหนังสือ การอ่านโน้ตเราจะอ่านจากซ้ายไปขวา เมื่อจบแถวก็ขึ้นบรรทัดใหม่และอ่านจากซ้ายไปขวาเช่นเดิมไปเรื่อยๆ จนจบเพลง
กฎข้อที่ 2 ยิ่งสูงยิ่งไปทางขวา ยิ่งต่ำยิ่งไปทางซ้าย
ยิ่งสูงยิ่งไปทางขวา แปลว่า โน้ตยิ่งอยู่สูงบนบรรทัดห้าเส้น เสียงจะยิ่งสูงและคีย์ที่เราจะกดบนเปียโนยิ่งอยู่ทางขวา
ยิ่งต่ำยิ่งไปทางซ้าย แปลว่า โน้ตยิ่งอยู่ต่ำบนบรรทัดห้าเส้น เสียงจะยิ่งต่ำและคีย์ที่เราจะกดบนเปียโนยิ่งอยู่ทางซ้าย
ยิ่งสูงยิ่งไปทางขวา
ยิ่งต่ำยิ่งไปทางซ้าย
กฎข้อที่ 3 โน้ตขยับครึ่งช่อง เท่ากับขยับ 1 คีย์เปียโน
การขยับขึ้นหรือลงของตัวโน้ตบนบรรทัดห้าเส้น จะขยับทีละครึ่งช่องต่อหนึ่งคีย์ ยกตัวอย่างเช่นหากเรามีโน้ตช่องเบอร์ 2 และโน้ตตัวต่อไปขยับขึ้นไปเป็นโน้ตเส้นเบอร์ 3 โน้ตตัวที่สองเมื่อเทียบกับตัวแรกจะเป็นการขยับคีย์เปียโนไปทางขวาหนึ่งคีย์ และในทางกลับกันหากโน้ตขยับลงครึ่งช่อง จะเป็นการขยับไปทางซ้าย 1 คีย์
ขยับขึ้นทีละ 1 คีย์
ขยับลงทีละ 1 คีย์
NOTE : หากโน้ตขยับจากช่องไปช่อง หรือขยับจากเส้นไปเส้น จะเป็นการกระโดดข้ามคีย์ไป 1 คีย์
กฎข้อที่ 4 กุญแจต่างกัน อ่านโน้ตต่างกัน
เราได้เรียนรู้จากกฎข้อที่ 3 แล้วว่าการขยับโน้ตบนบรรทัดห้าเส้น เราจะขยับทีละครึ่งช่องต่อหนึ่งคีย์ เพราะฉะนั้น หากคิดเล่นๆ ให้เราลองนับจากโน้ตเส้นเบอร์ 1 หรือเส้นล่างสุด ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงโน้ตเส้นเบอร์ 5 หรือก็คือเส้นบนสุดบนบรรทัดห้าเส้น จะมีโน้ตได้ทั้งหมดกี่ตัว? คำตอบคือ 9 ตัว นั่นหมายความว่า เราแทนคีย์บนเปียโนได้ 9 คีย์ จากโน้ตบนบรรทัดห้าเส้น (ไม่รวมเส้นน้อย)
โน้ตเก้าตัวกับคีย์เก้าคีย์
แต่เปียโนมีถึง 52 คีย์ (นับเฉพาะสีขาว) ประกอบกับเวลาเราเล่นเปียโน เราเล่นด้วยมือสองมือและทั้งสองมือเล่นอยู่บริเวณที่แตกต่างกัน หากเทียบกับ Middle C-โด มือขวามักจะเล่นอยู่สูงกว่า Middle C-โด ส่วนมือซ้ายมักจะเล่นอยู่ต่ำกว่า Middle C-โด ดังรูปข้างล่างนี้ครับ
ใช้การอ่านโน้ต 2 แบบที่แตกต่างกันเพื่อให้ครอบคลุมคีย์เปียโนมากยิ่งขึ้น สำหรับมือซ้ายและมือขวา
