โรคมะเร็งปากมดลูก

 มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบบ่อยในสตรีไทย พบมากในช่วงอายุ 35-60 ปี มีการดำเนินโรคที่ช้า สามารถตรวจพบแต่เริ่มแรกได้ แต่ที่น่าเสียดายที่ สตรีไทยจำนวนมาก อายแพทย์ไม่มารับการตรวจทำให้สูญเสียโอกาสที่จะค้นพบโรค ในระยะเริ่มแรก    มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่ป้องกันได้ แพทย์สามารถตรวจหา "ระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก" ได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ โดยวิธีการที่ใช้ตรวจหาระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกเรียกว่า การตรวจ แปปสเมียร์ (Pap Smear)

การตรวจค้นพบโรคในระยะแรก

        การตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูก ( Pap smear ) เป็นการตรวจทางเซลล์วิทยาเพื่อการหามะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้น เพื่อการรักษาแต่เนิ่นๆ จึงมีคำจำกัดความว่า ภาวะก่อนมะเร็งและต้องใช้ระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นมะเร็งระหว่าง 2-15 ปี เชื้อไวรัสชนิด Human papillomaviruses (HPV) เชื่อว่าเป็นสาเหตุของการเกิด ภาวะก่อนมะเร็ง และมะเร็งปากมดลูก มี เชื้อไวรัสชนิด HPV มากกว่า 60 ชนิด ซึ่งมากกว่า 10 ชนิดจะติดเชื้อบริเวณ อวัยวะสืบพันธ์ โอกาสเกิดมะเร็งเนื่องจากสัมผัส เชื้อไวรัส มักจะเกิดในช่วงอายุ 20-30 ปี และ ภาวะก่อนมะเร็ง มักจะเกิดในช่วงอายุ 30-40 ปี และ มะเร็งปากมดลูก มักเกิดในช่วงอายุ 50-60 ปี

        พบว่ามากกว่า 50% ของผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูก ไม่เคยตรวจ เช็คมะเร็งปากมดลูก อย่างน้อย 5 ปี และในส่วนที่เหลือ มักจะมีการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกมีผลเป็น ผิดปกติ หรือ ผลลบลวง ผลลบลวงพบได้ประมาณ 20% การตรวจมะเร็งปากมดลูก หลายครั้งจะช่วยลดโอกาสเกิดผลลบลวง โอกาสที่จะเกิดผลลบลวงในตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูก ติดต่อกัน 3 ครั้ง เท่ากับ 0.8%( 0.2 x 0.2 x 0.2 = 0.008 ) เนื่องจากเป็นการตรวจที่ง่าย ราคาถูก สามารถให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป มะเร็งปากมดลูกก็ยังคงต้องการการตรวจหาโรคแต่ระยะแรก เพื่อผลการรักษาที่ดีต่อไป

ภาวะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูก

สัญญาณเตือนภัยมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกรักษาให้หายได้ ถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรก

การเตรียมตัวก่อนรับการตรวจมะเร็งปากมดลูก

        การตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูก(Pap smear) นี้เป็นเพียง การตรวจคัดกรอง ว่ามี ข้อสงสัยหรือข้อชี้นำว่ามีเชื้อมะเร็งหรือไม่ ส่วนการให้การวินิจฉัยว่าเป็นภาวะก่อนมะเร็ง หรือ มะเร็งปากมดลูก คงต้องอาศัยการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ต่อไป ซึ่งมักจะต้องการได้รับ ชิ้นเนื้อบางส่วนของปากมดลูก หรือ ปากมดลูกทั้งหมด ( ในบางกรณี ) แล้วจะได้พิจารณาให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ภาวะก่อนมะเร็ง ยังแบ่งความรุนแรงเป็น 3 ระดับ

ซึ่งจะเป็นการช่วยใน การพิจารณาให้การรักษา และติดตามต่อไป

การรักษาในภาวะก่อนมะเร็งปากมดลูก

        1.การเฝ้าติดตาม ใช้ในกรณีที่ภาวะก่อนมะเร็งระดับน้อย ถึงปานกลาง

        2. การทำลายเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก ได้แก่

        3. การตัดมดลูก มักใช้ในกรณี

อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องติดตามภายหลังการรักษาต่อไป แม้ว่าจะตัดมดลูกแล้ว

ภาวะมะเร็งปากมดลูก

        เมื่อความเปลี่ยนแปลงของปากมดลูกเป็นมาก เปลี่ยนจากภาวะก่อนมะเร็ง เป็น มะเร็ง ซึ่งจะใช้เวลาหลายปี แบ่งระยะได้ 4 ระยะดังนี้

การรักษามะเร็งปากมดลูก

        การรักษาจะใช้วิธีใด ขึ้นกับระยะของโรค ภาวะของผู้ป่วยว่าเหมาะสมแก่การผ่าตัดหรือไม่ โดยทั่วไปการผ่าตัดจะจำกัดอยู่เพียงระยะที่ 1 ส่วนระยะที่เหลือ มักจะต้องใช้ การฉายรังสี ส่วนการใช้ยาเคมีบำบัดในขณะนี้มักจะใช้ร่วมกับการฉายรังสี หรือใช้ในกรณีที่มะเร็งเป็นกลับซ้ำ หลังจากการรักษาวิธีอื่นมาแล้ว

การป้องกันมะเร็งปากมดลูก

ที่มา :  สถาบันมะเร็งแห่งชาติ