ดังนั้นเราจะใช้การอ่านโน้ตที่แตกต่างกันสองแบบ เพื่อให้ครอบคลุมคีย์ที่เราจะเล่นมากยิ่งขึ้น โดยแบบนึงจะครอบคลุมโน้ตเสียงสูงที่เล่นด้วยมือขวา และอีกแบบนึงสำหรับโน้ตที่เสียงต่ำกว่าและเล่นด้วยมือซ้าย
โดยการอ่านโน้ตแบบแรกสำหรับมือขวานั้น เมื่อเทียบ Middle C-โดบนเปียโนกับตัวโน้ตที่จะเขียนบนบรรทัดห้าเส้น จะได้โน้ตที่อยู่ด้านล่าง เพื่อให้โน้ตที่สูงขึ้น ๆ ไป เขียนกระจายอยู่บนบรรทัดห้าเส้น และสำหรับการอ่านโน้ตอีกแบบที่ใช้โดยมือซ้าย ตัว Middle C-โด จะเขียนได้เป็นโน้ตที่อยู่ด้านบนของบรรทัดห้าเส้น ด้วยเหตุผลที่ว่า ให้โน้ตที่ต่ำลงไปเขียนอยู่บนบรรทัดห้าเส้น
ในการระบุว่าเรากำลังอ่านโน้ตแบบแรกหรือแบบที่สองนั้น เราจะใช้สัญลักษณ์ที่เรียกว่า กุญแจ เขียนไว้หน้าสุดของบรรทัดห้าเส้น โดยเราจะใช้ กุญแจซอล สำหรับโน้ตเสียงที่สูงกว่าและมักเล่นด้วยมือขวา กับกุญแจฟา สำหรับเสียงที่ต่ำกว่าและเล่นด้วยมือซ้าย
การอ่านโน้ตกุญแจซอล (Treble Clef)
การอ่านโน้ตกุญแจซอล ในการอ่านโน้ต เราต้องจำตำแหน่งของคีย์เปียโนกับตัวโน้ตบนบรรทัดห้าเส้นให้ได้อย่างน้อยหนึ่งตัวก่อน เพราะไม่เช่นนั้นเราจะไม่รู้เลยว่าคีย์เปียโนแต่ละคีย์ตรงกับโน้ตตัวใด เมื่อเราจำได้อย่างน้อยหนึ่งตัว ตัวที่เหลือที่เรายังจำไม่ได้ เราก็ยังสามารถใช้วิธีนับขึ้นหรือนับลงตามกฎข้อที่ 3 ของการอ่านโน้ตได้ แต่ในทางปฎิบัติการที่เราจำโน้ตแต่ละตัวกับคีย์แต่ละคีย์บนเปียโนให้ได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องไล่จะเป็นการดีมาก เพราะจะทำให้เราอ่านโน้ตได้เร็วมาก ซึ่งเราต้องค่อยๆ ฝึกกันต่อไป สำหรับตอนนี้เรามาจำจุดอ้างอิงให้ได้ที่นึงก่อนครับ ซึ่ง วิธีจำที่ง่ายที่สุดมีสองแบบคือ
1.จำตำแหน่งของ Middle C-โด
ดังรูปด้านบนนี้เลยนะครับ สังเกตนะครับว่า ตัวโน้ตของ Middle C-โด สำหรับกุญแจซอลจะอยู่ใต้บรรทัดห้าเส้น
2.จำตำแหน่งของตัว G-ซอล เทียบกับกุญแจซอล
วิธีนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะกุญแจซอลมีลักษณะคล้ายตัว G ทำให้เราจดจำได้ง่าย
การจำตำแหน่งของตัว G-ซอล สำหรับกุญแจซอล เมื่อเราจำได้แล้วอย่างน้อยหนึ่งตัว ตัวที่เหลือเราก็ไล่ขึ้นหรือไล่ลงจากตัวที่เราจำได้ ได้เลยครับ